ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ไม่บ่อยนักที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ พีจีเอ ทัวร์ จะตีข่าวก้านเหล็กฝั่งเอเชียและที่สำคัญเป็นนักกอล์ฟสายเลือดไทยให้ได้ติดตามความเคลื่อนไหว ทว่าตลอด 4 วันในศึก “ซีไอเอ็มบี คลาสสิก” ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อสัปดาห์ก่อน (24-27 ต.ค.) ประเด็นของ “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ ดาวรุ่งขวัญใจจากแดนสยามที่เกือบจะได้เป็นรุคกีหน้าใหม่ใน พีจีเอ ทัวร์ ถูกนำเสนอบนพื้นที่ หลังทำผลงานพลาดเพลย์ออฟลุ้นแชมป์ไปเพียงสโตรกเดียว แต่ยังได้ลุ้นต่อที่รายการ เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป “เอชเอสบีซี แชมเปียนส์” ที่นครเซี่ยงไฮ้ แผ่นดินมังกรต่อทันทีสัปดาห์นี้ (31 ต.ค. - 3 พ.ย.)
ที่มาที่ไปเริ่มต้นจากข่าวดีเล็กๆ ของนักกอล์ฟเอเชียหลังพีจีเอ ทัวร์ หลังการปรับปฏิทินแข่งใหม่ ในปี 2014 เริ่มต้นเร็วกว่าปกติและเอื้อประโยชน์ให้ก้านเหล็กจากซีกโลกตะวันออกได้โอกาสลุ้นการ์ดทัวร์ของพีจีเอ ง่ายขึ้น เนื่องจากปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีรายการโคแซงต์ชันระหว่าง พีจีเอ ทัวร์ และ เอเชียน ทัวร์ โดยมีจำนวน 2 รายการด้วยกันที่ “ซีไอเอ็มบี คลาสสิก” ที่ประเทศมาเลเซีย และรายการเวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป “เอชเอสบีซี แชมเปียนส์” ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
ศึก “ซีไอเอ็มบี คลาสสิก” ณ สนาม กัวลาลัมเปอร์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ที่เพิ่งผ่านพ้นไปถือเป็นสนามโปรดของ “โปรอาร์ม” เคยมาลงปะชันวงสวิงในสนามแห่งนี้มากกว่า 20 ครั้ง และยอมรับเองว่า รู้สึกเหมือนได้ลงเล่นในบ้านของตัวเองได้เปรียบทั้งสภาพอากาศและสภาพสนาม ผลงานดีที่สุดหากยังจำกันได้คือการคว้าแชมป์ “เมย์แบงค์ มาเลเซียน โอเพน” รับการ์ดยูโรเปียน ทัวร์ ไปเมื่อเดือนมีนาคม โดยกลับมาอีกครั้งจึงไม่แปลกที่เขาพกฟอร์มน่าประทับใจเบียด ไรอัน มัวร์ และ แกรี วูดแลนด์ 2 ก้านเหล็กมะกันอย่างสูสี แต่น่าเสียดายที่ไล่ไม่ทันพลาดการไปเพลย์ออฟลุ้นแชมป์
“ผมค่อนข้างจะพอใจกับการเล่นของตัวเองสัปดาห์นี้ เป้าหมายของผมหวังว่า ติดท็อป 10 เท่านั้น แค่นี้ก็มีความสุขมาก แนวการการตีบุกของผมทำได้ดีและมันเป็นผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่คว้าแชมป์ เมย์แบงค์ มาเลเซีย โอเพน ต้องขอบคุณครอบครัว และแฟนๆ กอล์ฟด้วย นี่คือความรู้สึกเหมือนเล่นในบ้านตัวเอง” กิรเดช กล่าว
อย่างไรก็ดี แม้ยังไม่ได้ไปพีจีเอ ทัวร์ ตามความฝันที่ประกาศไว้ แต่โปรกอล์ฟเจ้าของฉายา จอห์น เดลี เมืองไทย รับทรัพย์จากการจบที่ 3 อีก 406,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 12.1 ล้านบาท) ยึดตำแหน่งผู้นำเงินรางวัลสะสมของเอเชียน ทัวร์ ที่ยอดรวม 1,117,074 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 33.5 ล้านบาท) ทิ้ง สกอตต์ เฮนด์ อันดับ 2 จากออสเตรเลียแบบไม่เห็นฝุ่น อย่างน้อยหากจบฤดูกาลด้วยเจ้าของตำแหน่ง “ออเดอร์ ออฟ เมอร์ริท” เอเชียน “โปรอาร์ม” จะได้สิทธิ์ร่วมแข่งเมเจอร์ “ดิ โอเพน” ในปี 2014 แน่นอน
สวิงวัย 24 ปี เก็บคะแนนสะสมเฟดเอ็กซ์ คัพ ของนี้ไปแล้ว 163 แต้ม และลงแข่งเวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป “เอชเอสบีซี แชมเปียนส์” ที่นครเซี่ยงไฮ้ ต่อทันที ซึ่งหากว่าสามารถเก็บแต้มเฟดเอ็กซ์ คัพ หรือ เงินรางวัลสะสมตามเกณฑ์ที่กำหนด เขามีสิทธิ์จะได้สถานะเป็นสมาชิกชั่วคราวของพีจีเอ ทัวร์ ได้สิทธิ์รับเชิญจากสปอนเซอร์รายต่างๆ ให้ลงแข่งขันในทัวร์ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมสูงสุดของโลก เพื่อกรุยทางลุ้นการ์ดแบบเต็มฤดูกาลต่อไป โดยสิ่งที่น่ายินดีและคอนเฟิร์มแน่นอนแล้ว 1 รายการคือศึก “เดอะ แม็คกลาดรีย์ คลาสสิก” ที่รัฐจอร์เจีย แผ่นดินลุงแซม ในวันที่ 7-10 พ.ย. และหาก “อาร์ม” สามารถจบอันดับท็อป 10 หรืออันดับที่น่าประทับใจเขามีสิทธิ์ได้การ์ดชั่วคราวของพีจีเอเช่นกัน
“ผมคิดว่าโปรแกรมแข่งจะเปลี่ยนแปลงไปหลังจากนี้ หากผมมีโอกาสทำสำเร็จแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ ผมก็จะพยายามทำให้ได้” ก้านเหล็กความหวังของไทย กล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่เสียงชื่นชมมากมายจากบรรดาโปรดังแถวหน้าของโลก “เลฟตี” ฟิล มิคเคลสัน ก้านเหล็กมือ 3 ของโลกจากสหรัฐฯ ที่ออกรอบก๊วนเดียวกันในช่วง 2 วันแรก ที่มาเลเซีย กล่าวว่า “เขาคือนักกอล์ฟที่ดีและตีบอลได้ไกลด้วย ผมคิดว่านี่เป็นความแข็งแกร่งและจุดเด่นในเกมของของเขาเลย แถมยังเล่นช็อตรอบๆ กรีนได้ดี สิ่งเหล่านี่คือจุดแข็งของเขาและไม่ต้องแปลกใจถ้าเขาจะมีฟอร์มที่ดี”
ส่วนทางด้าน เค เจ ชอย สมาชิกกิตติมศักดิ์ของเอเชียน ทัวร์ ที่มีประสบการณ์ไปลุย พีจีเอ ทัวร์ มาแล้ว ยกย่อง กิรเดช ที่เคยลงเล่นก๊วนเดียวกันในรายการ “ซีจี อินวิเตชันแนล” ที่ประเทศเกาหลี เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนว่า “เขามีเกมที่ดีมากๆ เป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบ ข้อดีของเขาเลยคือเป็นนักกอล์ฟที่เล่นได้รวดเร็ว มีความพร้อมตื่นตัวเสมอเหมือนกับรถถัง พร้อมที่จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเสมอ สไตล์การเล่นที่ดุดันของเขาเป็นสิ่งดีถ้าหากว่ายังรักษาฟอร์มได้ต่อไปผู้เล่นหลายคนจะต้องชอบและเขาจะได้รับความเคารพมากขึ้นแน่นอน”
ทั้งนี้สำหรับเป้าหมายเดียวและถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของ “โปรอาร์ม” ที่เคยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport และเน้นย้ำทุกครั้งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา คือการพาธงไทยไปปักในเวที พีจีเอ ทัวร์ให้ได้ในอนาคต ซึ่งรอยต่อช่วงปิด-เปิดฤดูกาลใหม่นี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่แฟนกอล์ฟชาวไทยต้องลุ้นและส่งใจเชียร์กันต่อไป
เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล