คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”
ขณะที่มวลมหาชนชาวไทยผู้รักชาติกำลังเป่านกหวีดเพื่อแสดงสัญลักษณ์การต่อต้านระบอบทรราช พร้อมเคลื่อนกำลังพลเข้ากดดันตามหน่วยงานราชการต่างๆ โดยมีเป้าหมายคือล้มล้างรัฐบาล เวลาเดียวกันนี้ทัพนักเตะทีมชาติไทยก็ได้กรีธาทัพถึงประเทศพม่าเป็นที่เรียบร้อย เพื่อทำศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 27 โดยมีภารกิจยึดเหรียญทองจากการแข่งขัน 4 ประเภท ได้แก่ ฟุตบอลชาย, ฟุตบอลหญิง, ฟุตซอลชาย และ ฟุตซอลหญิง
สำหรับทัพฟุตบอลชายภายใต้การคุมทีมของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่เบิกทางนำร่องเป็นทีมแรกก็เจอปัญหาตั้งแต่หัววัน เมื่อเจ้าภาพไม่ได้จองสนามซ้อมไว้ให้ทำให้ต้องเปลี่ยนโปรแกรมการซ้อมแบบกะทันหัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้ออ้างหากพลาดท่าชวดเหรียญทอง เพราะ “ช้างศึก” ชุดนี้มีเวลาเก็บตัวมาแรมปี และมีโปรแกรมลับแข้งทุกเดือน แถมยังได้รับการซัปพอร์ตจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในทุกด้าน เรียกได้ว่าลูกรักเลยทีเดียว มีแข้งดังอย่าง “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก 2013 นำทัพร่วมกับ “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, “ตอง” กวิน ธรรมสัจจานันท์ และแข้งวัยห่ามรวม 20 ชีวิต
โดยโปรแกรมแรกจะดวลกับ ติมอร์ เลสเต วันที่ 7 ธันวาคม ต่อด้วยพบ อินโดนีเซีย (รองแชมป์เก่า) 12 ธันวาคม, พม่า (เจ้าภาพ) 14 ธันวาคม และปิดท้ายกับ กัมพูชา 16 ธันวาคม ที่สนามตูวันนา เมืองย่างกุ้ง ทุกนัด ซึ่งหากวิเคราะห์แล้ว โอกาสที่จะผ่านเข้าไปฟาดแข้งต่อที่กรุงเนปิดอว์ในรอบรองชนะเลิศถือว่ามีสูง คู่แข่งอย่าง ติมอร์ แม้จะใช้นักเตะโอนสัญชาติจากบราซิล 6 ราย แต่ก็ไม่น่าจะเป็นงานยากของไทย เนื่องจากแข้งส่วนใหญ่ล้วนเคยชินกับการปะทะในระดับสโมสรมาแล้ว ที่เหลือก็ต้องวัดกันว่าจะเข้าเป็นอันดับ 1 หรือ 2 เพราะทั้ง พม่า และ อินโดนีเซีย ต่างก็เตรียมตัวมาดี ส่วนกัมพูชานั้นแทบจะมองข้ามไปได้เลย หลังจากนี้สิ่งสำคัญคือรอบตัดเชือก โอกาสที่จะโคจรไปเจอกับ สิงคโปร์ หรือ เวียดนาม ซึ่งประมาทไม่ได้เช่นกัน สุดท้ายต้องยอมรับว่าด้วยการเตรียมทีมที่พร้อมสรรพหากพลาดเหรียญทองนี้อีก “ซิโก้” และสมาคมฟุตบอลฯคงจำต้องพิจารณาตัวเอง
ขณะที่ฟุตบอลหญิง “โค้ชจุ่น” จตุพร ประมลบาล กุนซือใหญ่ ชวดใช้งาน พิสมัย สอนไสย์ กองหน้าตัวหลัก เนื่องจากบาดเจ็บที่เข่า แต่ยังมี “ฝน” นิสา ร่มเย็น หอกตัวเก่ง กับ “ไหม” ธนีกาญจน์ แดงดา น้องสาวแท้ๆ ของ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นทีเด็ด โดยไทยแชมป์ 4 สมัย ที่ร้างเหรียญทองตั้งแต่ปี 2007 จะลงแข่งที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเดิมพบ ติมอร์ วันที่ 12 ธันวาคม ต่อด้วย มาเลเซีย วันที่ 14 ธันวาคม และ ลาว วันที่ 16 ธันวาคม หา 2 ทีมเข้ารอบ ซึ่งโอกาสที่จะลุ้นหวนความสำเร็จนั้นยังไม่สดใส เพราะแม้จะผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ แต่รอบต่อไปยังมีสิทธิ์ต้องเจอก้างชิ้นโตอย่าง พม่า และ เวียดนาม หนำซ้ำก่อนแข่งยังมีข่าวเล็ดออกมาว่าหลายรายไม่ได้เงินเบี้ยเลี้ยงมากว่า 3 เดือนแล้ว
ฟาก ฟุตซอล ทีมชาย แชมป์เก่า 2 สมัย หายห่วงการันตีเหรียญทองได้เลย เพราะลูกทีมของ วิคเตอร์ เฮอร์มันน์ เฮดโค้ชฮอลแลนด์นั้นเหนือกว่าเพื่อนบ้านอย่างชัดเจน “อาร์ม” ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กับ “ช้าง” กฤษดา วงษ์แก้ว ฝีเกือกเข้าขั้นระดับโลกแล้ว เรียกได้ว่าหาดชวดแชมป์เตรียมหาปี๊บไว้คลุมหัวได้เลย ที่แฟนบอลไทยอยากเห็นก็คือแข้งดาวรุ่งกำลังเสริมนั้นจะทดแทนรุ่นพี่ได้ดีขนาดไหนมากกว่า โดยนัดแรกพบ ลาว วันที่ 9 ธันวาคม ต่อด้วย เวียดนาม วันที่ 15 ธันวาคม
ปิดท้ายที่ฟุตซอลหญิง ในฐานะแชมป์เก่า 2 สมัย ยังไงเด็กของ “โค้ชเอ๋” พัทยา เปี่ยมคุ้ม ก็ต้องคว้าเหรียญทองมาเชยชมให้ได้สถานเดียวเฉกเช่นทีมชาย ตัวหลักอย่าง ประภัสภรณ์ ศรีโรจน์ กับ จิระประภา นิ่มรัตนสิงห์ ยังอยู่ครบ โดยมีคิวพบ ติมอร์ วันที่ 12 ธันวาคม ต่อด้วย มาเลเซีย 14 ธันวาคม และ ลาว 16 ธันวาคม แต่คู่แข่งที่แท้จริงและคาดว่าจะต้องชิงชัยกันในรอบชิงชนะเลิศคงเป็น เวียดนาม รองแชมป์เก่า ที่เตรียมทีมมาดี บินไปเก็บตัวถึงประเทศญี่ปุ่น แถมยังมี “โค้ชหมี” รักษ์พล สายเนตรงาม ที่พาไทยเถลิงบัลลังก์ครั้งก่อน นั่งแท่นเป็นกุนซือใหญ่ให้ด้วย
ขณะที่มวลมหาชนชาวไทยผู้รักชาติกำลังเป่านกหวีดเพื่อแสดงสัญลักษณ์การต่อต้านระบอบทรราช พร้อมเคลื่อนกำลังพลเข้ากดดันตามหน่วยงานราชการต่างๆ โดยมีเป้าหมายคือล้มล้างรัฐบาล เวลาเดียวกันนี้ทัพนักเตะทีมชาติไทยก็ได้กรีธาทัพถึงประเทศพม่าเป็นที่เรียบร้อย เพื่อทำศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 27 โดยมีภารกิจยึดเหรียญทองจากการแข่งขัน 4 ประเภท ได้แก่ ฟุตบอลชาย, ฟุตบอลหญิง, ฟุตซอลชาย และ ฟุตซอลหญิง
สำหรับทัพฟุตบอลชายภายใต้การคุมทีมของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่เบิกทางนำร่องเป็นทีมแรกก็เจอปัญหาตั้งแต่หัววัน เมื่อเจ้าภาพไม่ได้จองสนามซ้อมไว้ให้ทำให้ต้องเปลี่ยนโปรแกรมการซ้อมแบบกะทันหัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้ออ้างหากพลาดท่าชวดเหรียญทอง เพราะ “ช้างศึก” ชุดนี้มีเวลาเก็บตัวมาแรมปี และมีโปรแกรมลับแข้งทุกเดือน แถมยังได้รับการซัปพอร์ตจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในทุกด้าน เรียกได้ว่าลูกรักเลยทีเดียว มีแข้งดังอย่าง “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก 2013 นำทัพร่วมกับ “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, “ตอง” กวิน ธรรมสัจจานันท์ และแข้งวัยห่ามรวม 20 ชีวิต
โดยโปรแกรมแรกจะดวลกับ ติมอร์ เลสเต วันที่ 7 ธันวาคม ต่อด้วยพบ อินโดนีเซีย (รองแชมป์เก่า) 12 ธันวาคม, พม่า (เจ้าภาพ) 14 ธันวาคม และปิดท้ายกับ กัมพูชา 16 ธันวาคม ที่สนามตูวันนา เมืองย่างกุ้ง ทุกนัด ซึ่งหากวิเคราะห์แล้ว โอกาสที่จะผ่านเข้าไปฟาดแข้งต่อที่กรุงเนปิดอว์ในรอบรองชนะเลิศถือว่ามีสูง คู่แข่งอย่าง ติมอร์ แม้จะใช้นักเตะโอนสัญชาติจากบราซิล 6 ราย แต่ก็ไม่น่าจะเป็นงานยากของไทย เนื่องจากแข้งส่วนใหญ่ล้วนเคยชินกับการปะทะในระดับสโมสรมาแล้ว ที่เหลือก็ต้องวัดกันว่าจะเข้าเป็นอันดับ 1 หรือ 2 เพราะทั้ง พม่า และ อินโดนีเซีย ต่างก็เตรียมตัวมาดี ส่วนกัมพูชานั้นแทบจะมองข้ามไปได้เลย หลังจากนี้สิ่งสำคัญคือรอบตัดเชือก โอกาสที่จะโคจรไปเจอกับ สิงคโปร์ หรือ เวียดนาม ซึ่งประมาทไม่ได้เช่นกัน สุดท้ายต้องยอมรับว่าด้วยการเตรียมทีมที่พร้อมสรรพหากพลาดเหรียญทองนี้อีก “ซิโก้” และสมาคมฟุตบอลฯคงจำต้องพิจารณาตัวเอง
ขณะที่ฟุตบอลหญิง “โค้ชจุ่น” จตุพร ประมลบาล กุนซือใหญ่ ชวดใช้งาน พิสมัย สอนไสย์ กองหน้าตัวหลัก เนื่องจากบาดเจ็บที่เข่า แต่ยังมี “ฝน” นิสา ร่มเย็น หอกตัวเก่ง กับ “ไหม” ธนีกาญจน์ แดงดา น้องสาวแท้ๆ ของ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นทีเด็ด โดยไทยแชมป์ 4 สมัย ที่ร้างเหรียญทองตั้งแต่ปี 2007 จะลงแข่งที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเดิมพบ ติมอร์ วันที่ 12 ธันวาคม ต่อด้วย มาเลเซีย วันที่ 14 ธันวาคม และ ลาว วันที่ 16 ธันวาคม หา 2 ทีมเข้ารอบ ซึ่งโอกาสที่จะลุ้นหวนความสำเร็จนั้นยังไม่สดใส เพราะแม้จะผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ แต่รอบต่อไปยังมีสิทธิ์ต้องเจอก้างชิ้นโตอย่าง พม่า และ เวียดนาม หนำซ้ำก่อนแข่งยังมีข่าวเล็ดออกมาว่าหลายรายไม่ได้เงินเบี้ยเลี้ยงมากว่า 3 เดือนแล้ว
ฟาก ฟุตซอล ทีมชาย แชมป์เก่า 2 สมัย หายห่วงการันตีเหรียญทองได้เลย เพราะลูกทีมของ วิคเตอร์ เฮอร์มันน์ เฮดโค้ชฮอลแลนด์นั้นเหนือกว่าเพื่อนบ้านอย่างชัดเจน “อาร์ม” ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กับ “ช้าง” กฤษดา วงษ์แก้ว ฝีเกือกเข้าขั้นระดับโลกแล้ว เรียกได้ว่าหาดชวดแชมป์เตรียมหาปี๊บไว้คลุมหัวได้เลย ที่แฟนบอลไทยอยากเห็นก็คือแข้งดาวรุ่งกำลังเสริมนั้นจะทดแทนรุ่นพี่ได้ดีขนาดไหนมากกว่า โดยนัดแรกพบ ลาว วันที่ 9 ธันวาคม ต่อด้วย เวียดนาม วันที่ 15 ธันวาคม
ปิดท้ายที่ฟุตซอลหญิง ในฐานะแชมป์เก่า 2 สมัย ยังไงเด็กของ “โค้ชเอ๋” พัทยา เปี่ยมคุ้ม ก็ต้องคว้าเหรียญทองมาเชยชมให้ได้สถานเดียวเฉกเช่นทีมชาย ตัวหลักอย่าง ประภัสภรณ์ ศรีโรจน์ กับ จิระประภา นิ่มรัตนสิงห์ ยังอยู่ครบ โดยมีคิวพบ ติมอร์ วันที่ 12 ธันวาคม ต่อด้วย มาเลเซีย 14 ธันวาคม และ ลาว 16 ธันวาคม แต่คู่แข่งที่แท้จริงและคาดว่าจะต้องชิงชัยกันในรอบชิงชนะเลิศคงเป็น เวียดนาม รองแชมป์เก่า ที่เตรียมทีมมาดี บินไปเก็บตัวถึงประเทศญี่ปุ่น แถมยังมี “โค้ชหมี” รักษ์พล สายเนตรงาม ที่พาไทยเถลิงบัลลังก์ครั้งก่อน นั่งแท่นเป็นกุนซือใหญ่ให้ด้วย