ASTV ผู้จัดการรายวัน – 20 ขุนพล ทัพฟุตบอลชายทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มีภารกิจบุกแดนหม่องเพื่อทวงศักดิ์ศรีเจ้าอาเซียนกลับคืนมาในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า โดยจะประเดิมสนามนัดแรก พบ ติมอร์ เลสเต วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคมนี้ ที่สนามตูวันนา เมืองย่างกุ้ง เวลา 15.30 น.ตามเวลาประเทศไทย ต่อด้วยพบ อินโดนีเซีย วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม และ พม่า วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม ก่อนปิดท้ายรอบแรก กลุ่มบี กับ กัมพูชา วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม จากนั้นจะเป็นรอบตัดเชือกวันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม และชิงชนะเลิศวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม MGR SPORT จึงขอพาไปสอดส่อง 6 ทีมคู่แข่งที่มีศักยภาพอาจเป็นก้างขวางคอช้างศึกให้ได้รู้จักกัน
ติมอร์ เลสเต : ทีมอันดับ 189 ของโลกตามฟีฟาแรงกิงดูเผินๆ อาจไม่ใช่คู่ต่อกรของทัพช้างศึก แต่หากเจาะลึกลงไปจะพบว่าประมาทไม่ได้เลย เพราะคู่แข่งนัดประเดิมสนามของไทยทีมนี้ใช้ทรัพยากรอิมพอร์ตหลายชีวิต ไล่ตั้งแต่ กุนซือมี โนริโอะ สึกิตาเตะ เทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่น ที่ขยับจากชุดยู-19 ปี ขึ้นมาคุมบังเหียน ขณะที่ในส่วนตัวผู้เล่นมีแข้งโอนสัญชาติจากบราซิลถึง 6 ราย มี เปโดร เอ็นริเก หอกวัย 21 ปี ที่ค้าแข้งอยู่กับสโมสร เปโตรลินา ใน เปอร์นัมบูคาโน 1 ลีกระดับล่างในเมืองกาแฟ ล่าตาข่ายร่วมกับ บัววิดา โอเลการิโอ ดาวยิงประจำทีม รวมถึง เปาโล เฮลเบอร์ เพลย์เมกเกอร์แซมบ้า แถมยังมี เวลลิงตัน โรชา ปราการหลังที่เล่นให้กับ บางกอก เอฟซี ในศึกยามาฮ่า ลีก วัน ของประเทศไทย ยืนคุมแนวรับ
พม่า : เจ้าถิ่นเตรียมการสำหรับศึกครั้งนี้เป็นอย่างดี โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่เหรียญทอง หลังคว้าที่ 3 ได้ในซีเกมส์หนก่อน แข้งส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นที่รวมตัวกันมานานภายใต้การคุมบังเหียนของ ปาร์ค ซุน-ฮวา กุนซือชาวโสมขาวผู้มากประสบการณ์ ที่เข้ามาเปลี่ยนระบบทีมตั้งแต่ปี 2011 จึงทำให้พม่าชุดนี้มีสไตล์การเล่นคล้ายเกาหลีใต้คือ วิ่งไม่มีหมดตลอด 90 นาที โดยมี จี หลิน กองกลางตัวเก่งคอยป่วนเกม ร่วมกับ คยอ เซยาร์ วิน มิดฟิลด์กัปตันทีม ที่เล่นให้กับ เปรัค เอฟเอ ยอดทีมจาก ซูเปอร์ลีก มาเลเซีย เป็นกำลังหลัก และแข้ง “หม่อง” ชุดนี้ยังเป็นชุดเดียวกับที่ส่งมาสู้ศึก ซูซูกิ คัพ 2012 ที่ประเทศไทย รวมถึงยังคว้าตำแหน่งรองแชมป์รายการเมอร์เดกา คัพ ครั้งที่ 41 ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาอีกด้วย
อินโดนีเซีย : คู่รักคู่แค้นทีมชาติไทย หมายมั่นปั้นมือจะกลับมาสร้างชื่ออีกครั้ง หลังหนสุดท้ายที่ได้เหรียญทองคือปี 1991 ครานี้ “อิเหนา” มี ฟานดี ยูโตโม เป็นหน้าเป้า โดยมี ยานดี มูนาวาร์ หอกตัวเก่งที่เคยค้าแข้งกับทีม บริสเบน โรอาร์ ในออสเตรเลีย เป็นตัวช่วย ขณะที่แผงกลางใช้ แอนดริก เวอมันส์ยาห์ ที่เพิ่งย้ายซบ เซลังกอร์ ทีมดังแดนเสือเหลือง โดยมี รามัต ดาร์มาวาน เป็นกุนซือ
มาเลเซีย : แชมป์เก่า 2 สมัยติด เตรียมทีมมาอย่างดี เชิญแข้ง ยู-23 ปี ในอาเซียน มาร่วมประลองเชิงในศึกเมอร์เดกา คัพ ที่ผ่านมา แถมยังผงาดคว้าแชมป์ในถิ่นตนเองอีกด้วย ซึ่งแม้จะไม่สามารถนำมาใช้การันตีเหรียญทองที่ประเทศพม่าได้ แต่ก็พูดได้ว่ายกแรกทัพ “ยัง ไทเกอร์” ของ อ่อง คิม สวี มีชัยไปกว่าครึ่ง แข้งตัวหลักอย่าง โรไซมี อับดุล ราห์มาน ที่เบิ้ล 2 ตุง ส่งไทยชุดเฉพาะกิจร่วงตกรอบเมอร์เดกาฯ ยังคงเป็นทีเด็ด ร่วมกับ อิซซัค ฟาริส รัมราน ที่หายเจ็บกลับมาช่วยทีม รวมถึง วาน ซัค ไฮคาล วัน นอร์ กับ นาซิรุล นานิม เช ฮาชิม 2 แข้งที่ไปหาประสบการณ์กับสโมสร เอฟซี ริวกิว ทีมในดิวิชัน 3 ประเทศญี่ปุ่นด้วยสัญญายืมตัว ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า “เสือเหลือง” ชุดนี้มีลุ้นถึงชิงชนะเลิศแน่นอน
เวียดนาม : อันดับ 4 ซีเกมส์ครั้งที่แล้ว เตรียมพร้อมมาเต็มสูบ ลับแข้งชนะ กาลาตาซาราย ทีมดังจาก ตุรกี 3-1, ชนะ ซานโตส จากบราซิล 3-1 และเสมอ คาชิมา อันท์เลอร์ส จากญี่ปุ่น 2-2 แต่สุดท้าย ฮวง วาน ฟุค หัวหน้าผู้ฝึกสอน อาจจำต้องปวดหัว เมื่อก่อนทัวร์นาเมนต์ผู้เล่นตัวหลักอาจไม่ได้เดินทางมาร่วมแข่งเนื่องจากถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้า แถมยังต้องเสีย มัก ฮง กวน ดาวยิงตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บ
สิงคโปร์ : ยกขุนพลจากสโมสรไลออนส์ 12 กับ ยัง ไลออนส์ มาแทบยกกระบิ มี ฮาริสส์ ฮารุน กองกลางตัวเก่งสวมปลอกแขนกัปตันทีม ขณะที่แนวรุกพึ่ง ชาฟิก กานี กับ ซาฮิล ซูไฮมี ที่มีทั้งความเร็วและความคม เป็นทีเด็ด โดยมี ไอเด อิสกันดาร์ อดีตกัปตันทีมชาติสิงคโปร์คุมทัพ ล่าสุดเพิ่งอุ่นเครื่องถล่ม ฟิลิปปินส์ 6-0 ในเกมพิเศษช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุไห่เยี่ยน พร้อมกันนี้กุนซือลอดช่องยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้เหมือนสมัยที่ตนเองเป็นผู้ช่วยให้กับ ราดอจโก อัฟราโมวิช นำชุดชุดใหญ่เถลิงแชมป์ ซูซูกิ คัพ