เซบาสเตียน เวทเทล นักขับรถสูตรหนึ่งของทีม เรด บูลล์ ปิดจ็อบคว้าแชมป์โลก ฟอร์มูลา วัน สมัยที่ 4 ติดต่อกันได้สำเร็จ หลังควบรถคู่ใจคว้าแชมป์รายการ อินเดียน กรังด์ ปรีซ์ ที่อินเดีย พร้อมพาต้นสังกัดคว้าแชมป์โลกประเภททีมผู้สร้าง 4 สมัยติด เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ศึก ฟอร์มูลา วัน สนามที่ 16 ของฤดูกาล "อินเดียน กรังด์ ปรีซ์" ที่สนาม พุทธ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศอินเดีย เย็นวันที่ 27 ตุลาคม เป็นรอบชิงชนะเลิศ แข่งกัน 60 รอบสนาม ท่ามกลางสภาพอากาศไม่ดีนักมีหมอกปกคลุมทั่วสนาม บดบังทัศนวิสัยนักแข่งพอสมควร
สิ้นสัญญาณไฟแดง 5 ดวง เซบาสเตียน เวทเทล ว่าที่แชมป์โลกของ เรด บูลล์ เหยียบคันเร่งออกตัวจากตำแหน่ง โพล โพซิชัน และนำโด่งตลอด ตามด้วย นิโค รอสเบิร์ก กับ ลูอิส แฮมิลตัน สองคู่หูของ เมอร์เซเดส จีพี แต่ไม่ทันพ้นครึ่งรอบเป็น เฟลิเป มาสซา ของ เฟอร์รารี สตาร์ทสวย แซงขึ้นมาอยู่ที่ 2 จากลำดับ 5
ผ่านไปไม่ถึง 10 รอบ บรรดานักขับก็ทยอยเข้าพิทเปลี่ยนยางกันเป็นแถบ รวมถึง เวทเทล กลายเป็นโอกาสทองที่ มาร์ค เว็บเบอร์ เพื่อนร่วมทีมแซงหน้าเป็นผู้นำแทน ตามด้วย มาสซา ที่จี้ติดไม่ห่างแต่แล้วก็โดน เวทเทล ที่วิ่งออกจากพิทแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 จากแถวหน้า ไล่จี้ เว็บเบอร์ ไปแบบติดๆ
เฟร์นานโด อลอนโซ คู่แข่งแย่งแชมป์โลกจาก เฟอร์รารี เร่งเครื่องไล่ขึ้นมาอยู่อันดับ 7 แต่ผลงานก็ตกลงไปเรื่อยๆ ขณะที่ เวทเทล พยายามอยู่นานจนในที่สุดรอบที่ 33 ก็กลับขึ้นมาเป็นผู้นำอีกครั้ง ส่วนคู่หู เมอร์เซเดส ทั้ง มาสซา และ แฮมิลตัน ตกลงไปอยู่อันดับ 5-6 แต่ก็พยายามรักษาอันดับไว้
เข้าสู่ช่วง 20 รอบสุดท้าย รถของ เว็บเบอร์ มีปัญหาทำให้เจ้าตัวต้องแวะจอดข้างทางและออกจากการแข่งขันแบบน่าเสียดาย ขณะที่ เวทเทล ขับอย่างไร้ความกดดันและในที่สุดก็พารถ RB9 วิ่งผ่านธงตราหมากรุกคันแรกไปได้ เวลา 1 ชั่วโมง 31 นาที 12.187 วินาที ตามด้วย รอสเบิร์ก และ โรแม็ง โกรส์ช็อง จาก โลตัส-เรโนลต์ ส่วน อลอนโซ จบที่ 11 ไม่มีแต้ม
ผลที่เกิดขึ้นทำให้นักขับวัย 26 ปี ผงาดคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน เป็นสถิติเทียบเท่าของ ฮวน มานูเอล ฟานจิโอ ตำนานจากอาร์เจนตินา ที่ทำไว้ปี 1954-1957 และ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ จากเยอรมนี ปี 2000-2003 พร้อมเก็บคะแนนสะสมเพิ่มเป็น 322 แต้ม ขณะที่ เรด บูลล์ ต้นสังกัดของ เวทเทล ยังคว้าแชมป์โลกประเภททีมผู้สร้าง 4 สมัยติดเช่นกัน หลังโกยไป 470 แต้ม เหนือ เมอร์เซเดส จีพี และ เฟอร์รารี ตามลำดับ
