เอเยนซี - เปิดฉากเข้มข้นตั้งแต่ต้นปี สำหรับ กอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ 2014 เมื่อบรรดาดาวรุ่งนัดกันโชว์ฟอร์มเยี่ยม ขึ้นมาเบียดลุ้นแชมป์กับซูเปอร์สตาร์รุ่นพี่ที่เครื่องยังไม่ติด ได้อย่างสนุก ทำให้รายการ “ไอเอสพีเอส ฮานดะ วีเมนส์ ออสเตรเลียน โอเพน” ที่จะเปิดฉากวันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ นักกอล์ฟหัวแถวอาจต้องหลีกทางปล่อยให้โอกาสลุ้นแชมป์เทไปอยู่กับโปรสาวยุคใหม่นำโดย “โม” โมรียา จุฑานุกาล ของไทย ส่วน ซูซานน์ เพ็ตเตอร์เซน มือ 2 โลกจากนอร์เวย์ ที่เพิ่งกลับมาแข่งแมตช์แรกของปีมีโอกาสแซงขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก จึงถือเป็นไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ด้วยเช่นกัน
หลังจากประเดิมแมตช์แรกของปี “เพียว ซิลค์ บาฮามาส แอลพีจีเอ คลาสสิก” เมื่อปลายเดือนมกราคม โปรมือท็อปของโลกทั้ง ปาร์ค อินบี จากเกาหลีใต้ และ ซูซานน์ เพ็ตเตอร์เซน ของนอร์เวย์ ยังขอเวลาพักร้อนยาวไม่ลงแข่ง ขณะที่มือ 3 โลกจากเมืองลุงแซมอย่าง สเตซี ลูอิส ฟอร์มยังไม่เข้าที่ ดังนั้นเมื่อเทียบจากสถิติต่างๆ กลุ่มดาวรุ่งอย่าง เจสซิกา คอร์ดา เลือดใหม่ของสหรัฐฯ, ลิเดีย โค โปรป้ายแดงจากนิวซีแลนด์ หรือ โมรียา จุฑานุกาล ความหวังของไทย จึงถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ “ไอเอสพีเอส ฮานดะ วีเมนส์ ออสเตรเลียน โอเพน” ที่ชิงเงินรางวัลรวม 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 36 ล้านบาท) ณ สนาม วิคตอเรีย กอล์ฟ คลับ ประเทศออสเตรเลีย ในสัปดาห์นี้
โดย คอร์ดา ในวัย 20 ปีแจ้งเกิดเต็มตัวปี 2013 เริ่มต้นฤดูกาลนี้ด้วยการกระชากแชมป์ “เพียว ซิลค์ บาฮามาส แอลพีจีเอ คลาสสิก” เมื่อสามสัปดาห์ก่อน ถือเป็นรายการที่ 2 ในการเล่นอาชีพ แม้สถิติการความแม่นยำในการไดร์ฟจะเกินครึ่งมาเล็กน้อยอยู่ที่ 69.6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ยามต้องเล่นลูกสั้นยังทำได้เยี่ยมเก็บไปทั้งสิ้น 26 เบอร์ดี จาก 4 รอบที่ผ่านมา ที่สำคัญออสเตรเลียถือเป็นประเทศที่ถูกโฉลก เพราะเมื่อปี 1998 พีท คอร์ดา คุณพ่อของเธอที่เป็นอดีตนักเทนนิสก็เคยคว้าแกรนด์สแลม “ออสเตรเลียน โอเพน” มาแล้ว
ฝั่งคู่แข่งอย่าง ลิเดีย โค ถูกจับตามองไม่แพ้กันกับการลงแข่งในฐานะนักกอล์ฟอาชีพปีแรก แมตช์ล่าสุดจบที่ 7 ร่วม แต่มีสถิติการตีออนกรีนถึง 83.3 เปอร์เซ็นต์ เวลานี้ในทัวร์เป็นรองเพียง มิเชล วี โปรอเมริกัน กับ ชอย นายอน มือ 5ของโลกจากเกาหลีใต้ และเมื่อเทียบเป็นตัวเลขแมตช์ที่ผ่านมาเจ้าหนูมหัศจรรย์จากแดนกีวี พัตต์ไป 102 ครั้ง จากการตีขึ้นกรีน 60 ครั้ง เฉลี่ย 1.7 ครั้งต่อหลุม หากสัปดาห์นี้สถิติพัตต์ลดลงโปรวัย 16 ปี มีสิทธิ์แย่งความดังจากเหล่ารุ่นพี่ไปอีกรายการ
ขณะที่ความหวังของแฟนกอล์ฟชาวไทย “โปรโม” เจ้าของรางวัลรุคกีแห่งปี 2013 ที่ปัจจุบันรั้งมือ 82 ของโลก ตั้งเป้าเป็นแชมป์ให้ได้กับการเล่นปีที่ 2 ในเวทีแอลพีจีเอ ทัวร์ โดยต้องยอมรับว่าชั่วโมงนี้ โมรียา มีสถิติพัตต์เฉลี่ยต่อหลุมดีที่สุดในทัวร์ กับการตีขึ้นกรีน 45 ครั้ง พัตต์ไป 72 ครั้ง เฉลี่ยเพียง 1.6 ครั้งต่อหลุม ดีกว่าแชมป์แมตช์ล่าสุดอย่าง คอร์ดา หรือแม้แต่ “พิงแพนเธอร์” พอลลา ครีมเมอร์ ขวัญใจอเมริกันชนที่ตามมาในอันดับ 2 และ 4 โดยสิ่งที่ต้องแก้ไขของก้านเหล็กไทยคือการคุมสมาธิในการแข่งรอบแรก เนื่องจากสถิติที่ผ่านมาของปีที่ก่อน มักฟอร์มหลุดตีเสียในวันแรกทำให้ต้องเหนื่อยไล่ผู้นำในช่วงท้าย
ส่วนดาวรุ่งที่เข้ามาเป็นแคนดิเดตลุ้นแชมป์อีกคนอย่าง เรียว โซยอน เจ้าของรางวัลรุคกีปี 2012 จากแดนกิมจิที่ห่างหายจากความสำเร็จไปนาน โดยเธอยังเก็บตัวซ้อมอยู่ที่บ้านเกิดรอแข่งแมตช์แรกของปีในสัปดาห์นี้ ก็เริ่มกลับมาคืนฟอร์มตั้งแต่ 2 รายการสุดท้ายของปี 2013 จบที่ 3 และ 9 ร่วมตามลำดับ รวมถึง ชายแอนน์ วูดส์ หลานสาวของ ไทเกอร์ วูดส์ โปรกอล์ฟซูเปอร์สตาร์สหรัฐฯ ซึ่งกำลังเป็นประเด็นหลังปลดล็อกแชมป์แรกในอาชีพ “วอลวิก อาร์เอซีวี เลดีส์ มาสเตอร์ส” แมตช์ของ ออสเตรเลียน แอลพีจีเอ ทัวร์ เมื่อสัปดาห์ก่อนโดยจะได้รับเชิญลงแข่งในรายการนี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของทัวร์นาเมนต์จะที่พลาดไม่ได้กับการเปิดฤดูกาลของ เพ็ตเตอร์เซน เจ้าของสถิตินักกอล์ฟหญิงที่ติดมือท็อป 10 ของโลกนานสุด 349 สัปดาห์ ที่รอโอกาสขึ้นเป็นมือ 1 โลกสัปดาห์นี้มีลุ้นแซง ปาร์ค อินบี นั่งบัลลังก์ โดยมีแต้มห่างเพียง 0.27 แต้มเท่านั้น (อินบี จะลงแข่งแมตช์แรกของปีในสัปดาห์หน้า ศึกฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์) ซึ่งโจทย์หินของโปรวัย 32 ปีคือต้องดับความร้อนแรงของโปรสาวรุ่นน้องคว้าแชมป์มาครองให้ได้ หรือจบอันดับที่ 2 เป็นอย่างน้อย