ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือ 1 ของโลกจากสเปน ต้องออกแรงเหนื่อยถึง 4 เซต ก่อนปิดบัญชีดับ กริกอร์ ดิมิตรอฟ หวดหนุ่มฟอร์มแรงจาก บัลแกเรีย ไปแบบหืดจับ 3-1 เซต ศึก ออสเตรเลียน โอเพน พร้อมตบเท้าเข้าสู่รอบตัดเชือกได้เป็นที่เรียบร้อย เมื่อบ่ายวันที่ 22 มกราคม 2557
ศึก แกรนด์ สแลม “ออสซี โอเพน” ชิงเงินรางวัลรวม 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 900 ล้านบาท) ณ กรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันพุธที่ 22 มกราคม เข้าสู่การแข่งขันประเภทชายเดี่ยว รอบ 8 คนสุดท้ายของวันที่สอง ท่ามกลางแสงแดดที่ยังคงร้อนระอุเหมือนเคย
เกมสำคัญ ราฟาเอล นาดาล มือ 1 โลกจากสเปน ลงสนามเจอกับ กริกอร์ ดิมิตรอฟ ม้ามืดจาก บัลแกเรีย โดยเพียงแค่เซตแรกกองเชียร์ของ “เอล มาทาดอร์” ถึงกับอ้าปากค้างเมื่อ ดิมิตรอฟ โชว์ฟอร์มเหนือกว่าต้านทานเกมเสิร์ฟของ นาดาล ได้แถมยังยิงลูกช็อตสวนกลับไปสวยๆ หลายลูก ปิดเซตเอาชนะไปก่อน 6-3
เซตสอง นาดาล เริ่มจับจังหวะตัวเองได้แล้ว รักษาเกมสู้กันจนถึงช่วงไทเบรก และเป็นหวดเลือดสเปน ที่เล่นได้แน่นอนกว่าปิดเซตตีเสมอได้ 7-6 (7/3) ถัดมาเกมคล้ายกันจนต้องยืดเยื้อและก็เป็นมือ 1 โลก ที่อาศัยยิงวินเนอร์เข้าแบ็กแฮนด์ใส่ ดิมิตรอฟ จนโต้แทบไม่ได้ ขึ้นนำ 2-1 เซต 7-6 (9/7)
และเมื่อถึงเซตสี่ ดิมิตรอฟ ที่เริ่มหมดแรงโต้ลูกกับ นาดาล ไม่ได้ แถมตีเสียเองหลายครั้งก็ทำให้ “เอล มาทาดอร์” ปิดแมตช์เอาชนะไปแบบหืดจับ 3-1 เซต 3-6, 7-6 (7/3), 7-6 (9/7), 6-2 ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมง 37 นาที ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปรอเจอของแข็งอย่าง แอนดี เมอร์เรย์ หรือ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ คู่ปรับเก่าชาวสวิส เพื่อตั๋วเข้าชิงชนะเลิศ
หลังเกม หวดเลือดสเปนวัย 27 ปี ที่โชว์ฟอร์มยิงวินเนอร์ถึง 42 ลูก จนฝ่ามือแตกเลือดไหลออกมา เผยตนเองรู้สึกโชคดีมากที่คว้าแต้มสำคัญได้ในเซตที่สาม ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตนกลับมาคว้าชัยชนะได้ในที่สุด ขณะที่ ดิมิตรอฟ ที่ถึงกับน้ำตาตกหลังแพ้คู่แข่ง เผยรู้สึกทำใจได้ยากกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ยกเครดิตให้ นาดาล ที่เล่นได้ดี และจะพยายามมุ่งหน้ายกระดับฟอร์มของตัวเองต่อไป