ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2013-14 เปิดฉากมาแค่ 9 นัด แต่ก็เริ่มเห็นอะไรเป็นรูปเป็นร่างบ้างแล้วว่าจะเป็นปีที่ยากจะคาดเดาเต็มไปด้วยคำถามมากมายจนเกจิจากหลายสำนักไม่กล้าฟันธง เนื่องจากซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ละสโมสรมีการเปลี่ยนแปลงยกใหญ่ไล่ตั้งแต่ตำแหน่งกุนซือที่ถือว่าไม่บ่อยครั้งนักกับการที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี, เชลซี และ เอฟเวอร์ตัน จะได้นายใหญ่คนใหม่พร้อมกัน ด้าน “อีเอสพีเอ็น” สื่อดังจึงวิเคราะได้ประเด็นใหญ่ 5 ข้อที่นำมาถ่ายทอดดังต่อไปนี้
ยังไม่ใช่ เชลซี ปี 2004-07 - โชเซ มูรินโญ กลับมาคุมถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ คำรบ 2 สร้างความตื่นเต้นให้แฟนๆ แต่เล่นไปเล่นมายังไม่แกร่งเท่าหนแรกที่พาทีมกวาดทุกแชมป์บนเกาะอังกฤษ แม้จะมีขุมกำลังมากมายให้เลือกล้นมือ แต่ยังไม่ได้ 11 คนแรกที่โดนใจที่สุดรวมถึงแผนการเล่นที่ลงล็อก อีกสิ่งที่หายไปคือการแก้เกมอันโดดเด่นเหมือนสมัยก่อนของกุนซือชาวโปรตุกีสที่พลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ ชัยชนะที่ได้มาเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-1 ที่บ้านตนเอง ก็มาจากความบังเอิญเท่านั้น ดังนั้นการรั้งอันดับ 2 จึงถือว่าแค่มาตรฐาน
ยังไม่ถึงเวลา แมนฯซิตี - เป้าหมายของ “เรือใบสีฟ้า” ถือถ้วย พรีเมียร์ ลีก และ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก แต่ปัญหายังมีให้เห็นและ มานูเอล เปเยกรินี กุนซือใหม่ต้องขบคิดกันต่อไป ไล่ตั้งแต่แดนหน้า เซร์คิโอ อกูเอโร ยิงอยู่คนเดียว กองกลางแม้จะมีตัวเลือกมากมาย ดาบิด ซิลบา, ซาเมียร์ นาสรี, เฆซุส นาบาส และ เฟอร์นานดินโญ แต่ไม่มีใครโดดเด่น ด้านกองหลัง แวงซองต์ กอมปานี หัวใจสำคัญบาดเจ็บออดๆ แอดๆ จนเสียประตูเป็นว่าเล่น ส่วน โจ ฮาร์ท มือ 1 ทีมชาติอังกฤษก็เพิ่งออกลูกเหวอที่ทำให้บุกพ่าย เชลซี 1-2 ในนาทีสุดท้ายแบบเจ็บปวด
SAS สัญญาณอันตราย - หลุยส์ ซัวเรซ กับ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ 2 ศูนย์หน้าประสานงานจนยิงรวมกันไปแล้ว 14 ประตูพา ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 3 ตามจ่าฝูง อาร์เซนอล แค่ 2 แต้ม ถือเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จที่จะต้องมีแข้งที่ซัดเป็นกอบเป็นกำและต่อเนื่องทั้งฤดูกาล อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาฟอร์มตกก็ต้องมีตัวช่วยที่กวาดสายตาไปเห็น สตีเวน เจอร์ราร์ด กองกลางรุ่นอาวุโสวัย 33 ปีคงพึ่งไม่ได้มากนัก คงต้องรอ ฟิลิปเป คูตินโญ ตัวปั้นเกมชาวแซมบ้าฟิตกลับจากอาการบาดเจ็บก่อน แต่รวมแล้วถือว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือถิ่น แอนฟิลด์ ทำได้ดีกว่าปีที่แล้ว
คำถามที่รอคำตอบ - เป็นฤดูกาลแห่งการเปลี่ยนแปลง ทำให้แม้ อาร์เซนอล จะรั้งจ่าฝูง หลังใช้นโยบายทุ่มค่าตัวสถิติสโมสร 42.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,125 ล้านบาท) ซื้อ เมซุต โอซิล จอมทัพมาจาก รีล มาดริด แต่ต้องดูยาวๆ ว่าจะแผ่วช่วงไหน ด้าน แมนฯยูไนเต็ด ก็ใช้นายใหญ่คนใหม่รอบ 27 ปีภายใต้บังเหียน เดวิด มอยส์ จึงเกาะแค่ที่ 8 แต่ถ้าได้ทีมที่ลงตัวก็ยังกาชื่อทิ้งไม่ได้ เช่นเดียวกับ เอฟเวอร์ตัน ที่เปลี่ยนโค้ชรอบ 11 ปีใช้ โรเบอร์โต มาร์ติเนซ ส่วน เซาแธมป์ตัน ก็บินสูงที่ 5 ด้วยฝีมือของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน แน่นอนว่าเวลาจะให้คำตอบเอง
ตกชั้นเปิดกว้าง - ถือเป็นฤดูกาลที่มีแนวโน้มว่าจะเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับโซนตกชั้น จึงเป็นเรื่องที่คาดเดายากอย่างยิ่งว่าใครจะชะตาขาด หลังจาก ซันเดอร์แลนด์ คว้า 3 แต้มแรกด้วยการเปิดบ้านเฉือน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนครึ่งตารางล่างแต่ละรายฟอร์มไม่คงเส้นคงวาเอาเสียเลย เห็นจะมีเพียงบ๊วยอย่าง “น้องใหม่” คริสตัล พาเลซ ที่ดูทรงแย่กว่าใครเพื่อน ขณะที่ 2 ปีก่อนหน้านี้ทีมอันดับ 17 เหนือโซนแดงที่รอดตายหวุดหวิดมีไม่ถึง 40 แต้มเรียกได้ว่ามาตรฐานเดิมใช้ไม่ได้เสมอไปแล้ว