ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์ - เมื่อวันที่ 2 และ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้เขียนได้รับเชิญจาก “ไนกี้ ประเทศไทย” ให้เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวไปร่วมกิจกรรมวิ่งที่ชื่อว่า “Nike We Run 2013” ถึงสิงคโปร์ งานนี้พิเศษเพราะมี “บอย” พีระสิฐ พลตาล นักร้องนำวง “โลโมโซนิค” วงดนตรีร็อกขวัญใจวัยรุ่นผู้คลั่งไคล้การวิ่งเป็นชีวิตจิตใจร่วมแข่งขันด้วย โดยกำหนดระยะทางอยู่ที่ 10 กิโลเมตร ถือเป็นมาตรฐานของปอดเหล็กทั่วไป
ก่อนเดินทาง “ไนกี้” ได้ส่งผลิตภัณฑ์มาให้ทดสอบ เพราะเป็นนวัตกรรมชิ้นใหม่ที่ออกแบบเพื่อนักวิ่งโดยเฉพาะ คือเสื้อ “ไนกี้ ไดร-ฟิต ทัช เทลวินด์” (Nike Dri-FIT Touch Tailwind) ที่มีทั้งแบบแขนสั้นและแขนกุดให้เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละคน ครั้งแรกที่เห็นมีอันต้องสะดุดตากับสีสันที่สดใสและเมื่อจับดูก็รู้สึกได้ว่าไม่ใช่เสื้อธรรมดาทั่วๆ ไป เพราะตัดเย็บขึ้นจากวัสดุผ้าตาข่าย “ไนกี้ ไดร-ฟิต” แบบทอหน้าเดียว (Single-knit) จึงนุ่มสบายเป็นพิเศษ สิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬาทุกคนที่ต้องการคือช่วยซับเหงื่อจากร่างกายออกสู่ผิวด้านนอกของเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกแห้งสบายตัวอยู่ตลอดเวลาแถมมีน้ำหนักเบา บริเวณแถบเชื่อมติดบนหัวไหล่ยังได้เน้นตะเข็บแบบไร้รอยเย็บ เพื่อเพิ่มความทนทานไว้ด้วย
เมื่อเห็นดังนี้จึงอดใจไม่ไหวขอลองใส่ฟิตซ้อมในเย็นวันนั้นทันที เพื่อทดสอบว่าจะช่วยในการวิ่งได้จริงหรือไม่ และเมื่อสวมครั้งแรกก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มสบาย รวมทั้งน้ำหนักที่เบาและยืดหยุ่นดั่งที่ว่าไว้จริง ขณะที่รูปทรงก็มีสไตล์ที่ทันสมัย บริเวณชายเสื้อคล้อยต่ำลงเพื่อปกปิดร่างกายและเพิ่มความกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนเรื่องสีนี่ไม่ต้องพูดถึงเพราะโดดเด่นมาแต่ไกล แถมยังสะท้อนแสงในที่ที่มีสภาพแสงจำกัดได้ชัดเจน เนื่องจากส่วนใหญ่ก็จะแข่งวิ่งกันช่วงเช้ามืด อีกทั้งยังมีกระเป๋าหลังทางด้านขวามือไว้เก็บของชิ้นเล็กๆ โดยมีซิปล็อกอย่างปลอดภัยแน่นหนา รวมถึงระบบการจัดการสายต่างๆ ที่ช่วยจัดระเบียบสายของอุปกรณ์ฟังเพลงขนาดเล็กทำให้สามารถฟังเพลงได้ง่ายในขณะวิ่ง
เมื่อลองวิ่งไปสักระยะก็พบว่าเจ้าเสื้อ “ไนกี้ ไดร-ฟิต ทัช เทลวินด์” ตัวนี้ ช่วยในการระบายเหงื่อได้อย่างมาก เพราะสามารถซับเหงื่อจากร่างกายออกสู่ผิวด้านนอกของเสื้อผ้าทำให้เหงื่อแห้งได้อย่างรวดเร็วไม่ติดตัวผิวหนังจนน่ารำคาญและยังมีช่องระบายอากาศใต้วงแขนพร้อมรูร้อยสาย ช่วยเพิ่มการระบายอากาศในบริเวณที่เกิดความร้อนสูงอีกด้วย ทำให้แม้จะวิ่งไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้สึกหงุดหงิดกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวของเมืองไทย
ส่วนคุณสุภาพสตรีไม่ต้องน้อยใจ เพราะ “ไนกี้” ได้มีเสื้อ “ไนกี้ ไดร-ฟิต ทัช บรีซ” (Nike Dri-FIT Touch Breeze) ให้เลือกสรรทั้งแบบแขนสั้นดีไซน์คอวี ที่แขนเสื้อตัดเฉียงจากต้นคอ (Raglan Cap Sleeves) เสริมสไตล์ให้ดูอ่อนวัยทันสมัย และแบบเว้าหลังเรเซอร์แบ็ก (Racer Back Tank) ที่มอบอิสระในการเคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ โดยเจ้าเสื้อตัวนี้ยังมีคุณสมบัติที่เบาและระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม ตัวเสื้อทำจากวัสดุโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 100% ผ้ากึ่งโปร่งแสงเป็นผลมาจากการทอเส้นด้ายแบบตีเกลียวอย่างไร้รูปแบบเข้ากับเส้นด้ายทั้งหนาและบางผสมกัน อีกทั้งยังช่วยซับเหงื่อจากร่างกายออกสู่ผิวด้านนอกของเสื้อผ้าได้ดี จึงช่วยให้นักวิ่งรู้สึกแห้งสบายตัวอยู่ตลอดเวลา สวมแล้วรู้สึกราวกับวิ่งอยู่บนอากาศ
พร้อมกันนี้ “ไนกี้” ยังส่งรองเท้า “ไนกี้ แอร์ เพกาซัส พลัส 30” (Nike Air Pegasus+ 30) น้องใหม่ล่าสุดในตระกูล “เพกาซัส” ที่สวมใส่กระชับกว่ารุ่นก่อนมาให้ทดลองใส่ในการวิ่งครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเห็นได้ว่าเจ้าตัวนี้ถูกออกแบบมาได้เหมาะกับแต่ละส่วนของเท้าอย่างดี เช่น ปลายเท้า กึ่งกลางเท้า และส้นเท้า ขณะที่จุดเด่นที่ชัดเจนอีกอย่างก็คือความนุ่มและเบา สามารถรองรับแรงกระแทกยามเท้าสัมผัสพื้นได้ดีเยี่ยม ส่วนพื้นรองเท้าก็ยึดติดกับพื้นผิว ไม่ว่าจะลุย คอนกรีต แอ่งน้ำ หรือ ป่า หญ้า ทราย ก็สบายๆรู้สึกเหมือนวิ่งอยู่บนปุยนุ่นอย่างใดอย่างนั้น ถึงแม้จะวิ่งนานแค่ไหนก็ไม่รู้สึกปวดหรือเจ็บเท้าแต่อย่างใด
สุดท้ายเมื่อได้อุปกรณ์ขั้นเทพครบครัน การวิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตรก็กลายเป็นแค่เรื่องจิ๊บๆ สำหรับผมทันทีที่สามารถวิ่งถึงเส้นชัยได้เป็นครั้งแรกในชีวิตและนอกจากสรรพคุณจะล้นเหลือแล้ว “ไนกี้” ยังคงความทันสมัยไม่ตกเทรนด์ เปลี่ยนจากการวิ่งธรรมดาให้เป็นแฟชั่นมีสไตล์ จนทำให้ต้องหยิบมาใส่วิ่งแทบทุกวันเพื่อตั้งเป้าฝึกซ้อมปรับระยะทางที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม หากไม่เชื่อหามาลองแล้วจะติดใจ
เรื่อง วัลลภ สวัสดี
