ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ไฮไลต์ที่คอบอลห้ามพลาดคือ การเจอกันของ 2 ยักษ์ใหญ่ ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ พบกับ อาร์เซนอล จ่าฝูงที่กำลังสู้เพื่อลุ้นแชมป์ลีกสูงสุด ซึ่งก่อนเกมจะเริ่มขึ้นเวลา 19.45 น. ขอจัด 5 แมตช์สุดมันในช่วง 10 ปีหลังสุด มาเรียกน้ำย่อยก่อนชมเกมคืนนี้
1.ลิเวอร์พูล 3-6 อาร์เซนอล (คาร์ลิง คัพ 2006-07)
พลพรรค “ปืนโต” ขนทัพไปที่ แอนฟิลด์ ในศึก คาร์ลิง คัพ รอบ 5 เพื่อดวลกับลูกทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ ปรากฏว่า กลายเป็นฝันร้ายของเหล่า “เดอะ ค็อป” เมื่อบรรดาแนวรับ “หงส์แดง” ไม่สามารถต้านทานเกมบุกสุดไหลลื่นที่ อาร์แซน เวนเกอร์ วางแผนมาเป็นดิบดีได้ โดนถล่มไป 3-6 ซึ่ง ชูลิโอ บาปติสตา กองหน้าชาวบราซิล โชว์ฟอร์มสุดยอดซัด 4 ประตู ก่อนที่ อาร์เซนอล จะเดินออกจากสนามไปพร้อมกับชัยชนะแบบถล่มทลาย
2.ลิเวอร์พูล 4-4 อาร์เซนอล (พรีเมียร์ลีก 2008-09)
แฟน “หงส์แดง” ที่ได้ชมเกมนี้เชื่อว่าคงไม่มีวันลืมชื่อกองหน้าจากรัสเซียอย่าง อังเดร อาร์ชาวิน ลงได้แน่นอน หลังอดีตหัวหอก เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ฉีกแนวรับเจ้าถิ่นขาดเป็นริ้ว ก่อนซัดคนเดียว 4 ประตู จนกลายเป็นที่พูดถึงกันทั่ว ถือเป็นแมตช์ที่คนจดจำ อาร์ชาวิน ได้มากที่สุด ก่อนจะฟอร์มตก และบินกลับไปค้าแข้งกับ เซนิต ตามเดิม
3.ลิเวอร์พูล 4-2 อาร์เซนอล (ยูฟา แชมเปียนส์ลีก 2007-08)
โคจรมาเจอกันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยนัดแรกเสมอกันมาก่อน 1-1 ก่อนกลับมาเล่นเกมที่ 2 ซึ่ง อาร์เซนอล ทำให้แฟนๆ เจ้าถิ่นหวาดเสียวเล่นด้วยการยิงนำก่อนตั้งแต่ นาที 13 แต่ทีมของ เบนิเตซ ฟอร์มดีกว่าพลิกกลับมายิงดับ 4-2 รวมผลสองนัดเป็น 5-3 ลอยลำเข้ารอบรองชนะเลิศ ก่อนไปแพ้ เชลซี แบบสุดมันด้วยผลประตูรวม 3-4 ชนิดที่ “เดอะ ค็อป“” หลายคนแอบเสียดายเล็กน้อย
4.ลิเวอร์พูล 2-1 อาร์เซนอล (พรีเมียร์ลีก 2004-05)
ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2004-05 นีล เมลเลอร์ กองหน้าดาวรุ่งของ ลิเวอร์พูล เป็นแค่นักเตะโนเนมคนหนึ่งหมดเวลาไปกับม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ ทว่า เจ้าตัวก็สร้างชื่อให้เป็นที่จดจำได้ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หลังโชว์ตะบัน 30 หลา ในช่วงทดเจ็บจนทำให้ “หงส์แดง” เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ และกลายเป็นฮีโร่ของทีมโดยปริยาย
5.อาร์เซนอล 1-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก 2010-11)
อีกหนึ่งเกมทีเรียกดรามาจากแฟน “กันเนอร์ส” ได้ไม่น้อยเมื่อ “ปืนโต” ที่กำลังจะเก็บ 3 แต้มเข้ากระเป๋าอยู่แล้ว ทว่า เอมมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้าชาวโตโก ดันพลาดทำแฮนด์บอลในเขตโทษทำให้ผู้ตัดสินเป่าให้ผู้มาเยือนได้จุดโทษ และก็เป็น เดิร์ก เคาท์ สังหารไม่พลาดพาทีมจาก เมอร์ซีย์ไซด์ แบ่งแต้มกลับไปได้ในที่สุด