ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ – วงการมอเตอร์สปอร์ตของไทยปีนี้ถือว่าคึกคักไม่น้อย เมื่อมีนักแข่งตบเท้ากันออกไปล่าความสำเร็จในเวทีโลกหลายรายการทั้งระดับ ฟอร์มูลา, ทัวริง คาร์ และ โมโตจีพี หนึ่งในนั้นคือ แซนดี เคราแก้ว สตูวิช ที่กำลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงการแข่งขัน ยูโรเปียน ฟอร์มูลา ทรี พร้อมวาดฝันก้าวเข้าสู่วงการ ฟอร์มูลา วัน ในอนาคต
แซนดี หนุ่มลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ผลงานร้อนแรงเกินห้ามใจในฤดูกาลนี้ หลังควบรถ F-312 ภายใต้สังกัด อาร์พี มอเตอร์สปอร์ต ซิวแชมป์ ยูโรเปียน เอฟทรี ไปแล้ว 2 สนามที่ฝรั่งเศส และล่าสุดสดๆ ร้อนๆ ที่ เบลเยียม สปา-ฟรองโกร์ชองป์ส เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ยังไม่นับรวมการขึ้นโพเดียมอีกหลายสนาม ขณะเดียวกันยังสร้างความประทับใจด้วยการคว้าตำแหน่ง โพล โพซิซัน มาแล้วถึง 2 เรซ ถือเป็นผลงานโดดเด่นที่ส่งให้เจ้าตัวยึดตำแหน่งจ่าฝูงบนตารางชิงแชมป์โลกของรุ่นอยู่ ณ ตอนนี้
โดย แซนดี เล่าถึงจุดเริ่มต้นก่อนจะมาหลงรักความเร็วจนถอนตัวไม่ขึ้นในปัจจุบันว่าเริ่มหัดขับโกคาร์ท ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ จากนั้นอีก 2 ปีจึงตัดสินใจลงแข่งรายการระดับประเทศปี 2002 ก่อนขยับไปลงชิงชัยระดับเอเชียเมื่ออายุ 12 ปี ซึ่งหลังจากคว้าตำแหน่งแชมป์เอเชียปี 2008 ก็ได้กลายเป็นหลักไมล์สำคัญที่ทำให้ตนเริ่มยกระดับไปสู่เวทีที่ใหญ่ขึ้น ด้วยการลงแข่งรายการ เอเชียน ฟอร์มูลา เรโนลต์ จนได้แชมป์มาครองในปี 2010
แต่เส้นทางจากนั้นก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเมื่อก้าวขึ้นมาอยู่ในรุ่น ฟอร์มูลา เรโนลต์ เวทียุโรป 2011 แซนดี ต้องเผชิญกับปัญหาการปรับตัวกับรถแข่งใหม่, สนาม และทีมงานใหม่ เรียกได้ว่าล้มลุกคลุกคลานอยู่นานแถมเจออุบัติเหตุในสนามทำให้จบแค่อันดับ 28 บนตารางชิงแชมป์โลก โดยกล่าวว่า “ผลงานช่วงนั้นถือว่าค่อนข้างเลวร้ายจนทำให้รู้สึกท้อ เพราะไม่คุ้นกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ กว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ถือว่าลำบากพอตัว แต่พอปรับตัวกับรถได้ ผลงานก็เริ่มดีขึ้นและอยู่ในจุดที่น่าพอใจในตอนนี้”
เมื่อถามถึงการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันระดับนี้ แซนดี วัย 18 ปี ที่มี มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ตำนานแชมป์โลก ฟอร์มูลา วัน 7 สมัย เป็นไอดอล เผยจะต้องเข้าโรงยิมเพื่อเล่นฟิตเนสและออกวิ่งทุกเช้า โดยมีเทรนเนอร์คอยให้คำแนะนำใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็ต้องควบคุมอาหารเพื่อรักษารูปร่าง เมื่อถึงเวลาลงแข่งก็ต้องมุ่งสมาธิไปยังเส้นชัยที่รออยู่ข้างหน้า ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าตัวก็เคยโชคร้ายโดนรถคู่แข่งประกบเบียดจนเสียหลักพลิกคว่ำมาแล้ว แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก
“ทุกครั้งที่ลงสนามผมจะมุ่งมั่นที่จะพารถเข้าเส้นชัยให้ได้ ส่วนเรื่องอุบัติเหตุนั้นยอมรับว่าไม่กังวลเท่าใดนักเพราะรถแต่ละคันจะมีเซฟตีที่ได้มาตรฐานอยู่แล้ว แม้ที่ผ่านมาจะเคยโดนเบียดพลิกคว่ำในปีแรกที่ฝรั่งเศสแต่ก็ไม่รู้สึกแหยง วันรุ่งขึ้นก็กลับมาแข่งต่อได้ตามปกติ เพราะอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ” แซนดี กล่าว
สำหรับนักแข่งใน ฟอร์มูลา เรโนลต์ ทุกคนย่อมใฝ่ฝันถึงการยกระดับขึ้นเป็นนักขับ เอฟวัน ไม่เว้นแม้แต่ แซนดี ล่าสุดเจ้าตัวก็แย้มว่าตอนนี้เริ่มมีทีมจากซีรีส์ จีพี 2 ซึ่งถือเป็นรายการรองจาก เอฟวัน ติดต่อทาบทามเข้ามาแล้ว ซึ่งนักขับดาวรุ่งไทยเผยขอทำผลงานให้ดีที่สุดในอีก 2 สนามที่เหลืออย่าง อิตาลี และ สเปน เพื่อดึงดูดใจให้ทีมดังใน จีพี 2 ดึงไปเป็นนักขับในปีหน้า พร้อมตั้งเป้าขึ้นเป็นนักแข่ง เอฟวัน ให้ได้ภายใน 3 ปีต่อจากนี้
“เวที เอฟวัน คือสิ่งที่ใฝ่ฝันมาตลอด ดังนั้นช่วงเวลาต่อจากนี้ก็อยากจะทำผลงานให้ดีและจบท็อป 3 บนตารางชิงแชมป์โลกเพื่อการันตีโอกาสลงแข่งใน จีพี 2 ก่อนต่อยอดไปสู่จุดนั้น ซึ่งหากฝันเป็นจริงก็อยากเป็นนักแข่งของ เฟอร์รารี เพราะเป็นทีมโปรดและ ชูมัคเกอร์ ก็เคยขับให้ทีมนี้ แต่สุดท้ายแล้วขอเป็นทีมใดก็ได้ เพราะแค่ได้ลงแข่ง เอฟวัน ก็ถือว่าฝันเป็นจริงแล้ว” นักขับชาวไทย ทิ้งท้าย