คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
นับตั้งแต่การได้รับโอกาสคุมทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2541 ของ “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ก็ถือเป็นการเปิดศักราชแห่งความยิ่งใหญ่ของทีมลูกยางไทยที่พยายามพัฒนานักกีฬา ไต่ระดับเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ จนมาถึงวันนี้ที่ทีมชาติไทยเกรียงไกรถึงขนาดเป็นแชมป์เอเชีย 2 สมัย แน่นอนว่าทุกอย่างไม่ได้สร้างกันมาได้ด้วยเวลาเพียงชั่วข้ามคืน หากแต่ลูกทีมของกุนซือร่างใหญ่นั้นผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเป็นจำนวนมากกว่าจะได้ทีมที่ลงตัวอย่างในปัจจุบัน
ซึ่งจากวันแรกที่มาคุมทีมนับไปนับมาก็น่าจะได้ 15 ปีแล้ว แต่ความท้าทายในวิชาชีพของ “โค้ชอ๊อด” ยังมีเข้ามาอยู่เรื่อยๆ โดยระหว่างวันที่ 12-17 พฤศจิกายนนี้ ต้องนำทีมร่วมศึกใหญ่อย่างการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง รายการ เวิลด์ แกรนด์ แชมเปียนส์ คัพ 2013 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยทีมไทยในฐานะแชมป์เอเชีย จะดวลกับ สาธารณรัฐโดมินิกัน (ทีมรับเชิญ), บราซิล (แชมป์อเมริกาใต้), รัสเซีย (แชมป์ยุโรป), สหรัฐอเมริกา (แชมป์นอร์เซกา) รวมถึงเจ้าภาพ ญี่ปุ่น ด้วย
แม้ว่าทีมสาวไทยจะมีแชมป์เอเชียเป็นตัวการันตี ทว่าแฟนๆ กรุณาอย่าเพิ่งคาดหวังผลเลิศสำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ เนื่องจากทีมของเราไม่ได้เหนือกว่าชาติอื่นๆ เลย หากว่าวัดกันที่อันดับโลก โดย บราซิล เป็นอันดับ 1, สหรัฐฯ อันดับ 2, ญี่ปุ่น อันดับ 3, รัสเซีย อันดับ 6 ส่วน โดมินิกัน ก็อยู่อันดับ 8 ขณะที่ทีมไทยนั้นอยู่อันดับ 12 นั่นแสดงให้เห็นว่าเราตกเป็นรองทีมต่างๆ ตั้งแต่ยังไม่แข่งขัน
และจากสภาพอันดับโลกที่เป็นรองนี่เอง เราจะได้ยิน “โค้ชอ๊อด” ออกมากล่าวถึงสภาพลูกทีมตัวเองว่า “ทีมของผมต้องขาด 5 ตัวผู้เล่นอย่าง อรอุมา สิทธิรักษ์, นุศรา ต้อมคำ, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ และ วรรณา บัวแก้ว ที่ไปเล่นลีกวอลเลย์บอลอาชีพที่อาเซอร์ไบจาน กว่าจะกลับมาร่วมทีมซ้อมได้ก็คงเป็นวันที่ 1 พฤศจิกายนไปแล้ว”
“ส่วนผู้เล่นที่เหลือนั้นแม้จะอยู่ในประเทศ และมีการทดสอบการเล่นของนักกีฬาหน้าใหม่ แต่การขาดนักกีฬาตัวหลักไปถึง 5 คน ย่อมส่งผลกระทบต่อการเตรียมทีมสำหรับการแข่งขันเวิลด์ แกรนด์ แต่ผมก็ยืนยันว่าทีมที่ไปญี่ปุ่นเป็นทีมเดียวกับที่คว้าแชมป์เอเชีย ซึ่งการแข่งขันรายการดังกล่าวเพิ่งจบไปในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ดังนั้นเวลาเตรียมทีมของเราจึงมีน้อย เมื่อเทียบกับหลายๆ ทีม”
ก่อนปิดท้ายด้วยเป้าหมายของรายการ “เวิลด์ แกรนด์” ปีนี้ว่า “ผมไม่กล้าคาดหวังอะไรกับรายการนี้ หวังเพียงแค่การคว้าชัยชนะนัดต่อนัดไปดีกว่า ซึ่งหวังว่าจะชนะได้ทุกนัด”
อาจจะขัดใจแฟนกีฬาชาวไทยสักหน่อยสำหรับคำพูดของ “โค้ชอ๊อด” แต่ความจริงนั้นเจ็บปวดเสมอ และมาช่วยกันทำหน้าที่เชียร์ทีมชาติไทยของเราให้เต็มที่กันดีกว่า อย่างน้อยๆ เราจะได้ชมการแข่งขันรายการนี้ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี เริ่มต้นตามเวลาประเทศไทย 10.10 น.วันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ พบ โดมินิกัน, 10.10 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน พบ บราซิล, 17.10 น.วันที่ 15 พฤศจิกายน พบ ญี่ปุ่น, 10.10 น.วันที่ 16 พฤศจิกายน พบ สหรัฐฯ และ 13.10 น.วันที่ 17 พฤศจิกายน พบ รัสเซีย
นับตั้งแต่การได้รับโอกาสคุมทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2541 ของ “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ก็ถือเป็นการเปิดศักราชแห่งความยิ่งใหญ่ของทีมลูกยางไทยที่พยายามพัฒนานักกีฬา ไต่ระดับเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ จนมาถึงวันนี้ที่ทีมชาติไทยเกรียงไกรถึงขนาดเป็นแชมป์เอเชีย 2 สมัย แน่นอนว่าทุกอย่างไม่ได้สร้างกันมาได้ด้วยเวลาเพียงชั่วข้ามคืน หากแต่ลูกทีมของกุนซือร่างใหญ่นั้นผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเป็นจำนวนมากกว่าจะได้ทีมที่ลงตัวอย่างในปัจจุบัน
ซึ่งจากวันแรกที่มาคุมทีมนับไปนับมาก็น่าจะได้ 15 ปีแล้ว แต่ความท้าทายในวิชาชีพของ “โค้ชอ๊อด” ยังมีเข้ามาอยู่เรื่อยๆ โดยระหว่างวันที่ 12-17 พฤศจิกายนนี้ ต้องนำทีมร่วมศึกใหญ่อย่างการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง รายการ เวิลด์ แกรนด์ แชมเปียนส์ คัพ 2013 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยทีมไทยในฐานะแชมป์เอเชีย จะดวลกับ สาธารณรัฐโดมินิกัน (ทีมรับเชิญ), บราซิล (แชมป์อเมริกาใต้), รัสเซีย (แชมป์ยุโรป), สหรัฐอเมริกา (แชมป์นอร์เซกา) รวมถึงเจ้าภาพ ญี่ปุ่น ด้วย
แม้ว่าทีมสาวไทยจะมีแชมป์เอเชียเป็นตัวการันตี ทว่าแฟนๆ กรุณาอย่าเพิ่งคาดหวังผลเลิศสำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ เนื่องจากทีมของเราไม่ได้เหนือกว่าชาติอื่นๆ เลย หากว่าวัดกันที่อันดับโลก โดย บราซิล เป็นอันดับ 1, สหรัฐฯ อันดับ 2, ญี่ปุ่น อันดับ 3, รัสเซีย อันดับ 6 ส่วน โดมินิกัน ก็อยู่อันดับ 8 ขณะที่ทีมไทยนั้นอยู่อันดับ 12 นั่นแสดงให้เห็นว่าเราตกเป็นรองทีมต่างๆ ตั้งแต่ยังไม่แข่งขัน
และจากสภาพอันดับโลกที่เป็นรองนี่เอง เราจะได้ยิน “โค้ชอ๊อด” ออกมากล่าวถึงสภาพลูกทีมตัวเองว่า “ทีมของผมต้องขาด 5 ตัวผู้เล่นอย่าง อรอุมา สิทธิรักษ์, นุศรา ต้อมคำ, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ และ วรรณา บัวแก้ว ที่ไปเล่นลีกวอลเลย์บอลอาชีพที่อาเซอร์ไบจาน กว่าจะกลับมาร่วมทีมซ้อมได้ก็คงเป็นวันที่ 1 พฤศจิกายนไปแล้ว”
“ส่วนผู้เล่นที่เหลือนั้นแม้จะอยู่ในประเทศ และมีการทดสอบการเล่นของนักกีฬาหน้าใหม่ แต่การขาดนักกีฬาตัวหลักไปถึง 5 คน ย่อมส่งผลกระทบต่อการเตรียมทีมสำหรับการแข่งขันเวิลด์ แกรนด์ แต่ผมก็ยืนยันว่าทีมที่ไปญี่ปุ่นเป็นทีมเดียวกับที่คว้าแชมป์เอเชีย ซึ่งการแข่งขันรายการดังกล่าวเพิ่งจบไปในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ดังนั้นเวลาเตรียมทีมของเราจึงมีน้อย เมื่อเทียบกับหลายๆ ทีม”
ก่อนปิดท้ายด้วยเป้าหมายของรายการ “เวิลด์ แกรนด์” ปีนี้ว่า “ผมไม่กล้าคาดหวังอะไรกับรายการนี้ หวังเพียงแค่การคว้าชัยชนะนัดต่อนัดไปดีกว่า ซึ่งหวังว่าจะชนะได้ทุกนัด”
อาจจะขัดใจแฟนกีฬาชาวไทยสักหน่อยสำหรับคำพูดของ “โค้ชอ๊อด” แต่ความจริงนั้นเจ็บปวดเสมอ และมาช่วยกันทำหน้าที่เชียร์ทีมชาติไทยของเราให้เต็มที่กันดีกว่า อย่างน้อยๆ เราจะได้ชมการแข่งขันรายการนี้ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี เริ่มต้นตามเวลาประเทศไทย 10.10 น.วันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ พบ โดมินิกัน, 10.10 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน พบ บราซิล, 17.10 น.วันที่ 15 พฤศจิกายน พบ ญี่ปุ่น, 10.10 น.วันที่ 16 พฤศจิกายน พบ สหรัฐฯ และ 13.10 น.วันที่ 17 พฤศจิกายน พบ รัสเซีย
