หลุยส์ ซัวเรซ ศูนย์หน้าจอมตุกติกชาวอุรุกวัย เหมาคนเดียว 2 ประตู ช่วย ลิเวอร์พูล บุกมาถล่ม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ยับเยิน 5-0 ในศึก พรีเมียร์ ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
สเปอร์ส 0-5 ลิเวอร์พูล
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล ส่ง โจ อัลเลน คุมแดนกลางแทน สตีเวน เจอร์ราร์ด พร้อมวาง หลุยส์ ซัวเรซ, ราฮีม สเตอร์ลิง และ ฟิลิปเป คูตินโญ เป็น 3 ประสานแนวรุก บุกรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน รับมือ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ โดยหวังเก็บ 3 แต้ม ไล่จี้ อาร์เซนอล จ่าฝูง ที่เพิ่งพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี 3-6
เสียงนกหวีดดังขึ้น ทั้งสองฝ่ายพยายามตั้งเกมของตัวเอง ผ่านไป 10 นาที ลิเวอร์พูล เริ่่มบุกเป็นระลอก ก่อนความพยามยามสัมฤทธิ์ผลนาที 17 ไมเคิล ดอว์สัน ล้มตัวสกัดลูกจ่ายทะลุช่องไม่ขาด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ดีดต่อให้ หลุยส์ ซัวเรซ หลุดเข้าเขตโทษด้านขวา ล็อกเข้าในแล้วแปด้วยซ้ายเสียบมุมเสาไกล
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เริ่มเปิดหน้าแลก แต่หวิดเสียเพิ่มนาที 21 ราฮีม สเตอร์ลิง แทงทะลุช่องให้ ซัวเรซ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าเขตโทษด้านขวา แล้วแปแฉลบหว่างขา ฮูโก โยริส ออกหลัง ต่อมา 7 นาที “หงส์แดง” พลาดโอกาสทอง ซัวเรซ หลุดมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย แล้วตักย้อนมาหัวกะโหลกให้ ฟิลิปเป คูตินโญ วอลเลย์ บอลกระดอนพื้นชนคาน
สเปอร์ส ตอบโต้จนมีลุ้นนาที 31 ลูอิส โฮลท์บี โยนเตะมุมฝั่งซ้ายมากลางประตู เนเซอร์ แชดลี ลอยตัวโหม่งโล่งๆ ข้ามคาน ต่อมา 2 นาที ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ น่าทิ้งห่างแบบสุดๆ มาร์ติน สเคอร์เทล วางยาว โยริส ออกมาโหม่งผิดเหลี่ยมเข้าทาง ซัวเรซ ตรงเขตโทษด้านซ้าย ก่อนยิงแบบเน้นๆ แต่ โยริส ตามมาบล็อกได้ทัน
เกมเปิดแลกกันสนุก นาที 38 “ไก่เดือยทอง” ทำเสียว แชดลี ไหลมาที่ว่างให้ โรแบร์โต โซลดาโด หลุดมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย แล้วเปิดย้อนมาให้ โฮลท์บี ตวัดยิงหลุดเสาไกล ต่อมา 2 นาที สาวก “เดอะ ค็อป” ส่งเสียงเฮ สเตอร์ลิง ทิ้งยางจากขวาให้ คูตินโญ เบิ้ลต่อให้ จอรแดน เฮนเดอร์สัน ทะลุมาตรงกลาง แล้วยิงติดบล็อก โยริส เข้าทาง ซัวเรซ แปซ้ำบอลกระดอนพื้น โยริส ยืดแขนปัดมาเข้าทาง เฮนเดอร์สัน ตามซ้ำไม่พลาด ครบ 45 นาที ลิเวอร์พูล นำห่าง 2-0
ครึ่งหลังเปิดฉากเพียง 2 นาที เจ้าถิ่นเกือบตีตื้น มามาดู ซาโก โหม่งสกัดพลาดมาเข้าทาง โซลดาโด หลุดเข้าเขตโทษด้านขวา แล้วตะบันเต็มแรงข้ามคานนิดเดียว ต่อมานาที 49 ลูคัส เก็บตกจังหวะเคลียร์เตะมุมฝั่งซ้าย จ่ายออกขวาให้ สเตอร์ลิง ลากเข้าเขตโทษ แล้วโยนมาเสาสอง ซาโก โหม่งจ่อๆ ชนเสา กระดอนมาถึง สเคอร์เทล วอลเลย์หลุดกรอบ
สถานการณ์ทีมจากกรุงลอนดอน เริ่มร่อแร่นาที 62 เปาลินโญ ยันใส่หน้าอก ซัวเรซ ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนาม ต่อมาทีมเยือน เน้นเกมรับแล้วรอจังหวะสวนกลับ แต่เกือบจะบวกสกอร์เพิ่มนาที 70 ซัวเรซ หลุดเดี่ยวมาทางเขตโทษด้านซ้าย ก่อนยิงมุมแคบเข้าหน้าต่าง
เข้าสู่นาที 75 สาวก “เดอะ ค็อป” เริ่มมองเห็น 3 แต้ม เฮนเดอร์สัน สอดมาจากแถวสอง หลุดมาทางเขตโทษด้านขวา แล้วตอกส้นมาให้ ซัวเรซ บรรจงหยอดมาเสาไกล จอห์น ฟลานาแกน วอลเลย์ย้อนศรแบบเต็มข้อเสียบใต้คาน “เดอะ เรดส์” เน้นครองบอลเป็นส่วนใหญ่ ก่อนฉีกหนี 4-0 นาที 84 หลุยส์ อัลแบร์โต จ่ายมาที่ว่างให้ ซัวเรซ หลุดมาทางเขตโทษด้านซ้าย แล้วชิปข้ามหัว โยริส ซุกก้นตาข่าย
“เครื่องจักรสีแดง” ทำงานต่อเนื่อง ก่อนย้ำชัยอย่างเด็ดขาดนาที 89 ซัวเรซ จ่ายทะลุช่องมาให้ สเตอร์ลิง แปผ่าน โยริส ซุกก้นตาข่าย จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะไป 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 33 แต้ม จาก 16 นัด แซง เชลซี ขึ้นรองจ่าฝูง ตาม อาร์เซนอล 2 แต้ม
รายชื่อ 11 ตัวจริง
สเปอร์ส : ฮูโก โยริส , คายล์ วอล์คเกอร์ , เอเตียนน์ คาปู , คายล์ นอฟตัน , ไมเคิล ดอว์สัน , อารอน เลนนอน , เปาลินโญ , มูซา เดมเบเล , เนเซอร์ แชดลี , ซานโดร , โรแบร์โต โซลดาโด
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์ , เกล็น จอห์นสัน , มามาดู ซาโก , มาร์ติน สเคอร์เทล , จอห์น ฟลานาแกน , ฟิลิปเป คูตินโญ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ลูคัส , โจ อัลเลน , ราฮีม สเตอร์ลิง , หลุยส์ ซัวเรซ
