xs
xsm
sm
md
lg

นัดชิง เอฟเอคัพ 2013 วันอาทิตย์นี้ / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

หลังจาก โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก 2013 จบลงไป โดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแช้มพ์ไปครองเป็นสมัยที่ 2 พร้อมกับทำสถิติไม่แพ้ทีมใดเลยตลอดฤดูกาล แถมด้วยการเอาชนะทุกทีมคู่แข่งได้อีกด้วย อันเป็นที่มาของคำว่า “ แช้มพ์เหนือแช้มพ์ ” ต่อจากนี้รอติดตามชม ฟุตบอล เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แช้มพ์เก่าที่หวังจะคว้าถ้วยใบนี้เป็นสมัยที่ 3 กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมที่กลับมาจบฤดูกาลได้อย่างน่าพอใจด้วยโค้ชเก่าที่โดนประกาศตัดเยื่อใยจาก บุรีรัมย์ นั่นเอง

ปีนี้ บีจี เปิดฤดูกาลได้อย่างน่าผิดหวัง ผลงานไม่สมดุลกับเงินที่ลงทุนไป ยิ่งต้นฤดูกาล เปิดฉากมา 2 นัดแรกเก็บไม่ได้สักคะแนน รั้งอันดับบ๊วย และแวะเวียนอยู่ซีกล่างของตารางคะแนนนานหลายเดือน นับเป็นสถานการณ์ที่แย่ที่สุดที่พวกเขาต้องเผชิญ แต่ยังโชคดีที่ได้ โค้ชแต๊ก อรรถพล ปุษปาคม ซึ่งจำใจแยกทางจาก บุรีรัมย์ ทีมเก่าที่ตนเองก็ทำมาดีอยู่แล้ว มากอบกู้สถานการณ์ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ทำไปทำมาทีมดูดีขึ้น ค่อยๆ ขยับอันดับขึ้นมาจนจบฤดูกาลที่อันดับ 5 ถือว่าผลงานยอดเยี่ยม และจากผลงานกับทั้ง 2 ทีมดังกล่าวก็น่าจะทำให้ น้าแต๊ก ได้รับเลือกเป็น โค้ชยอดเยี่ยมประจำปี 2013 เสียด้วยซ้ำ ผมเชื่อว่า บางกอกกล๊าส คงต้องการ ถ้วยเอฟเอคัพ ใบนี้อย่างมาก ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยปลอบขวัญเยียวยาความตระหนกที่เกิดขึ้นตอนต้นฤดูกาล และเผื่อจะได้โควตาไปเตะชิงถ้วยเอเชียให้ระบืออีกด้วย

ในการเตรียมความพร้อมก่อนเกมนั้น บางกอกกล๊าส ยกพลไปซุ่มเก็บตัวถึงจังหวัดระยองเป็นเวลา 3 วัน ที่ บริษัท ระยองกล๊าส จำกัด อำเภอแกลง หวังผ่อนคลาย ได้อากาศทะเล หลังจากที่ลงสู้ศึกหนักใน โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก มาตลอดฤดูกาล และจะกลับมาด้วยความฟิตสมบูรณ์เต็มที่ อันนี้คงได้เปรียบ ปราสาทสายฟ้า อย่างแน่นอน เนื่องจากลงเตะครบโปรแกรมไปก่อนใคร จึงไม่ต้องเหนื่อยลงเตะเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

สำหรับทางด้านตัวผู้เล่น ทั้ง 2 ทีมก็มีนักเตะระดับประสบการณ์หลายตัวพอกัน เมื่อพูดถึงนักเตะจอมห้าวนั้น ถ้า บุรีรัมย์ มี อุ้ม ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายจอมบุก ทางด้าน บางกอกกล๊าส ก็มี บิ๊ก ประวีณวัช บุญยงค์ กองหลังกัปตันทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ นี่ก็พันธุ์ดุเช่นกัน ทั้ง 2 คนนี้เป็นเพื่อนกันนอกสนาม แต่ในสนามเป็นคู่ปรปักษ์อย่างมืออาชีพ

เมื่อดูกันที่ เฮดโค้ช ถ้าใครจะบอกว่า บีจี ได้เปรียบเพราะเมื่อครึ่งฤดูกาลแรก น้าแต๊ก คุม นักรบปราสาทสายฟ้า ชุดนี้มากับมือ แต่ก็ต้องทราบนะครับว่า เอ็ม อนาวิน จูจีน นั้นก็เคยอยู่กับ บีจี มาก่อน เรียกว่าแม้ยังไม่ทันเอี้ยวตัวก็รู้จังหวะกันแล้ว นอกจากนั้น คุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังบอกว่า อาเลฆานโดร เมเนนเดซ การเซีย นั้นดีกว่าใคร ปรับจูนระบบ วันทัช ได้เยี่ยมยิ่งขึ้น สร้างนักเตะแต่ละคนให้ยิ่งมีฝีมือเก่งกว่าเดิมขึ้นไปอีก และหมอนี่มีแผนการเล่นที่น่าทึ่ง จนเวลานี้ คุณเนวิน ไม่จำเป็นต้องเดินเข้าไปกระซิบข้างหูอย่างที่ทำกับโค้ชคนก่อนๆ อีกเลย

สนามลีโอ ของ คุณปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี มีโครงการจะสร้างอัฒจันทร์ให้ครบ 4 ด้าน เพิ่มความจุผู้ชมมานานแล้ว แต่ยังไม่ไปไหน การเจรจาซื้อที่ดินยังไม่สะเด็ดน้ำ แต่นี่ ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม กำหนดสร้างอัฒจันทร์เพิ่มเป็น 33,000 ที่นั่งในช่วงปิดเทอมใหญ่ มันคงไม่เกี่ยวกับการซิวแช้มพ์ เอฟเอคัพ หรอกครับ แต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ครั้นจะทำอะไร ความสำเร็จมักเดินไปด้วยกัน อันนี้ก็ด้วยความเด็ดขาดชัดเจน คิดมาก่อน วางแผนอย่างเฉียบ ทำอะไรก็เห็นผลอยู่ข้างหน้า นัดนี้แม้จะสูสีกันมาก แต่ผมก็ต้องทายว่า ยากที่จะพลาดถ้วยใบนี้ ติดตามชมที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ แข่งกัน 90 นาที ถ้าเสมอมีต่อเวลา 30 นาที หากยังไม่รู้ผลก็ดวลจุดโทษตัดสินครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น