สนุกเกอร์ไทย แยกทางกับ “แสงโสม” ได้ไม่นาน ล่าสุดได้ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เข้าเป็นสปอนเซอร์หลักรายใหม่เป็นที่เรียบร้อย โดยจะสนับสนุนงบประมาณปีละ 5 ล้านบาท เพื่อส่งแข่งขัน 7 รายการ จากการเปิดเผยของ นายศักดา รัตนสุบรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย
นายศักดา รัตนสุบรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากสมาคมฯได้ประกาศแยกทางกับเครื่องดื่ม “แสงโสม” ในเครือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่ให้การสนับสนุนกีฬาสอยคิวมายาวนานเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา จนทำให้วงการสนุกเกอร์ไทยเกิดปัญหาและความกังวลใจเกี่ยวกับสปอนเซอร์รายใหม่ที่จะให้การสนับสนุนในอนาคต และอาจทำให้กีฬาชนิดนี้ที่เป็น 1 ใน 13 ชนิดกีฬาอาชีพจาก กกท.ต้องกลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่นั้น
ล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้คณะกรรมการบริหารสมาคมได้ประชุมปรึกษาหารือร่วมกันมาโดยตลอด พร้อมยอมรับข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นการจากกันด้วยดีระหว่างสมาคมฯกับ “แสงโสม” แต่ในส่วนของการจัดการแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลก ปีละ 1 ครั้งช่วงเดือน ก.ค.ที่เชิญนักแทงมือท็อป 1 ใน 16 ของโลกเดินทางมา และการแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดงแสงโสมตามจังหวัดต่างๆ ทั่วไทยยังคงดำเนินการร่วมกับสมาคมเหมือนเดิม
ทั้งนี้ปัญหาที่ทุกคนหนักใจเกี่ยวกับสปอนเซอร์รายใหม่นั้น ล่าสุดจากการเจรจาของ “บิ๊กสิน” นายสินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมฯ กับบอร์ดบริหารของ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ปรากฏว่า มีความพร้อมและยินดีจะเข้ามาสนับสนุนสมาคมต่อจาก “แสงโสม” หลังทรูวิชั่นส์มีความชำนาญและเชี่ยวชาญในเรื่องการถ่ายทอดสดกีฬาระดับโลก อีกทั้งที่ผ่านมากีฬาชนิดนี้ก็ได้รับความนิยมและสนใจจากทรูวิชั่นส์เป็นอย่างมาก
ทางผู้บริหารของทรูวิชั่นส์จึงมีความสนใจที่จะให้การสนับสนุนเต็มที่ เฉลี่ยงบประมาณที่จะได้รับปีละ 5 ล้านบาท รวมทั้งหมด 7 รายการต่อปี สำหรับการแข่งขขันสนุกเกอร์อาชีพไทยแลนด์แร็งกิ้งปี 2014 ที่จะให้นักกีฬาทั้งดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 เกือบ 300 คนร่วมพิสูจน์ฝีมือเพื่อเฟ้นหาตัวแทนทีมชาติต่อไป
“คิวทอง” นายศักดา อุปนายกสมาคมฯ ยังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการยกเลิกสัญญาก่อนหน้านี้กับ “แสงโสม” ย่อมมีผลกระทบและทำให้ทุกฝ่ายกังวลใจเป็นเรื่องธรรมดา สาเหตุเพราะสมาคม กับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ นั้น ทำงานร่วมกันมาช้านานแถมยังปลุกปั้นนักกีฬาหน้าใหม่ๆ ประดับวงการมาโดยตลอด มีเพียงแค่ปัญหาบางข้อเท่านั้นเอง โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณที่ตกลงกันไม่ได้ จึงขอยุติการต่อสัญญาและจากกันด้วยดีเป็นทางออกที่ดีที่สุด
นับว่ายังโชคดีที่ได้ บริษัท ทรูวิชั่นส์ เข้ามาโดดอุ้มสนับสนุนได้ทันเวลา เนื่องจากเวลานี้เรามีนักสนุกเกอร์ระดับอาชีพในเมืองไทยเป็นจำนวนมาก หากไม่มีการจัดการแข่งขันแบบลีกอาชีพขึ้นมา เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่กีฬาชนิดนี้เคยสร้างชื่อเสียงและผลงานให้กับประเทศชาติมาโดยตลอดต้องเงียบเฉาตายเหมือนในอดีต คาดว่า อีกไม่นานจากนี้ไปน่าจะมีการเปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการกับสปอนเซอร์เจ้าใหม่รายนี้
