"เสธ.ยอด" พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาแห่งชาติ เผยทุ่มงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท จัดเตรียมแผนเก็บตัวนักกีฬาหนุนหลัง 6 สมาคม อาทิ มวยสากล,เทควันโด,ยกน้ำหนัก,แบดมินตัน,ยิงปืน และยิงเป้าบิน ล่าเหรียญทองการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 31 "ริโอ เดอ จาเนโร 2016"
เมื่อเวลา 14.00 น. วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม ชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มีการประชุมแผนเตรียมโอลิมปิก 2016 เพื่อส่งต่อ กกท. และกระทรวงการคลัง โดยมี พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ ร่วมกับ น.พ.มีชัย อินวู๊ด, ศ.เจริญ วรรธนะสิน และผู้แทนจากสมาคมต่างๆเข้าร่วมโดย "เสธยอด" ประธานในที่ประชุม กล่าวถึงโครงการศึกษาทางไกลผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ "จากการที่ได้เล็งเห็นความสำคัญเรื่องการศึกษาของเยาวชน โดยการดำเนินการของสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นฯ ซึ่งมีศูนย์เก็บตัวอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ได้เปิดเป็นศูนย์การศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการศึกษาควบคู่ไปกับกีฬา และเห็นสมควรให้เป็นต้นแบบกับสมาคมกีฬาอื่นๆ ต่อไปด้วยเพื่อที่นักกีฬาจะได้มีความรู้ติดตัว"
โดยที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าโครงการเตรียมความพร้อมนักกีฬาทีมชาติไทย สำหรับการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่31 ณ นครริโอ เดอ จาเนโร ปี 2016 ซึ่ง "เสธ.ยอด" กล่าวว่า "โครงการดังกล่าวได้ให้แต่ละสมาคมส่งแผนเตรียมทีมนักกีฬาสู่โอลิมปิกเกมส์ 2016 ทั้งนี้มีส่งเข้ามาแล้ว 18 สมาคม ได้แก่ มวยสากล, ยกน้ำหนัก, เทควันโด, ยิงปืน, ยิงเป้าบิน, กรีฑา, จักรยาน, วอลเลย์บอล, เรือพาย, ว่ายน้ำ, ยิงธนู, เทเบิลเทนนิส, ยูโด, ฟันดาบ, มวยปล้ำ, ฟุตบอล, ยิมนาสติก และรักบี้ฟุตบอล โดยได้แบ่งกลุ่มกีฬาออกเป็น 3 กลุ่มคือ สมาคมควางหวัง สมาคมเข้าร่วม และสมาคมที่ต้องพัฒนามากขึ้น เพื่อกำหนดวัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการฯ ที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่ม"
"ซึ่งในกลุ่มสามาคมความหวัง มีทั้งสิ้น 6 สมาคม ได้แก่ มวยสากล, เทควันโด, ยกน้ำหนัก, แบดมินตัน, ยิงปืน และยิงเป้าบิน ส่วนสมาคมที่ยังไม่ได้ส่งแผนเตรียมทีมเข้ามาและมีรายชื่ออยู่ในกลุ่มกีฬาต้องพัฒนามากขึ้น ได้แก่ บาสเกตบอล, ฮอกกี้, แฮนด์บอล และไตรกีฬา" นายกสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย กล่าว
ขณะเดียวกัน "เสธ.ยอด" ยังได้เผยงบประมาณในการเตรียมนักกีฬาครั้งนี้มียอดเงินกว่าพันล้านบาท "ขณะนี้ทางสหพันธ์กีฬาได้ของบจากรัฐบาลมาเป็นเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินการเตรียมนักกีฬาชุดโอลิมปิก ระยะเวลา 3 ปี โดยแบ่งเป็นงบประมาณในปี 2557 รวมเป็นเงิน 377,876,920 บาท, ปี 2558 รวม 369,046,260 บาท และปี 2559 รวม 300,031,418 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงินมูลค่า 993,872,418, บาท โดยแบ่งเป็นออกเป็นรายการต่างๆดังนี้ เก็บตัวฝึกซ้อม 254,365,473 บาท, ผู้ฝึกสอน 172,025,000 บาท, อุปกรณ์ฝึกซ้อม 90,084,000 บาท, การส่งแข่งขัน 261,067,865 บาท, เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรอบคัดเลือก 122,789,480 บาท, วิทยาศาสตร์การกีฬา 40,179,000 บาท, สถานที่ 43,251,000 บาท และอื่นๆ อีก 10,110,600 บาท ซึ่งจะยื่นเรื่องเสนอไปยังกกท. และส่งต่อไปให้กระทรวงการคลังพิจารณา"
ด้าน น.พ.มีชัย อินวู๊ด กล่าวถึงการนำวิยาศาสตรการกีฬามาใช้กับนักกีฬาไทยว่า "ตามที่สหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ ร่วมกับ บริษัท ไอเอสเอ็น ประเทศไทย จำกัด กำหนดจัดโครงการอบรมหลักสูตร "SNS Sport Nutririon School" โดยมีวิทยากรจากประเทศสหรัฐอเมริกามาให้ความรู้ด้านโภชนศาสตร์การกีฬาขั้นสูง ให้กับบุคคลในสมาคมกีฬาต่างๆ โดยกำหนดให้ส่งตัวแทนสมาคมละ 2 ท่านเข้าร่วมอบรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเมื่อสำเร็จการอบรมตามเกณฑ์ของหลักสูตรจะได้รับประกาศนียบัตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา"
