ASTV ผู้จัดการรายวัน - “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย รับกดดันไม่น้อยนำ “ช้างศึก” ดวลแข้ง อินโดนีเซีย รองแชมป์เก่า ในนัดที่ 2 รอบแบ่งกลุ่ม ศึกฟุตบอลชายซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่พม่า วันนี้ (พฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2556) เพราะหากพลาดท่าเสียที “อิเหนา” แมตช์ที่ต้องดวล “เจ้าภาพ” ช่วงสุดสัปดาห์จะเป็นงานเข็นครกขึ้นภูเขาในการผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือก
ถือว่าเปิดตัวใน “เนปิดอว์ เกมส์” ได้เยี่ยมสำหรับขุนพลลูกหนัง “ช้างศึก” ไทย ที่เอาชนะ ติมอร์ เลสเต 3-1 โดย เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง วางหมาก 4-3-3 ลงสู้ โดยแนวรุกใช้แท็กติก “เจ้ากอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร เป็นหัวหอกตัวเป้า ได้รับการสนับสนุนเกมริมเส้นจาก เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ กับ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ อย่างไรก็ตาม “ซิโก้” ยอมรับว่าโอกาสเข้าทำของไทยมีเยอะก็จริง แต่ประสิทธิภาพยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ในส่วนแกนหลักที่เตรียมชน อินโดนีเซีย แทบเป็นชุดเดิม
โดย ผู้รักษาประตู ยังเป็น กวินธรรม สัจจานันท์ เฝ้าเสา แผงหลังได้ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ผู้เล่นยอดเยี่ยม โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก 2013 สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงประจำการทางฝั่งซ้าย ส่วนแบ็กขวาเป็น อาทิตย์ ดาวสว่าง โดยมี สกลวัชร์ สกลหล้า กับ ประวีณวัช บุญยงค์ ยืนคู่เซนเตอร์ ขณะที่แผงกลางใช้ ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ปกเกล้า อนันต์ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ผนึกกำลังกัน อย่างไรก็ดี “ซิโก้” ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport ที่ไปเกาะติดแคมป์ “ช้างศึก” ทำนองอาจให้โอกาส ชาริล ชัปปุยส์ มิดฟิลด์ลูกครึ่งไทย-สวิส ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องเกมรุก ลงแทน ธนบูรณ์
เกียรติศักดิ์ เผยว่า “จากการได้เช็กฟอร์ม อินโดนีเซีย กองกลางกับแผงหลังยังมีจุดอ่อนให้เห็น ผมจึงคิดว่า ชัปปุยส์ น่าจะเหมาะกับเกมนี้ เพราะเขาช่วยเพิ่มมิติในแดนมิดฟิลด์ เพื่อให้เรามีโอกาสลุ้นประตูมากขึ้น ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับผลงานในสนามว่านักเตะจะเค้นฟอร์มออกมาได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนเรื่องจังหวะจบสกอร์ตอนนี้ก็ดีขึ้นเป็นลำดับ สิ่งสำคัญคือลูกทีมต้องเล่นให้ละเอียดกว่านัดแรก ห้ามประมาทเป็นอันขาด เนื่องจากคู่แข่งล้วนต้องการล้มไทยให้ได้ ลูกฮึดจึงมากเป็นพิเศษ”
นอกจากนี้ อดีตกองหน้าทีมชาติไทยวัย 40 ปี ยอมรับว่าแมตช์เจอกับ อินโดนีเซีย อาจตัดสินอนาคต “ช้างศึก” ในซีเกมส์หนนี้ก็ว่าได้ “ด่านแรกเลยคือเราจะต้องเอาชนะ อินโดนีเซีย ให้ได้สถานเดียว เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้ารอบ อย่าลืมว่านัดต่อไปวันเสาร์ต้องเจอเจ้าภาพอีก ถ้าเกิดสะดุดแพ้แข้งอิเหนา งานกับ พม่า ย่อมหนักขึ้นเป็นหลายเท่า เนื่องจากนักเตะเจ้าถิ่นได้พักมากกว่าเรา 4-5 วัน อีกทั้งมีความเป็นไปได้ที่ พม่า กับ อินโดนีเซีย ที่เจอกันเองนัดสุดท้ายอาจเล่นกันแบบจูงมือเข้ารอบรองชนะเลิศ โจทย์เดียวของไทย จึงต้องเอาชนะ อินโดนีเซีย ให้ได้ เพื่อเกมต่อไปจะได้เล่นกับ พม่า ได้แบบไม่กดดันนัก ผมเองก็สามารถปรับแท็คติกได้ง่ายขึ้นด้วย ในส่วนของการพักแข้งที่ติดคาดโทษใบเหลือง เนื่องจากซีเกมส์ครั้งนี้ไม่ได้มีการล้างโทษให้แต่อย่างใด เมื่อเข้าสู่รอบต่อไป”
ด้าน “เจ้าอุ้ม” ธีราทร ที่เคยเผชิญฝันร้ายโดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนามตั้งแต่ 12 นาทีแรก ครั้งพบ อินโดนีเซีย ในซีเกมส์หนก่อน เป็นเหตุให้ไทยปราชัย 1-3 ตกรอบไป ประกาศลั่นพร้อมถอนแค้น “ตอนนี้ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เจอกันครั้งนี้ก็ขอทำเต็มที่ ต้องเอาชนะให้ได้ ผมเชื่อว่าถ้าเราไม่ประมาทก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว ส่วนเกมกับ พม่า แม้ต้องเจอเสียงโห่ก็คงไม่ใส่ใจ เพราะเราฟังไม่รู้เรื่อง จากนี้ก็อยากให้น้องๆ ช่วยกันเล่นช่วยกันประคอง เวลาส่งบอลไปแล้วก็ช่วยดูด้วยอย่าวิ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว”
ทางฝั่ง อินโดนีเซีย ภายใต้การคุมทีมของ รามัต ดาร์มาวาน ฝากทีเด็ดไว้กับ ยานดี มูนาวาร์ หอกตัวเก่งที่เคยค้าแข้งกับทีม บริสเบน โรอาร์ ในลีกออสเตรเลีย ผู้ยิงประตูชัยดับ กัมพูชา ในเกมแรกเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า โดยมี แอนดริก เวอมันส์ยาห์ ที่เล่นให้กับ เซลังกอร์ สโมสรดังของมาเลเซีย คอยปั้นเกม ขณะที่หลังบ้านได้ ดิเอโก มิเชลส์ ลูกครึ่งอินโดนีเซียน-ดัตช์ คอยคุม โดยเกมระหว่าง “ช้างศึก” พบ “อิเหนา” จะฟาดแข้งวันนี้ เวลา 16.30 น.ที่สนามตูวันนา เมืองย่างกุ้ง (ช่อง 11 ถ่ายทอดสด) จากนั้นพบ พม่า วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม เวลา 19.15 น.ก่อนปิดท้ายรอบแรกกับ กัมพูชา วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม เวลา 16.30 น.ก่อนหาอันดับ 1-2 ผ่านเข้ารอบต่อไป