"บังยี" วรวีร์ มะกูดี ก้าวมายึดตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย สมัยที่ 4 หลังเอาชนะ "บิ๊กก๊อง" วิรัช ชาญพาณิชย์ ผู้ท้าชิงไปอย่างขาดลอย พร้อมกับข้อครหาเรื่องการที่มีสโมสรสมาชิกบางส่วนมีการสวมสิทธิ์ลงคะแนน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2556 ณ โรงแรมโกลเดน ทิวลิป ซอฟเฟอรีน พระราม 9 มีการประชุมสโมสรสมาชิก 72 สโมสร เพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยปัญหาความวุ่นวายเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลา 11.00 น. หลังจากที่คณะกรรมการอุทธรณ์ นำโดย ผศ.วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ ในฐานะประธาน พร้อมคณะกรรมการอีก 2 ราย ได้รับเรื่องกรณีสิทธิ์ทับซ้อนของ 6 ทีมที่มีปัญหาคือ ระยอง ยูไนเต็ด ,นนทบุรี เอฟซี ,พังงา เอฟซี ,ตรัง เอฟซี ,สุรินทร์ ซิตี และ ลูกอีสาน การบินไทย ซึ่งผลปรากฎว่าทางคณะอุทธรณ์ได้กลับผลการตัดสินจากมติที่ทางคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2556
ประกอบด้วย ระยอง ยูไนเต็ด ให้สิทธิ์ นายพินิจ ศศิดินทร์ แทน นายกิตติ ขมแสนยาธรรม, นนทบุรี เอฟซี ให้สิทธิ์ นายกานต์ จันรัตน์ (ผู้จัดการทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), แทน นายอิทธิพล สังข์ประไพ, พังงา เอฟซี ให้สิทธิ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แทน นายจำรัส นุ้ยสง่า, ตรัง เอฟซี ให้สิทธิ์ นายธัญญา โพธิวิจิตร แทน นายวิถี สุพิทักษ์, สุรินทร์ ซิตี้ ให้สิทธิ์ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร แทน นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร และ ลูกอีสาน การบินไทย จากเดิมที่ขอถอนสิทธิ์ลงคะแนนได้มอบให้ นายชัยโชค พุ่มพวง เป็นตัวแทน ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้กลับมาเป็น 72 สโมสรอีกครั้ง
โดยนาย วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ 1 ในคณะกรรมการอุทธรณ์ เปิดเผยว่าปัญหาทั้งหมดได้พิจารณารายชื่อตามเอกสารการรับรองและมีส่วนร่วมในการทำทีมแข่งขันฟุตบอล"เอไอเอสลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 ซึ่งรับรองโดย นาย วิมล กาญจนะ ประธานลีกภูมิภาค ผู้มีอำนาจสูงสุด
จากนั้นเวลาประมาณ 14.30 น. ด้าน นายวรวีร์ ผู้ลงสมัครชิงเก้าอี้นายกฯที่มาในตัวแทนของสโมสรบีอีซี เทโรศาสน พร้อมด้วยตัวแทนสโมสรที่ได้รับการรับรองจากคณะอุทธรณ์ฯทั้ง 6 ทีม และตัวแทนสโมสรสมาชิกราว 60 คน ได้ตบเท้าเข้าสู่ห้องลงคะแนนเป็นที่เรียบร้อย แต่ทั้งนี้ในขณะเดียวกันทางฝั่งของ นายวิรัช ผู้ท้าชิงได้นำตัวแทนมา 5 ราย โดยระบุว่าทั้งหมดเป็นผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนตัวจริงของสโมสรระยอง ยูไนเต็ด, นนทบุรี เอฟซี, พังงา เอฟซี, ตรัง เอฟซี และสุรินทร์ ซิตี ซึ่งเป็นคนละรายชื่อกับที่ทางคณะอุทธรณ์มอบสิทธิ์ให้เมื่อช่วงเช้า
พร้อมกันนี้ "บิ๊กก๊อง" ยังแฉต่อว่าทีมงานคณะอุทธรณ์ดังกล่าวนั้นไม่ชอบธรรมเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงคณะทำงานเกิดขึ้นโดยไม่ใช่ 3 คนที่ยื่นชื่อต่อฟีฟาที่นำโดย นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ เป็นประธาน แต่กลับเป็นคณะกรรมการฯชุดใหม่ที่เพิ่งลงนามรับรองวันนี้โดย นายองอาจ ก่อสินค้า รักษาการเลขาธิการนายกสมาคมฯ
“รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนใหม่ที่ได้รับจากการอุทธรณ์เมื่อช่วงเช้านั้นเกือบทุกคนไม่เคยเกี่ยวข้องกับสโมสรเลย ผมจึงนำผู้มีสิทธิ์ตัวจริงมาลงชื่อแทน อย่างเช่น สโมสรสุรินทร์ ซิตี้ ที่มีไม่มีชื่อของ นายนิรันด์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์ ที่กกต.ให้มีสิทธิ์เลือกตั้ง หรือ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร 1 ในบอร์ดบริหารทีม แต่กลับเป็นชื่อ นายสุนทร มีสุวรรณ 1 ในคณะกรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลฯยุคของ นาย วรวีร์ มะกูดี แทน ซึ่งผมมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และจะขอร้องเรียนต่อทางกกต.”
ขณะที่ นายภีมเดช อมรสุคนธ์ หรือ “ทนายอ๊อด” ตัวแทนจากสโมสรระยอง เอฟซี กล่าวทำนองเดียวกันว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้ใช้อะไรเป็นบรรทัดฐาน เพราะหลายทีมมีชื่อตัวแทนไม่ชอบมาพากล เช่น นายจุติ ไกรฤกษ์ ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บ.สยามสปอร์ตฯ ได้มาเป็นตัวแทนของทีมสิงห์ท่าเรือ, นายกานต์ จันรัตน์ ผจก.ทีม เอสซีจี เมืองทองฯแแต่กลับเป็นตัวแทนของทีม นนทบุรี เอฟซี หรือ พล.อ.ชินเสณ ทองโกมล ประธานผู้ตัดสินฯ กลับเป็นตัวแทนของทีม ปตท.ระยอง แค่นี้ก็รู้แล้วว่าไม่โปร่งใส”
แต่ทั้งนี้ทางฟีฟาและกกต.ได้พิจารณาให้ยึดมติของทางคณะอุทธรณ์เป็นที่สิ้นสุด พร้อมเปิดให้มีการลงคะแนนในเวลา 15.30 น. โดยมีผู้มาใช้สิทธิ์ครบทั้ง 72 ทีม แต่ไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าว จึงทำให้ผู้มาร้องเรียนทั้ง 5 คนและตัว “บิ๊กก๊อง” เองไม่ได้เข้าร่วมประชุมโหวตเลือกนายกสมาคมฯแต่อย่างใดจนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ตัวแทนจากสโมสรปากน้ำโพ เอ็นเอสอาร์ยู และเป็น 1 ในผู้สมัครตำแหน่งสภากรรมการฝั่ง “บิ๊กก๊อง” ได้ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้ได้มีการลงคะแนนไปแล้ว
“ข้างในห้องได้เริ่มลงคะแนนเสียงกันแล้ว โดยผมได้ลงคะแนนเลือกนายกสมาคมฯกับสภากรรมการฯแล้ว แต่ไม่ขอลงคะแนนสภากรรมการ เนื่องจากมองว่าเป็นตำแหน่งที่ผมลงสมัคร จึงไม่อยากเอาเปรียบ และที่สำคัญผมเคยเป็นผจก.ทีมชาติไทยชุด 19 ปีมาก่อนจึงรู้ว่าการบริหารนั้นห่วยอย่างไร”
ทั้งนี้ในเวลา 17.45 น. ทางฝ่ายจัดได้เปิดประตูพร้อมเผยว่าการเลือกตั้งนายกสมาคมฯได้แล้วเสร็จเรียบร้อย และได้เปิดให้ช่างภาพได้เข้าไปเก็บบรรยากาศช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะปิดห้องนับคะแนนกันต่อ พร้อมกับประกาศผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการให้นายวรวีร์ ชนะ นายวิรัช 42 - 28 คะแนน บัตรเสีย 1 ใบ และไม่ลงคะแนนอีก 1 ใบ พร้อมกับเป็นนายกสมาคมฯ สมัยที่ 4 ท่ามกลางความไม่พอใจของนายวิรัช และผู้สนับสนุน
สำหรับนายวรวีร์ มะกูดี หรือ “บังยี” เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2494 เป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ คนที่ 15 และเป็นชาวไทยมุสลิมคนแรก โดยดำรงตำแหน่งต่อเนื่องเป็นวาระที่ 3
ซึ่งนายวรวีร์ จบการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ และเริ่มสนใจการแข่งขันฟุตบอล โดยตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นนักเรียน ได้รับคัดเลือกเข้าสู่ทีมของโรงเรียน รวมถึงผ่านการคัดเลือก เป็นนักฟุตบอลของสโมสรมุสลิมตั้งแต่ชุดเยาวชนจนถึงชุดใหญ่ และลงแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ง และ ค ตามลำดับ ต่อมาย้ายสังกัดไปยังสโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงเทพ และได้เลื่อนชั้นขึ้นไปแข่งในฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ข และ ก ตามลำดับ
จากนั้นเดินทางไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติคูเวต โดยทุนของรัฐบาลคูเวต และได้รับคัดเลือกเข้าร่วมทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัย จนกระทั่งจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี จึงเลิกเล่นฟุตบอล สำหรับชีวิตครอบครัว วรวีร์ สมรสกับ สุมิตรา (นามสกุลเดิม: มาเรียม) เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2526 มีบุตรชายด้วยกัน 2 คนคือ สุรวุฒิ (ป้อง) และ ศศินทร์ (ปอม)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2556 ณ โรงแรมโกลเดน ทิวลิป ซอฟเฟอรีน พระราม 9 มีการประชุมสโมสรสมาชิก 72 สโมสร เพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยปัญหาความวุ่นวายเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลา 11.00 น. หลังจากที่คณะกรรมการอุทธรณ์ นำโดย ผศ.วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ ในฐานะประธาน พร้อมคณะกรรมการอีก 2 ราย ได้รับเรื่องกรณีสิทธิ์ทับซ้อนของ 6 ทีมที่มีปัญหาคือ ระยอง ยูไนเต็ด ,นนทบุรี เอฟซี ,พังงา เอฟซี ,ตรัง เอฟซี ,สุรินทร์ ซิตี และ ลูกอีสาน การบินไทย ซึ่งผลปรากฎว่าทางคณะอุทธรณ์ได้กลับผลการตัดสินจากมติที่ทางคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2556
ประกอบด้วย ระยอง ยูไนเต็ด ให้สิทธิ์ นายพินิจ ศศิดินทร์ แทน นายกิตติ ขมแสนยาธรรม, นนทบุรี เอฟซี ให้สิทธิ์ นายกานต์ จันรัตน์ (ผู้จัดการทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), แทน นายอิทธิพล สังข์ประไพ, พังงา เอฟซี ให้สิทธิ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แทน นายจำรัส นุ้ยสง่า, ตรัง เอฟซี ให้สิทธิ์ นายธัญญา โพธิวิจิตร แทน นายวิถี สุพิทักษ์, สุรินทร์ ซิตี้ ให้สิทธิ์ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร แทน นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร และ ลูกอีสาน การบินไทย จากเดิมที่ขอถอนสิทธิ์ลงคะแนนได้มอบให้ นายชัยโชค พุ่มพวง เป็นตัวแทน ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้กลับมาเป็น 72 สโมสรอีกครั้ง
โดยนาย วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ 1 ในคณะกรรมการอุทธรณ์ เปิดเผยว่าปัญหาทั้งหมดได้พิจารณารายชื่อตามเอกสารการรับรองและมีส่วนร่วมในการทำทีมแข่งขันฟุตบอล"เอไอเอสลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 ซึ่งรับรองโดย นาย วิมล กาญจนะ ประธานลีกภูมิภาค ผู้มีอำนาจสูงสุด
จากนั้นเวลาประมาณ 14.30 น. ด้าน นายวรวีร์ ผู้ลงสมัครชิงเก้าอี้นายกฯที่มาในตัวแทนของสโมสรบีอีซี เทโรศาสน พร้อมด้วยตัวแทนสโมสรที่ได้รับการรับรองจากคณะอุทธรณ์ฯทั้ง 6 ทีม และตัวแทนสโมสรสมาชิกราว 60 คน ได้ตบเท้าเข้าสู่ห้องลงคะแนนเป็นที่เรียบร้อย แต่ทั้งนี้ในขณะเดียวกันทางฝั่งของ นายวิรัช ผู้ท้าชิงได้นำตัวแทนมา 5 ราย โดยระบุว่าทั้งหมดเป็นผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนตัวจริงของสโมสรระยอง ยูไนเต็ด, นนทบุรี เอฟซี, พังงา เอฟซี, ตรัง เอฟซี และสุรินทร์ ซิตี ซึ่งเป็นคนละรายชื่อกับที่ทางคณะอุทธรณ์มอบสิทธิ์ให้เมื่อช่วงเช้า
พร้อมกันนี้ "บิ๊กก๊อง" ยังแฉต่อว่าทีมงานคณะอุทธรณ์ดังกล่าวนั้นไม่ชอบธรรมเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงคณะทำงานเกิดขึ้นโดยไม่ใช่ 3 คนที่ยื่นชื่อต่อฟีฟาที่นำโดย นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ เป็นประธาน แต่กลับเป็นคณะกรรมการฯชุดใหม่ที่เพิ่งลงนามรับรองวันนี้โดย นายองอาจ ก่อสินค้า รักษาการเลขาธิการนายกสมาคมฯ
“รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนใหม่ที่ได้รับจากการอุทธรณ์เมื่อช่วงเช้านั้นเกือบทุกคนไม่เคยเกี่ยวข้องกับสโมสรเลย ผมจึงนำผู้มีสิทธิ์ตัวจริงมาลงชื่อแทน อย่างเช่น สโมสรสุรินทร์ ซิตี้ ที่มีไม่มีชื่อของ นายนิรันด์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์ ที่กกต.ให้มีสิทธิ์เลือกตั้ง หรือ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร 1 ในบอร์ดบริหารทีม แต่กลับเป็นชื่อ นายสุนทร มีสุวรรณ 1 ในคณะกรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลฯยุคของ นาย วรวีร์ มะกูดี แทน ซึ่งผมมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และจะขอร้องเรียนต่อทางกกต.”
ขณะที่ นายภีมเดช อมรสุคนธ์ หรือ “ทนายอ๊อด” ตัวแทนจากสโมสรระยอง เอฟซี กล่าวทำนองเดียวกันว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้ใช้อะไรเป็นบรรทัดฐาน เพราะหลายทีมมีชื่อตัวแทนไม่ชอบมาพากล เช่น นายจุติ ไกรฤกษ์ ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บ.สยามสปอร์ตฯ ได้มาเป็นตัวแทนของทีมสิงห์ท่าเรือ, นายกานต์ จันรัตน์ ผจก.ทีม เอสซีจี เมืองทองฯแแต่กลับเป็นตัวแทนของทีม นนทบุรี เอฟซี หรือ พล.อ.ชินเสณ ทองโกมล ประธานผู้ตัดสินฯ กลับเป็นตัวแทนของทีม ปตท.ระยอง แค่นี้ก็รู้แล้วว่าไม่โปร่งใส”
แต่ทั้งนี้ทางฟีฟาและกกต.ได้พิจารณาให้ยึดมติของทางคณะอุทธรณ์เป็นที่สิ้นสุด พร้อมเปิดให้มีการลงคะแนนในเวลา 15.30 น. โดยมีผู้มาใช้สิทธิ์ครบทั้ง 72 ทีม แต่ไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าว จึงทำให้ผู้มาร้องเรียนทั้ง 5 คนและตัว “บิ๊กก๊อง” เองไม่ได้เข้าร่วมประชุมโหวตเลือกนายกสมาคมฯแต่อย่างใดจนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ตัวแทนจากสโมสรปากน้ำโพ เอ็นเอสอาร์ยู และเป็น 1 ในผู้สมัครตำแหน่งสภากรรมการฝั่ง “บิ๊กก๊อง” ได้ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้ได้มีการลงคะแนนไปแล้ว
“ข้างในห้องได้เริ่มลงคะแนนเสียงกันแล้ว โดยผมได้ลงคะแนนเลือกนายกสมาคมฯกับสภากรรมการฯแล้ว แต่ไม่ขอลงคะแนนสภากรรมการ เนื่องจากมองว่าเป็นตำแหน่งที่ผมลงสมัคร จึงไม่อยากเอาเปรียบ และที่สำคัญผมเคยเป็นผจก.ทีมชาติไทยชุด 19 ปีมาก่อนจึงรู้ว่าการบริหารนั้นห่วยอย่างไร”
ทั้งนี้ในเวลา 17.45 น. ทางฝ่ายจัดได้เปิดประตูพร้อมเผยว่าการเลือกตั้งนายกสมาคมฯได้แล้วเสร็จเรียบร้อย และได้เปิดให้ช่างภาพได้เข้าไปเก็บบรรยากาศช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะปิดห้องนับคะแนนกันต่อ พร้อมกับประกาศผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการให้นายวรวีร์ ชนะ นายวิรัช 42 - 28 คะแนน บัตรเสีย 1 ใบ และไม่ลงคะแนนอีก 1 ใบ พร้อมกับเป็นนายกสมาคมฯ สมัยที่ 4 ท่ามกลางความไม่พอใจของนายวิรัช และผู้สนับสนุน
สำหรับนายวรวีร์ มะกูดี หรือ “บังยี” เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2494 เป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ คนที่ 15 และเป็นชาวไทยมุสลิมคนแรก โดยดำรงตำแหน่งต่อเนื่องเป็นวาระที่ 3
ซึ่งนายวรวีร์ จบการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ และเริ่มสนใจการแข่งขันฟุตบอล โดยตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นนักเรียน ได้รับคัดเลือกเข้าสู่ทีมของโรงเรียน รวมถึงผ่านการคัดเลือก เป็นนักฟุตบอลของสโมสรมุสลิมตั้งแต่ชุดเยาวชนจนถึงชุดใหญ่ และลงแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ง และ ค ตามลำดับ ต่อมาย้ายสังกัดไปยังสโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงเทพ และได้เลื่อนชั้นขึ้นไปแข่งในฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ข และ ก ตามลำดับ
จากนั้นเดินทางไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติคูเวต โดยทุนของรัฐบาลคูเวต และได้รับคัดเลือกเข้าร่วมทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัย จนกระทั่งจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี จึงเลิกเล่นฟุตบอล สำหรับชีวิตครอบครัว วรวีร์ สมรสกับ สุมิตรา (นามสกุลเดิม: มาเรียม) เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2526 มีบุตรชายด้วยกัน 2 คนคือ สุรวุฒิ (ป้อง) และ ศศินทร์ (ปอม)