เอเดน ฮาซาร์ด เพลย์เมกเกอร์ชาวเบลเจียน และ ซามูเอล เอโต ศูนย์หน้าจอมเก๋า กอดคอกันซัดคนละ 1 ประตู ช่วย เชลซี พลิกสถานการณ์ปราบ ลิเวอร์พูล 2-1 ในศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เชลซี 2-1 ลิเวอร์พูล
โชเซ มูรินโญ กุนซือ เชลซี จัดทัพชุดใหญ่ ส่ง วิลเลียน ออสการ์ และ เอเดน ฮาซาร์ด เป็น 3 ประสานแนวรุก โดยวาง ซามูเอล เอโต ล่าตาข่าย เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือน ลิเวอร์พูล นำโดย หลุยส์ ซัวเรซ ดาวซัลโว พรีเมียร์ ลีก ซึ่งทั้งคู่ต้องการ 3 แต้ม เพื่อไล่จี้อาร์เซนอล
เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 4 นาที ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ ฟิลิปเป คูตินโญ โยนฟรีคิกกราบซ้ายมาเสาแรก หลุยส์ ซัวเรซ ทิ้งตัวโหม่งติดบล็อก บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เข้าทาง มาร์ติน สเคอร์เทล สะกิดบอลจ่อๆ ตุงตาข่าย ต่อมา เชลซี โหมบุกแบบไม่คิดชีวิตจนเกือบตีเสมอนาที 12 แฟรงค์ แลมพาร์ด ส่องไกล ซิมง มิโญเลต์ เหินปัดข้ามคาน
บดอยู่นาน “สิงโตน้ำเงินคราม” ทวงคืนนาที 16 ออสการ์ กระชากทะลวงตรงกลาง ก่อนจ่ายติดบล็อกเข้าทาง เอเดน ฮาซาร์ด บรรจงปั่นไซด์โป้งตรงหัวกะโหลกเสียบมุมขวามืออย่างสุดสวย ถัดมา เจ้าถิ่น ทำเกมไหลลื่นกว่า ก่อนแซงนำนาที 34 เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา กระดกจากริมเส้นเข้ากลาง บอลขลุกขลิกเข้าทาง ออสการ์ แล้วจ่ายเรียดจากเขตโทษด้านขวามาเสาแรกให้ ซามูเอล เอโต เหยียดขายิง มิโญเลต์ รับไม่อยู่บอลปลิ้นเสียบเสาไกล
ทีมเยือน ค่อยๆ ต่อกันขึ้นมาจนมีลุ้นนาที 43 ราฮีม สเตอร์ลิง เปิดเรียดจากขวามาเสาแรก แอชลีย์ โคล ตัวสำรอง สกัดไม่ขาดตั้งให้ โจ อัลเลน วิ่งมาซัดเต็มแรง ปีเตอร์ เช็ก ล้มตัวปัดไว้ได้ ช่วงท้ายเกมรุก “หงส์แดง” ยังดูขาดๆ เกินๆ จึงทำอะไรกันไม่ได้ ครบ 45 นาที เชลซี นำอยู่ 2-1
ลุยต่อครึ่งหลัง “หงส์แดง” ออกสตาร์ทน่ากลัวจนหวิดเอาคืนนาที 52 คูตินโญ ไหลฟรีคิกจากขวาเข้ากลางให้ เฮนเดอร์สัน โยนมาให้ มามาดู ซาโก เทกตัวโหม่งชนสามเหลี่ยมขวามือ ต่อมา 2 นาที ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน โต้กลับก่อนพลาดโอกาสทอง ฮาซาร์ด ตัดบอลแดนกลาง แล้วไหลให้ เอโต หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าเขตโทษด้านขวา แล้วยิงยัดเสาแรกติดแขน มิโญเลต์ ข้ามคาน
เข้าสู่นาที 57 ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ ทำเสียว เฮนเดอร์สัน เปิดย้อนจากซ้ายมาหัวกะโหลกให้ หลุยส์ ซัวเรซ ดีดเต็มแรง เข้าซอง เช็ก จากนั้นทั้งคู่ผลัดกันรุกและรับ นาที 70 แชมป์ยุโรป 1 สมัย เกือบโขยกหนี ออสการ์ ล้มตัวเกี่ยวบอลจาก ลูคัส หน้าเขตโทษด้านซ้าย แต่งบอลเข้าขวา แลล้วปั่นไซด์โป้งหลุดเสาไกล
ถัดมาอีก 4 นาที ทีมของ แบรนเดน ร็อดเจอร์ส ได้ลุ้นอีกครั้ง เกล็น จอห์นสัน สับไกด้วยซ้ายระยะประมาณ 25 หลา เช็ก บอลพุ่งมาโคนเสาขวามือ เช็ก ล้มตัวปัดออกหลัง ช่วงท้าย แนวรับ “สิงห์บลูส์” ดักทางเกมรุกคู่ต่อสู้อยู่หมัด แล้วสวนกลับจนเกือบตอกฝาโลงนาที 89 เฟร์นานโด ตอร์เรส กระชากจากริมเส้นด้านขวาเข้าเขตโทษ แล้วกดด้วยซ้าย มิโญเลต์ ล้มตัวรับไว้ได้ จบเกม เชลซี เอาชนะไป 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 40 แต้ม จาก 19 นัด รั้งอันดับ 3 ส่วน ลิเวอร์พูลล มี 36 แต้มเท่าเดิม หล่นอันดับ 5
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , แกรี เคฮิลล์ , จอห์น เทอร์รี , เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา , ดาวิด ลุยซ์ , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ออสการ์ , เอเดน ฮาซาร์ด , วิลเลียน , ซามูเอล เอโต
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์ , เกล็น จอห์นสัน , แดเนียล แอ็กเกอร์ , มามาดู ซาโก , มาร์ติน สเคอร์เทล , ฟิลิปเป คูตินโญ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ลูคัส , โจ อัลเลน , ราฮีม สเตอร์ลิง , หลุยส์ ซัวเรซ
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก ประจำวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม
สเปอร์ส 3-0 สโต๊ค ซิตี
[1-0 โรแบร์โต โซลดาโด (จุดโทษ) น.37 , 2-0 มูซา เดมเบเล น.65 , 3-0 อารอน เลนนอน น.68]
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เชลซี 2-1 ลิเวอร์พูล
โชเซ มูรินโญ กุนซือ เชลซี จัดทัพชุดใหญ่ ส่ง วิลเลียน ออสการ์ และ เอเดน ฮาซาร์ด เป็น 3 ประสานแนวรุก โดยวาง ซามูเอล เอโต ล่าตาข่าย เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือน ลิเวอร์พูล นำโดย หลุยส์ ซัวเรซ ดาวซัลโว พรีเมียร์ ลีก ซึ่งทั้งคู่ต้องการ 3 แต้ม เพื่อไล่จี้อาร์เซนอล
เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 4 นาที ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ ฟิลิปเป คูตินโญ โยนฟรีคิกกราบซ้ายมาเสาแรก หลุยส์ ซัวเรซ ทิ้งตัวโหม่งติดบล็อก บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เข้าทาง มาร์ติน สเคอร์เทล สะกิดบอลจ่อๆ ตุงตาข่าย ต่อมา เชลซี โหมบุกแบบไม่คิดชีวิตจนเกือบตีเสมอนาที 12 แฟรงค์ แลมพาร์ด ส่องไกล ซิมง มิโญเลต์ เหินปัดข้ามคาน
บดอยู่นาน “สิงโตน้ำเงินคราม” ทวงคืนนาที 16 ออสการ์ กระชากทะลวงตรงกลาง ก่อนจ่ายติดบล็อกเข้าทาง เอเดน ฮาซาร์ด บรรจงปั่นไซด์โป้งตรงหัวกะโหลกเสียบมุมขวามืออย่างสุดสวย ถัดมา เจ้าถิ่น ทำเกมไหลลื่นกว่า ก่อนแซงนำนาที 34 เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา กระดกจากริมเส้นเข้ากลาง บอลขลุกขลิกเข้าทาง ออสการ์ แล้วจ่ายเรียดจากเขตโทษด้านขวามาเสาแรกให้ ซามูเอล เอโต เหยียดขายิง มิโญเลต์ รับไม่อยู่บอลปลิ้นเสียบเสาไกล
ทีมเยือน ค่อยๆ ต่อกันขึ้นมาจนมีลุ้นนาที 43 ราฮีม สเตอร์ลิง เปิดเรียดจากขวามาเสาแรก แอชลีย์ โคล ตัวสำรอง สกัดไม่ขาดตั้งให้ โจ อัลเลน วิ่งมาซัดเต็มแรง ปีเตอร์ เช็ก ล้มตัวปัดไว้ได้ ช่วงท้ายเกมรุก “หงส์แดง” ยังดูขาดๆ เกินๆ จึงทำอะไรกันไม่ได้ ครบ 45 นาที เชลซี นำอยู่ 2-1
ลุยต่อครึ่งหลัง “หงส์แดง” ออกสตาร์ทน่ากลัวจนหวิดเอาคืนนาที 52 คูตินโญ ไหลฟรีคิกจากขวาเข้ากลางให้ เฮนเดอร์สัน โยนมาให้ มามาดู ซาโก เทกตัวโหม่งชนสามเหลี่ยมขวามือ ต่อมา 2 นาที ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน โต้กลับก่อนพลาดโอกาสทอง ฮาซาร์ด ตัดบอลแดนกลาง แล้วไหลให้ เอโต หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าเขตโทษด้านขวา แล้วยิงยัดเสาแรกติดแขน มิโญเลต์ ข้ามคาน
เข้าสู่นาที 57 ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ ทำเสียว เฮนเดอร์สัน เปิดย้อนจากซ้ายมาหัวกะโหลกให้ หลุยส์ ซัวเรซ ดีดเต็มแรง เข้าซอง เช็ก จากนั้นทั้งคู่ผลัดกันรุกและรับ นาที 70 แชมป์ยุโรป 1 สมัย เกือบโขยกหนี ออสการ์ ล้มตัวเกี่ยวบอลจาก ลูคัส หน้าเขตโทษด้านซ้าย แต่งบอลเข้าขวา แลล้วปั่นไซด์โป้งหลุดเสาไกล
ถัดมาอีก 4 นาที ทีมของ แบรนเดน ร็อดเจอร์ส ได้ลุ้นอีกครั้ง เกล็น จอห์นสัน สับไกด้วยซ้ายระยะประมาณ 25 หลา เช็ก บอลพุ่งมาโคนเสาขวามือ เช็ก ล้มตัวปัดออกหลัง ช่วงท้าย แนวรับ “สิงห์บลูส์” ดักทางเกมรุกคู่ต่อสู้อยู่หมัด แล้วสวนกลับจนเกือบตอกฝาโลงนาที 89 เฟร์นานโด ตอร์เรส กระชากจากริมเส้นด้านขวาเข้าเขตโทษ แล้วกดด้วยซ้าย มิโญเลต์ ล้มตัวรับไว้ได้ จบเกม เชลซี เอาชนะไป 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 40 แต้ม จาก 19 นัด รั้งอันดับ 3 ส่วน ลิเวอร์พูลล มี 36 แต้มเท่าเดิม หล่นอันดับ 5
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , แกรี เคฮิลล์ , จอห์น เทอร์รี , เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา , ดาวิด ลุยซ์ , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ออสการ์ , เอเดน ฮาซาร์ด , วิลเลียน , ซามูเอล เอโต
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์ , เกล็น จอห์นสัน , แดเนียล แอ็กเกอร์ , มามาดู ซาโก , มาร์ติน สเคอร์เทล , ฟิลิปเป คูตินโญ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ลูคัส , โจ อัลเลน , ราฮีม สเตอร์ลิง , หลุยส์ ซัวเรซ
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก ประจำวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม
สเปอร์ส 3-0 สโต๊ค ซิตี
[1-0 โรแบร์โต โซลดาโด (จุดโทษ) น.37 , 2-0 มูซา เดมเบเล น.65 , 3-0 อารอน เลนนอน น.68]
