ล้างไพ่ “แบ็กโฟร์” จวก “วิดิช” ทิ้งผีแดง

เอเยนซี - สาวก “เรด เดวิลส์” เหมือนดูหนังฉายซ้ำ หลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปล่อย 2 แต้มหลุดมือจากการถูก ฟูแลม บุกตีเสมอ 2-2 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 94 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งอย่างเช่นที่ถูก คาร์ดิฟฟ์ ซิตี ซัดแบ่งแต้มด้วยสกอร์เดียวกันเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เห็นได้ชัดว่ามาจากปัญหาแนวรับอันหละหลวม แต่แน่นอนแล้วว่าฤดูกาลหน้าจะมีการล้างไพ่ ซึ่งต่างใจจดจ่อว่าโฉมหน้าแบ็กโฟร์ยุคใหม่ของ เดวิด มอยส์ กุนซือชาวสกอต นั้นจะออกมาเป็นเช่นไร

ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช และ ปาทริซ เอฟรา ถือเป็น 1 ใน 3 แบ็กโฟร์ชุดคว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2007-08 ขณะที่ ราฟาเอล ดา ซิลวา อยู่ในชุดเข้าชิง 2 จาก 3 ปีหลังจากนั้นคือ 2009 กับ 2011 ที่แพ้ให้กับ บาร์เซโลนา ทั้งหมดถือเป็นมรดกตกทอดที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มอบให้กับ มอยส์ บริหารงานต่อเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทว่าทั้งหมดคือหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ แมนฯยู มีผลงานย่ำแย่ในฤดูกาลนี้รั้งที่ 7 มีเพียง 41 แต้มจาก 25 นัดตาม ลิเวอร์พูล อันดับ 4 ที่จะกลับไปเล่นถ้วยใบใหญ่สุดของยุโรปถึง 9 แต้ม โดยเสียไปถึง 31 ประตู

ฤดูกาลหน้าหลังบ้าน แมนฯยู จะเปลี่ยนแทบยกชุด เพราะ วิดิช กัปตันชาวเซิร์บ ขออำลาไปพร้อมสัญญาที่สิ้นสุดลง เช่นเดียวกับ เอฟรา แบ็กซ้าย ขณะที่ ริโอ เตรียมแขวนสตั๊ดด้วยวัย 35 ปี ซึ่งการที่เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 32 ปีออกมาประกาศก่อนลงรับมือ ฟูแลม ถูกมองว่าทำลายสปริติและความมุ่งมั่นของทีม โดยส่งผลกระทบชัดเจน เนื่องจาก 2 ประตูที่เสียนั้นมาจากพื้นที่รับผิดชอบของปราการหลังตัวกลางกับการยืนตำแหน่งและประกบตัวไม่ดี ขณะที่ เอฟรา ก็หลุดจากโซนรับผิดชอบของตนเองบ่อยครั้ง โดยก่อนหน้านี้ก็บอกแล้วว่าจะกลับไป ลีก เอิง ฝรั่งเศส

มาร์ติน คีโอว์น อดีตกองหลังระดับตำนานที่เหนียวแน่นคนหนึ่งของ อาร์เซนอล ออกมาตำหนิ วิดิช ว่าเป็นคนที่ “วิ่งหนี” ทุกสิ่งทุกอย่างไป “ไม่เกี่ยวกับอายุ 32 ปี วิดิช ควรที่จะพับแขนเสื้อขึ้นและสู้ต่อไปเพื่อสโมสรที่ดึงเขาเข้ามาจนได้แชมป์ พรีเมียร์ ลีก 5 สมัย, ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก, ลีก คัพ 3 สมัยและ สโมสรโลก 1 สมัย ตอนผมอยู่ อาร์เซนอล ยืนหยัดจนอายุ 37 ปี ดังนั้นทำไมเขาจะต้องออกไปจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยลักษณะนี้ ทั้งที่ถือเป็นแนวรับที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ ลีก คนหนึ่ง แต่กลับหันหลังให้ แมนฯยูไนเต็ด”

วิดิช อ้างว่าหมดความท้าทายกับการเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด 8 ปีครึ่งนับตั้งแต่ย้ายจาก สปาร์ตัก มอสโก เมื่อต้นปี 2006 กวาดแชมป์มากมายยกเว้นถ้วย เอฟเอ คัพ โดยมีข่าวว่าจะไปเล่นบนเวที กัลโช เซเรีย อา อิตาลี เป็นสถานีสุดท้ายของชีวิตกับ ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน หรือ นาโปลี ทั้งที่จริงๆ สภาพยังดีกว่า ริโอ เมื่อ 3 ปีก่อน รวมถึง จอห์น เทอร์รี ของ เชลซี ฤดูกาลที่แล้ว ด้วยซ้ำ

ดังนั้นตอนนี้ มอยส์ ต้องมองถึงปัจจุบันกับทรัพยากรที่มีให้ใช้งานไม่ว่าจะเป็น ฟิล โจนส์ แต่ยังไม่ดีที่สุดทั้งตำแหน่งแบ็กขวา, เซนเตอร์ และมิดฟิลด์ตัวรับ เช่นเดียวกับ รวมถึง คริส สมอลลิง ก็ยังไม่นิ่งกับพื้นที่ทั้งแบ็กขวาและเซนเตอร์ จอนนี อีแวนส์ ดูจะพึ่งได้คนเดียวกับประสบการณ์ที่ซึมซับจาก วิดิช และ ริโอ ช่วงที่ดีที่สุดในอาชีพ แต่กระดูกยังไม่แข็งพอ ซึ่งถ้าต้องคุมแผงแบ็กโฟร์ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถจัดระเบียบได้หรือไม่ เนื่องจากต้องสั่งจังหวะล้ำหน้า รวมถึงฟัง ดาบิด เด เคอา ด่านสุดท้ายชาวสแปนิชด้วย

แบ็กซ้ายไม่ต้องพูดถึง อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ เป็นไม่ได้แม้แต่เงาของ เอฟรา ด้าน ราฟาเอล ดูจะมีแนวโน้มดีที่สุด แต่ทว่าฤดูกาลนี้แข้งทีมชาติบราซิลบาดเจ็บบ่อยครั้งฟอร์มเติมเกมรุกยิงประตูที่โดดเด่นเลยหายไป แถมยังใจร้อนไม่หายเกมเสมอ ฟูแลม ก็ถูกเปลี่ยนตัวออก ดังนั้น มอยส์ ก็คงจะต้องซื้ออย่างเดียวเมื่อนักเตะไม่มีให้ใช้งานเพียงพอ เอเลียกิม มองกาลา ของ ปอร์โต น่าจะมาแทน วิดิช ขณะเดียวกันแบ็กซ้ายอย่าง ลุค ชอว์ ของ เซาแธมป์ตัน ก็ต้องแย่งกับ เชลซี โดยมี เลย์ตัน เบนส์ อดีตลูกน้องเก่าสมัยคุม เอฟเวอร์ตัน เป็นอีกตัวเลือก

ถือเป็นช่วงผลัดใบของ แมนฯยู ไล่ตั้งแต่ตำแหน่งกุนซือ ซึ่งก่อนหน้านี้ เฟอร์กี ก็ต้องกลุ้มเรื่องแนวรับกับการหาตัวแทนของ ปีเตอร์ ชไมเคิล กว่าจะมาลงตัวที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ครั้งหนึ่งทีมเคยมีภูผาหินอย่าง สตีฟ บรูซ กับ แกรี พัลลิสเตอร์ รวมถึงสุดยอดฟูลแบ็กอย่าง เดนิส เออร์วิน ใครก็ผ่านยาก โดย “ผีแดง” เคยเป็นทีมที่เหนียวแน่นพอขึ้นนำสามารถเล่นตั้งรับตรึงสกอร์จนคว้า 3 แต้ม ซึ่งถือเป็นการบ้านที่ มอยส์ จะต้องขบคิดอย่างหนักช่วงซัมเมอร์นี้เพื่อทำให้กองหลังกลับมาเหนียวแน่นใกล้เคียงกับในอดีตมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้