คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
เข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายปลายปี 2556 กันแล้ว ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเหล่าบรรดาผู้คนในแวดวงกีฬาบ้านเรานั้นกำลังใจจดจ่ออยู่กับการแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาค “อาเซียน” หรือว่า “ซีเกมส์” ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 11-22 ธันวาคมนี้ ที่ประเทศพม่า จะกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง หลังเคยจัดมาแล้วในกีฬา “แหลมทอง” ครั้งที่ 2 ปี 2504 และ ครั้งที่ 5 ปี 2512 ซึ่งทั้งสองครั้งนั้นเจ้าเหรียญทองก็เป็นชาติเจ้าภาพนั่นแหละ ไม่ต้องสงสัย และครั้งนี้หลังเว้นว่างห่างไปถึง 44 ปี ซีเกมส์ก็จะกลับไปเยือนแผ่นดินอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรพุกามในอดีตอีกครั้ง
ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้นก็อีกกว่า 1 เดือนเห็นจะได้ เรามาว่ากันที่กีฬาซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเวลาอันใกล้นี้แล้ว คือการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 10 หรือว่า “เอเอฟเอฟ มิราเคิล ออฟ ไลฟ์ ฟุตซอล แชมเปียนชิป 2013” ระหว่างวันที่ 19-27 ตุลาคมนี้ โดยจะทำการแข่งขันกันที่สนามชาญชาย อคาเดียม มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 สาย ประกอบด้วย สายเอ ไทย, เวียดนาม, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และ บรูไน ส่วนสาย บี ประกอบด้วย ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, พม่า, ติมอร์ เลสเต และ ลาว
สำหรับการแข่งขันจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคมนี้เลย ส่วนวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคมนี้ จะมีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการในเวลา 14.00 น. ว่ากันว่าเตรียมการอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการขนการแสดงศิลปไทย อย่าง “โขน” และวัฒนธรรมจากทุกภาคมาให้ได้ชมก่อนการดวลแข้งของทีมชาติไทยกับ ฟิลิปปินส์ ต่อจากนั้นวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม เวลา 16.00 น.ทีมไทย พบกับ บรูไน ขณะที่วันอังคารที่ 22 ตุลาคม เวลา 19.00 น.ไทย พบ มาเลเซีย และปิดท้ายรอบแรกวันพุธที่ 23 ตุลาคม เวลา 19.00 น. ไทย พบ เวียดนาม เพื่อหาทีมอันดับ 1 และ 2 เข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศในวันที่ 25 ตุลาคม ก่อนจะชิงชนะเลิศกันในวันที่ 27 ตุลาคมนี้
หากดูตามอันดับโลกแล้ว ทีมชาติไทย ชุดนี้เหนือกว่าทุกทีม ด้วยอันดับ 17 ของโลก และยังเป็นทีมแชมป์ 8 สมัย จากการแข่งขันมาแล้ว 9 ครั้ง น่าเสียดายนิดเดียวที่ปี 2010 ไม่ได้ร่วมแข่งขัน อย่างไรก็ไม่สามารถประมาททีมอย่าง ออสเตรเลีย ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 21 ของโลก และน่าจะเป็นจ่าฝูงของสาย บี ได้ไม่ยากเย็น ซึ่งทั้งไทย และออสเตรเลีย น่าจะได้ดวลกันในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง เหมือนเมื่อปี 2007 ที่สุดท้ายไทยเอาชนะไปท่วมท้น 7-1 แต่ครั้งนี้คงไม่ง่ายขนาดนั้น แม้ทีมไทยจะใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ก็ตาม เนื่องจากนักเตะโต๊ะเล็กแดนจิงโจ้พัฒนาฝีเท้าไปมาก โดยเมื่อศึกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2012 ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศก่อนจะแพ้ทีมชาติญี่ปุ่นที่คว้าแชมป์ในบั้นปลายไป 0-3 เท่านั้น
นอกจากนี้การแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนในครั้งนี้ยังเป็นเวทีสำหรับคัดเลือกเอา 4 ทีมที่อันดับดีที่สุดเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในศึกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2014 ช่วงเดือนเมษายน 2557 ที่ประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพ โดยศึกใหญ่รายการนี้ได้ 2 ทีมไปรอในรอบสุดท้ายแล้ว ประกอบด้วย ญี่ปุ่น แชมป์เก่า กับ เวียดนาม เจ้าภาพ
ดูแล้ว วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ กุนซือทีมชาติไทยที่เป็นชาวฮอลแลนด์ นอกจากต้องคว้าแชมป์อาเซียนเป็นสมัยที่ 9 ให้ได้แล้ว ยังต้องนำทีมลุยซีเกมส์ ที่พม่า ซึ่งเป้าหมายก็เหมือนเดิมต้องคว้าแชมป์ เสร็จแล้วก็เตรียมทีมลุยเวียดนามกับศึกชิงแชมป์เอเชีย 2014 เดือนเมษายนนี้ต่อไปเลย และดูเหมือนว่าเป้าหมายหลักของกุนซือชาวดัตช์ และแฟนลูกหนังโต๊ะเล็กต่างก็มองถึงการคว้าแชมป์เอเชียมาครองให้ได้สักครั้ง หลังทีมชาติไทยคว้ามาได้เพียง 2 รองแชมป์ในปี 2008 และ 2012 คงต้องมาคอยเอาใจช่วยขุนพลแข้งโต๊ะเล็กสร้างประวัติศาสตร์ให้ได้สักครั้ง
เข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายปลายปี 2556 กันแล้ว ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเหล่าบรรดาผู้คนในแวดวงกีฬาบ้านเรานั้นกำลังใจจดจ่ออยู่กับการแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาค “อาเซียน” หรือว่า “ซีเกมส์” ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 11-22 ธันวาคมนี้ ที่ประเทศพม่า จะกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง หลังเคยจัดมาแล้วในกีฬา “แหลมทอง” ครั้งที่ 2 ปี 2504 และ ครั้งที่ 5 ปี 2512 ซึ่งทั้งสองครั้งนั้นเจ้าเหรียญทองก็เป็นชาติเจ้าภาพนั่นแหละ ไม่ต้องสงสัย และครั้งนี้หลังเว้นว่างห่างไปถึง 44 ปี ซีเกมส์ก็จะกลับไปเยือนแผ่นดินอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรพุกามในอดีตอีกครั้ง
ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้นก็อีกกว่า 1 เดือนเห็นจะได้ เรามาว่ากันที่กีฬาซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเวลาอันใกล้นี้แล้ว คือการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 10 หรือว่า “เอเอฟเอฟ มิราเคิล ออฟ ไลฟ์ ฟุตซอล แชมเปียนชิป 2013” ระหว่างวันที่ 19-27 ตุลาคมนี้ โดยจะทำการแข่งขันกันที่สนามชาญชาย อคาเดียม มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 สาย ประกอบด้วย สายเอ ไทย, เวียดนาม, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และ บรูไน ส่วนสาย บี ประกอบด้วย ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, พม่า, ติมอร์ เลสเต และ ลาว
สำหรับการแข่งขันจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคมนี้เลย ส่วนวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคมนี้ จะมีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการในเวลา 14.00 น. ว่ากันว่าเตรียมการอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการขนการแสดงศิลปไทย อย่าง “โขน” และวัฒนธรรมจากทุกภาคมาให้ได้ชมก่อนการดวลแข้งของทีมชาติไทยกับ ฟิลิปปินส์ ต่อจากนั้นวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม เวลา 16.00 น.ทีมไทย พบกับ บรูไน ขณะที่วันอังคารที่ 22 ตุลาคม เวลา 19.00 น.ไทย พบ มาเลเซีย และปิดท้ายรอบแรกวันพุธที่ 23 ตุลาคม เวลา 19.00 น. ไทย พบ เวียดนาม เพื่อหาทีมอันดับ 1 และ 2 เข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศในวันที่ 25 ตุลาคม ก่อนจะชิงชนะเลิศกันในวันที่ 27 ตุลาคมนี้
หากดูตามอันดับโลกแล้ว ทีมชาติไทย ชุดนี้เหนือกว่าทุกทีม ด้วยอันดับ 17 ของโลก และยังเป็นทีมแชมป์ 8 สมัย จากการแข่งขันมาแล้ว 9 ครั้ง น่าเสียดายนิดเดียวที่ปี 2010 ไม่ได้ร่วมแข่งขัน อย่างไรก็ไม่สามารถประมาททีมอย่าง ออสเตรเลีย ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 21 ของโลก และน่าจะเป็นจ่าฝูงของสาย บี ได้ไม่ยากเย็น ซึ่งทั้งไทย และออสเตรเลีย น่าจะได้ดวลกันในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง เหมือนเมื่อปี 2007 ที่สุดท้ายไทยเอาชนะไปท่วมท้น 7-1 แต่ครั้งนี้คงไม่ง่ายขนาดนั้น แม้ทีมไทยจะใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ก็ตาม เนื่องจากนักเตะโต๊ะเล็กแดนจิงโจ้พัฒนาฝีเท้าไปมาก โดยเมื่อศึกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2012 ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศก่อนจะแพ้ทีมชาติญี่ปุ่นที่คว้าแชมป์ในบั้นปลายไป 0-3 เท่านั้น
นอกจากนี้การแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนในครั้งนี้ยังเป็นเวทีสำหรับคัดเลือกเอา 4 ทีมที่อันดับดีที่สุดเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในศึกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2014 ช่วงเดือนเมษายน 2557 ที่ประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพ โดยศึกใหญ่รายการนี้ได้ 2 ทีมไปรอในรอบสุดท้ายแล้ว ประกอบด้วย ญี่ปุ่น แชมป์เก่า กับ เวียดนาม เจ้าภาพ
ดูแล้ว วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ กุนซือทีมชาติไทยที่เป็นชาวฮอลแลนด์ นอกจากต้องคว้าแชมป์อาเซียนเป็นสมัยที่ 9 ให้ได้แล้ว ยังต้องนำทีมลุยซีเกมส์ ที่พม่า ซึ่งเป้าหมายก็เหมือนเดิมต้องคว้าแชมป์ เสร็จแล้วก็เตรียมทีมลุยเวียดนามกับศึกชิงแชมป์เอเชีย 2014 เดือนเมษายนนี้ต่อไปเลย และดูเหมือนว่าเป้าหมายหลักของกุนซือชาวดัตช์ และแฟนลูกหนังโต๊ะเล็กต่างก็มองถึงการคว้าแชมป์เอเชียมาครองให้ได้สักครั้ง หลังทีมชาติไทยคว้ามาได้เพียง 2 รองแชมป์ในปี 2008 และ 2012 คงต้องมาคอยเอาใจช่วยขุนพลแข้งโต๊ะเล็กสร้างประวัติศาสตร์ให้ได้สักครั้ง