ชินจิ คากาวะ กองกลางทีมชาติญี่ปุ่น ลั่นวาจาขอสู้เพื่อตำแหน่งตัวจริงถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ฤดูกาลนี้ หลังจากปีแรกไม่ประสบความสำเร็จ แถมยังต้องเบียดกับ มารูยาน เฟลไลนี แข้งที่เพิ่งย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน มาสวมเสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขายนักเตะซัมเมอร์นี้ปิดทำการ 2 กันยายนที่ผ่านมา
คากาวะ ยังไม่ได้ลงเล่นศึก พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้เลยภายใต้การคุมทัพของ เดวิด มอยส์ หลังผ่านพ้นไป 3 นัด ซึ่งล่าสุด แมนฯยู ยังได้ตัว เฟลไลนี มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียมมาจาก เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัว 27.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,375 ล้านบาท) และน่าจะเป็นลูกรักด้วย เพราะเคยร่วมงานกับกุนซือชาวสกอตต์ที่ กูดิสัน ปาร์ค ถึง 5 ปี
อย่างไรก็ตาม คากาวะ ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางถึงญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ที่ 2 กันยายนที่ผ่านมาเพื่อลงเตะนัดกระชับมิตรพบ กัวเตมาลา วันศุกร์ที่ 6 กันยายนนี้ ตามด้วย กานา อีก 4 วันให้หลัง ไม่หวั่นอนาคตภายใต้สีเสื้อ แมนฯยู ทำให้บอกปัดย้ายกลับไปเล่นให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รวมถึง แอตเลติโก มาดริด ว่า "แน่นอนก็ตามนั้น ถือเป็นช่วงเวลายากลำบากที่กำลังมาเยือน แต่ผมก็จะทำงานให้หนักขึ้น”
คากาวะ คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมนี กับ ดอร์ทมุนด์ 2 สมัยติดต่อกัน รวมถึง เดเอฟเบ โพคาล ก่อนย้ายสู่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 2012 ด้วยค่าตัวราว 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 750 ล้านบาท) แข้งวัย 24 ปี ยิงไป 6 ประตู จาก 20 นัดในลีก โดยเป็นแข้งเอเชียคนแรกที่ทำแฮตทริกเกมถล่ม นอริช ซิตี 4-0 เมื่อเดือนมีนาคมปี 2013
ก่อนหน้านี้สาวก ดอร์ทมุนด์ พยายามกระตุ้นให้ต้นสังกัดถึง คากาวะ กลับมาค้าแข้งถิ่น ซิกแนล อีดูนา ปาร์ค อีกครั้ง ด้วยการออกแคมเปญ “ฟรี ชินจิ คากาวะ” นอกจากนี้ยังติดแฮชแทค #freeshinji ลง “ทวิตเตอร์” สื่อสังคมออนไลน์อีกแรงด้วย (แฮชแทคคือ # เพื่อให้ค้นหาได้ง่ายขึ้นเหมาะสำหรับพวกที่ทำธุรกิจ)
