ศึกลูกหนัง ไทยพรีเมียร์ลีก กำลังก้าวสู่ระดับอาชีพเต็มตัวและได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ พิสูจน์ได้จากการหลั่งไหลเข้ามาของแข้งนอกทั่วทุกมุมโลก หลายรายใช้บันไดนี้สร้างชื่อให้ตนเองก่อนยกระดับสู่เวทีที่สูงกว่าMGR SPORT จึงขอคัดอดีตแข้งดังที่เคยวาดลวดลายในเวทีไทยลีก ก่อนที่จะย้ายไปได้ดิบได้ดียังต่างแดนมาให้ได้อ่านกัน
ซูมาโฮโร ยาย่า - ปีกซ้ายตัวเก่งชาวไอวอรีโคสต์ โชว์ฟอร์มลากเลื้อยพร้อมยิงประตูสุดสวยพา “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ซิวแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ก่อนจะย้ายล่าฝันสู่ เคเอเอ เกนท์ ยักษ์ใหญ่ในจูปิแลร์ ลีก เบลเยียม ด้วยสัญญา 3 ปี มูลค่า 5 แสนยูโร(ราว 20 ล้านบาท) เมื่อกลางปี 2010 ซึ่งเป็นสถิติใหม่ในการย้ายตัวของไทยลีกเวลานั้น และ ยาย่า ก็กลายเป็นตัวหลักของทีมทันที โดยซีซันแรกกดไป 6 ประตู และต้นสังกัดคว้ารองแชมป์ซูเปอร์ คัพ ได้ แม้แข้งวัย 23 ปีจะยิงไม่ได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนสมัยอยู่เมืองไทย แต่ก็เป็นตัวขับเคลื่อนชั้นดีของทีม เบ็ดเสร็จ 3 ซีซันก่อนหน้านี้ยิงไป 11 ประตู จาก 67 เกมที่ลงเล่น
แฟรงค์ อาเชียมปง - สร้างชื่อเป็นพลุแตกบนเวทีแดนสยาม หลังพา “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เถลิงบัลลังก์แชมป์ทุกสถาบันเมื่อปี 2011 ก่อนที่ซีซันที่แล้วจะเก็บกระเป๋าย้ายออกจากถิ่น ไอ-โมบาย สเตเดียม ไปหาความท้าทายกับ อันเดอร์เลทช์ ทีมดังศึกจูบิแลร์ ลีก ประเทศเบลเยียม ด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน และค่อยๆฉายแววยอดนักเตะออกมาเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่เป็นกำลังสำคัญของทีมเยาวชน ยิง 2 ประตู ในนัดชิงฯบุกไปคว่ำเจ้าถิ่น เอซี มิลาน ถึงประเทศอิตาลี คว้าแชมป์วีอาเรจโจ คัพ มาครอง พร้อมส่งให้แชมป์ลีกสูงสุด 32 สมัยตัดสินใจควักเงิน 1 ล้านยูโร (ราว39ล้านบาท) ซื้อขาดดาวยิงรายนี้ทันที ซึ่งเงินจำนวนนี้ยังทุบสถิติเดิมของ ยาย่า กลายเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวในการย้ายทีมมากที่สุดของไทยลีกจนถึงวันนี้ด้วย
ถัดมาฤดูกาลนี้แข้งวัย 19 ปี ก็ยังแรงต่อเนื่อง ยิงไปแล้ว 2 ประตู จาก 5 นัดที่ลงเล่นในลีก พร้อมทั้งสร้างชื่อในนามทีมชาติ พา กาน่า คว้าที่ 3 ศึกฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ก่อนก้าวขึ้นติดทีมชุดใหญ่ และล่าสุดเพิ่งยิงประตูใส่ ญี่ปุ่น ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อเร็วๆนี้ จนตกเป็นข่าวกับสโมสรใหญ่ๆอย่าง เอซี มิลาน, ลาซิโอ, โรมา รวมไปถึง เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
คริสเตียน เคาคู - อดีตกองหน้าของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ชุดแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ปี 2010 ย้ายไปร่วมทัพ ตูร์ แอฟเซ ทีมในลีก เดอซ์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2012 ด้วยค่าตัว 10 ล้านบาท แม้ฤดูกาลแรกบนถิ่นน้ำหอมแข้งไอวอรีโคสต์จะยังตะกุกตะกักอยู่บ้าง ลงเล่น 24 นัด ยิงได้ 4 ประตู แต่ซีซันล่าสุด 2013 เจ้าตัวก็เริ่มฉายแวว ประเดิม 5 เกมแรก ซัลโวไปแล้ว 4 ตุง ติดอันดับ 4 ร่วมในตำแหน่งดาวซัลโว พร้อมพาต้นสังกัดขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตาราง
เปาโล เรนเจล - อีกหนึ่งหัวหอกค่าย “กิเลนผยอง” ย้ายมาเสริมคมในช่วงครึ่งเลกหลังของฤดูกาล 2012 พร้อมระเบิดไป 12 ประตู จนพา เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เถลิงบัลลังก์แชมป์สมัยที่ 3 แต่สุดท้ายต้องหลีกทางให้ โรแลนด์ ลินซ์ กองหน้าตัวใหม่ที่แชมป์ไร้พ่ายซื้อเข้ามา แพ็คกระเป๋าย้ายไปเล่นให้กับ เปรัก เอฟเอ ทีมในศึก มาเลเซีย ซุปเปอร์ลีก ด้วยสัญญายืมตัว แต่เพชรย่อมเป็นเพชร หอกบราซิเลียน วัย 28 ปี ก็กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ยังถิ่น เปรัก สเตเดียม ทันที ยิงไป 10 ประตู รั้งอันดับ 3 ดาวซัลโวลีกเสือเหลือง จนทำให้เหล่าแฟนอุลตราเมืองทองฯ โอดครวญต้นสังกัดให้ดึงตัวกลับมาโลดแล่นในไทยลีกอีกครั้งแต่สุดท้ายก็ไร้ผล
