ขุนพลนักเตะ ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องเปิดบ้านถล่ม เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด 4-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนขึ้นมาอยู่ที่ 2 ของตาราง ขณะที่ เชลซี บุกแพ้ สโต๊ค ซิตี ท้ายเกม 2-3
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 4-1 เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด
ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมที่ แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล อันดับ 4 ของตาราง มี 27 แต้ม เปิดบ้านเจอกับ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 17 มี 13 แต้ม เกมนี้เจ้าถิ่นส่งตัวจริงลงเต็มสูบรวมถึง หลุยส์ ซัวเรซ ดาวซัลโวของลีกที่ซัดไปแล้ว 13 ประตู ส่วนผู้มาเยือนส่ง สจวร์ต ดาวนิง เจอทีมเก่าโดยมี โมดิโบ ไมกา เป็นกองหน้า
ครึ่งแรกผ่านมา 9 นาที ลิเวอร์พูล ทักทายก่อน ฟิลิปเป คูตินโญ ป้ายออกขวาให้ หลุยส์ ซัวเรซ จับบอลในเขตโทษแล้วยิงด้วยขวาแต่ ยุสซี ยัสเคไลเนน ทิ้งตัวรับไว้ได้ ต่อมา นาที 14 หงส์แดง สวนกลับ ราฮีม สเตอร์ลิง เปิดโค้งไปที่เสาสองให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซัลโวแต่ข้ามคาน
มาถึง นาที 21 เวสต์ แฮม ทำเสียว แม็ทธิว ยาร์วิส เปิดบอลโด่งไปหน้าประตูให้ โมดิโบ ไมกา สลัดตัวประกบโหม่งเต็มหัวแต่ ซิมง มิโญเลต์ ปัดทิ้งหวุดหวิด ขณะที่ ลิเวอร์พูล บุกมากกว่าแต่ยิงไม่ได้ นาที 33 ราฮีม สเตอร์ลิง ลองซัดนอกเขตโทษแต่บอลหลุดเสาสองออกไป
จนกระทั่ง นาที 41 หงส์แดง ได้ประตูนำ 1-0 จนได้ หลุยส์ ซัวเรซ พลิกบอลหาช่องยิงที่เสาแรก ยุสซี ยัสเคไลเนน ล้มตัวเซฟได้แล้วแต่โชคร้ายบอลไปโดน กี เดเมล เข้าประตูตัวเอง ส่วนนาที 44 หลุยส์ ซัวเรซ เกือบซัลโวให้ทีมได้ประตูเพิ่มแต่บอลข้ามคาน จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ 1-0
มาที่ครึ่งหลัง นาที 46 ลิเวอร์พูล ดวงเฮงบวกเพิ่ม 2-0 สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิกไปเสาไกลให้ มามาดู ซาโก สะกิดไปที่ประตู เจมส์ คอลลินส์ กระโดดตีลังกาสกัดแต่บอลพลาดเข้าประตูตัวเองอีกแล้ว แต่ นาที 66 เวสต์ แฮม ตีไข่แตกขึ้นมา 1-2 แม็ทธิว ยาร์วิส โหม่งที่เสาแรกแต่ มาร์ติน สเคอร์เทล สกัดเข้าประตูตัวเอง
รูปเกมอึดอัดเล็กน้อย จนนาที 81 หลุยส์ ซัวเรซ มาโหม่งทำประตูให้ ลิเวอร์พูล นำห่าง 3-1 ส่วน เวสต์ แฮม นาทีต่อมาโชคร้ายเหลือ 10 คนเมื่อ เควิน โนแลน โดนเหลืองที่สอง และเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังไปย่ำน่อง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อย่างรุนแรง
ท้ายเกม นาที 84 เจ้าถิ่นได้ประตูส่งท้าย หลุยส์ ซัวเรซ ยิงจากนอกเขตโทษแต่โชคดีบอลแฉลบ โจอี โอ ไบรอันท์ เข้าประตูไป จบเกม ลิเวอร์พูล ถล่ม เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด 4-1 เก็บ 3 แต้มในบ้านได้สำเร็จ ทำให้มี 30 แต้ม และขึ้นมาอยู่ที่ 2 ตามหลัง อาร์เซนอล จ่าฝูง 4 แต้ม
ส่วนเกมอีกคู่ที่เตะไล่เลี่ยกัน “สิงห์บลูส์” เชลซี ของ โชเซ มูรินโญ บุกไปพ่าย “ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ค ซิตี ช่วงท้ายเกมแบบเจ็บปวด 2-3 จากประตูของ อุสซามะ อัสไซดี นาทีสุดท้าย ทำให้ เชลซี หล่นมาอยู่ที่ 3 แต้มเท่า ลิเวอร์พูล แต่ประตูได้เสียเป็นรอง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล - ซิมง มิโญเลต์, กเล็น จอห์นสัน, มามาดู ซาโก, มาร์ติน สเคอร์เทล, จอห์น ฟลานาแกน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ฟิลิปเป คูตินโญ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน, ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรซ
เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด - ยุสซี ยัสเคไลเนน, จอร์จ แม็คคาร์ทนีย์, เจมส์ ทอมกินส์, เจมส์ คอลลินส์, กี เดเมล, เควิน โนแลน, แม็ทธิว ยาร์วิส, มาร์ค โนเบิล, โมฮาเหม็ด ดิยาเม, สจวร์ต ดาวนิง, โมดิโบ ไมกา
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2556
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
[0-1 โยฮัน กาบาย น.61]
คริสตัล พาเลซ 2-0 คาร์ดิฟฟ์ ซิตี
[1-0 คาเมรอน เฌอโรม น.6, 2-0 มารูยาน ชามัคห์ น.57]
ลิเวอร์พูล 4-1 เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด
[1-0 กี เดเมล น.42, 2-0 มามาดู ซาโก น.47, 2-1 มาร์ติน สเคอร์เทล น.66, 3-1 หลุยส์ ซัวเรซ น.81, 4-1 โจอี โอ ไบรอันท์ น.84]
เซาแธมป์ตัน 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี
[0-1 เซร์จิโอ อกูเอโร น.10, 1-1 พาโบล ออสวัลโด น.42]
สโต๊ค ซิตี 3-2 เชลซี
[0-1 อังเดร ชูร์เล น.9, 1-1 ปีเตอร์ เคราช์ น.42, 2-1 สตีเฟน ไอร์แลนด์ น.50, 2-2 อังเดร ชูร์เล น.53, 3-2 อุสซามะ อัสไซดี น.90]
เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน 0-2 นอริช ซิตี
[0-1 แกรี ฮูเปอร์ น.13, 0-2 เลอรอย เฟอร์ น.89]
ซันเดอร์แลนด์ 1-2 ท็อตแนม ฮอทสเปอร์
[1-0 อดัม จอห์นสัน น.37, 1-1 เปาลินโญ น.43, 1-2 จอห์น โอเชีย น.50]
