ASTV ผู้จัดการรายวัน – แม้ศึกลูกหนังเมืองไทยจะรู้โฉมหน้าผู้ชนะแล้วทั้ง 2 ลีก คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก กับ แอร์ฟอร์ซ เอวิเอ เอฟซี แชมป์ยามาฮ่า ลีก วัน หรือ ดิวิชั น1 แต่ทั้งนี้แมตช์สุดท้ายยังมีไฮไลต์สำคัญรออยู่ทั้ง 2 ระดับชั้น โดยเป็นการลุ้นกันระหว่าง สมุทรสงคราม เอฟซี กับ พัทยา ยูไนเต็ด ว่าทีมใดจะร่วงตกชั้นสู่ลีกรอง ขณะที่ ปตท.ระยอง, สิงห์ ท่าเรือ, บางกอก เอฟซี ก็กำลังขับเคี่ยวกันอย่างสูสีลุ้นติดพื้นที่ 2 โควตาที่เหลือลิ่วตามทัพฟ้าขึ้นสู่ลีกสูงสุด
ก่อนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล หลายทีมหนีตายในศึกโตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ ลอยลำรอดตกชั้นแน่นอนแล้ว เหลือเพียงแค่ สมุทรสงคราม เอฟซี อันดับ 16 มี 29 คะแนน กับ พัทยา ยูไนเต็ด อันดับ 17 มี 26 คะแนนเท่านั้นที่ต้องลุ้นกันถึงฎีกาว่าใครจะเป็นผู้โชคร้ายได้ตั๋วมรณะที่มีเพียงใบเดียวร่วงลงสู่ลีกรอง เนื่องจากทีมอันดับ 14-15 อย่าง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี กับ สงขลา ยูไนเต็ด ที่มี 29 แต้มเท่ากันนั้นมีเฮดทูเฮดที่ดีกว่า “โลมามหาภัย” หากแพ้แล้วอันดับบ๊วยเก็บ 3 แต้มได้ก็ยังเหนือกว่าอยู่ดี
ดังนั้นแมตช์สุดท้ายวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ลูกทีมของ จเด็จ มีลาภ ต้องบุกไปเอาชนะ อินทรีเพื่อนตำรวจ สถานเดียว อีกทั้งยังต้องลุ้นให้ผลอีกคู่ สมุทรสงคราม แพ้ ราชบุรี ด้วยตนจึงจะรอด เพราะยังได้เปรียบเฮดทูเฮดที่ดีกว่า “ปลาทูคะนอง” ขณะที่เด็กของ สมชาย ชวยบุญชุม ยังมีหลายชอยส์ให้เลือก ขอเพียงผลเสมอกับ “ราชันมังกร” หรือลุ้นให้คู่แข่งไม่ชนะก็จะอยู่รอดต่อไปทันที
ส่วนการลุ้นขึ้นชั้นในศึกยามาฮ่า ลีก วัน หรือ ดิวิชัน1 นั้น ยังมีอีก 3 ทีมที่วัดกันจนนัดสุดท้ายเพื่อโควตา 2 ที่นั่ง ลิ่วตาม “อินทรีทัพฟ้า” ขึ้นลีกสูงสุด คือ ปตท.ระยอง อันดับ 2 มี 63 แต้ม, สิงห์ ท่าเรือ อันดับ 3 มี 62 แต้ม และ บางกอก เอฟซี อันดับ 3 มี 61 แต้ม ส่วนที่ 4 นครราชสีมา เอฟซี มีเพียง 51 แต้มไล่ไม่ทันแล้ว
แต่ที่เพิ่มความดราม่าให้มากขึ้นกว่าเดิมคือแมตช์สุดท้ายวันที่ 2 พฤศจิกายน นี้ ปตท.ระยอง จะต้องตัดกับ บางกอก เอฟซี ขณะที่ สิงห์ ท่าเรือ จะรับมือ แอร์ฟอร์ซ ที่เลื่อนชั้นไปแล้ว เพราะฉะนั้นผลการแข่งขันจึงสามารถพลิกโผกันได้ถึง 9 หน้าด้วยกัน โดย “พลังเพลิง” โอกาสดีกว่าเพื่อนขอเพียงแค่แต้มเดียวก็จะขึ้นชั้นทันที อีกทั้งยังมีเฮดทูเฮดที่เหนือว่า ท่าเรือ ต่อให้แพ้และอีกคู่จบด้วยผลเสมอก็จะได้สิทธิ์อยู่ดี นอกเสียจากโชคร้ายพ่ายต่อบางกอก เอฟซี และผลอีกคู่เป็น “เจ้าท่า” คว้าชัยจึงจะชวดโควตา
ส่วน “สิงห์เจ้าท่า” ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน หากเก็บชัยได้ก็ไร้ปัญหา หรือถ้าเสมอหรือแพ้ก็ลุ้นแค่อย่าให้ บางกอก เอฟซี ชนะเป็นพอ เพราะเฮดทูเฮดยังเหนือกว่า “กระทิงดุ” ซึ่งดูแล้วไม่น่าพลาด เพราะได้เล่นในรัง แพท สเตเดียม และแอร์ฟอร์ซเองก็คงไม่เต็มที่ โดยเกมที่จะถึงนี้ขุมกำลังหลักครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น แพททริค ไรย์เชลท์, เกียรติเจริญ เรืองปาน และ ทศพล ลาเทศ อีกทั้งยังลุ้นส่ง เลอันโดร เด โอลิเวียรา แข้งแซมบ้าที่ระเบิดไปแล้ว 23 ประตูนั่งตำแหน่งดาวซัลโวอีกด้วย
ทำให้งานหนักสุดจึงตกไปอยู่ที่ลูกทีมของ รอยเตอร์ โมไรรา กุนซือชาวบราซิเลียน ที่ต้องบุกไปเก็บชัยยังถิ่นพีทีที สเตเดียม สถานเดียวจึงจะได้สิทธิ์ ส่งผลให้สปอร์ตไลท์ทุกดวงส่องโฟกัสไปที่คู่นี้เป็นหลัก ทั้งยังเป็นการวัดกันระหว่างทีมที่มีเกมรุกกับเกมรับที่ดีที่สุดในลีก โดย บางกออก เอฟซี ทะลวงไปแล้ว 67 ประตู มี ลี ทัค ดาวยิง 22 ตุง ชาวอังกฤษ กับ โอลอฟ วัตสัน แข้งสวีเดน 16 ลูก เป็นตัวชูโรง ส่วน ปตท.ระยอง ที่หลังบ้านแน่นปึ้กเสียเพียงแค่ 25 ลูก มี ประธาน แม้นศิริ กับ ไพศาล โพธิ์นา คุมเชิง ขณะที่เกมรุกแม้จะไร้ อดิศักดิ์ ศรีกำปัง ดาวซัลโวประจำทีมที่กล้ามเนื้อฉีกแต่ นพพร เอกศาสตรา กุนซือใหญ่ยังมี พิพัฒน์ ต้นกันยา กับ กีรติ เขียวสมบัติ อดีตหอกทีมชาติไทยล่าตาข่าย ร่วมกับ ณรงชัย วชิรบาล เพลย์เมกเกอร์ตัวทีเด็ด
อีกเพียงไม่กี่อึดใจจากนี้ก็จะได้ทราบผลกันแล้วว่าทีมใดจะสมหวังและทีมใดจะผิดหวัง โดยศึกยามาฮ่า ลีก วัน จะหวดก่อนพร้อมกันทุกคู่วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน นี้ เวลา 18.00 น.และถัดมาวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน เวลาเดียวกันในศึกโตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก จะฟาดแข้งตามก่อนปิดฉากฤดูกาล 2013 อย่างสมบูรณ์
