ASTV ผู้จัดการรายวัน - “ศาสนา” กับ “กีฬา” ที่หลายคนต่างมองกันว่าอยู่คนละขั้ว ทว่าสามารถมาบรรจบกันได้กับโครงการ “โพธิคยาวิชชาลัย 980 นำโปรไทยสู่โลกแห่งธรรม” ที่จัดขึ้นโดย “บิ๊กอ๊อด” สุภชัย วีระภุชงค์ กรรมการผู้จัดการ “โภคีธรา กรุ๊ป” เพราะมองว่าการประพฤติปฎิบัติตนตามหลักธรรมะสามารถนำมาปรับภาวะจิตใจเพื่อพัฒนาเกม โดยเฉพาะกีฬากอล์ฟได้เป็นอย่างดี พร้อมกับความเชื่อที่ว่าทักษะของผู้เล่นไทยนั้นไม่เป็นรองชาติใดในโลก หากควบคู่ไปกับการฝึกฝนที่ถูกต้องก็สามารถประสบความสำเร็จระดับสูงสุดได้ไม่ยาก
คุณสุภชัย วีระภุชงค์ กรรมการผู้จัดการ “โภคีธรา กรุ๊ป”, เลขาธิการ “สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980” และ “กรรมการบริหารมูลนิธิวีระภุชงค์” เจ้าโครงการ “โพธิคยาวิชชาลัย 980 นำโปรไทยสู่โลกแห่งธรรม” ที่จัดขึ้น ณ โรงแรม โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท ระหว่างวันที่ 13-16 สิงหาคม ที่ผ่านมา เกริ่นนำถึงเรื่องธรรมะกับกีฬาว่า คนส่วนใหญ่มักมองเป็นแค่สิ่งที่ต้องอาศัยทักษะ การหมั่นฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาขีดความสามารถ ทว่ากลับมองข้ามเรื่องธรรมะหรือหลักธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้นักกีฬามีสติก่อเกิดเป็นสมาธิ ควบคุมสภาพจิตใจ ขจัดสิ่งรบกวนรอบข้างที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งถือเป็นอีกกลไกของความสำเร็จเช่นกัน
สำหรับโครงการนี้ถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยมีนักกอล์ฟชื่อดังของไทย อาทิ พรหม มีสวัสดิ์, กีรเดช อภิบาลรัตน์, ประหยัด มากแสง, ธรรมนูญ ศรีโรจน์, เชาวลิต ผลาผล ฯลฯ กับคณะสื่อมวลชนรวมกว่า 120 ชีวิตร่วมกิจกรรม พร้อมความหวังของ “บิ๊กอ๊อด” ที่ว่า ทุกคนจะสามารถศึกษาเข้าถึงหลักธรรมและนำมาประยุกต์ใช้ในการแข่งขันรวมถึงในชีวิตประจำวันได้อย่างดี
โดย คุณสุภชัย เล่าถึงโครงการตลอด 3 ครั้งที่ผ่านมา ว่าตนเองเห็นนักกอล์ฟไทยรุ่นใหม่ที่มีความสามารถมากมายแต่ยังขาดการเรื่องควบคุมสติ เมื่อตีเสียหรือสมาธิหลุดทำให้เกมจากที่เคยดีตลอดทั้งวันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที รวมทั้งยังขาดการนำทางที่ถูกต้องจนทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมาย ซึ่งหากสามารถทำได้ด้วยตนเองจนตกผลึกก็จะต่อยอดสามารถถ่ายทอดให้กับคนรุ่นต่อๆ ไปได้ด้วย
“เมื่อมีสติและสมาธิทำให้เรารู้ถึงสิ่งต่างๆ รอบตัวที่เป็นปัจจุบัน ไม่สับสนกับอดีตหรือกังวลกับอนาคต ไม่หลงในจิตวิทยาของคู่แข่ง รวมถึงสถานการณ์ที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น เสียงเครื่องบิน เสียงชัตเตอร์กล้อง จุดนี้นักกอล์ฟต้องหมั่นฝึกฝนด้วยตนเองและนำไปปฏิบัติ จากนั้นเมื่อใครฝึกจนเกิดผลสำเร็จจะสามารถนำไปบอกต่อและแนะนำสู่โปรกอล์ฟรุ่นใหม่ๆ ได้” กรรมการผู้จัดการ “โภคีธรา กรุ๊ป” กล่าว
ขณะที่ พรหม มีสวัสดิ์ เจ้าของฉายา “โลมายักษ์” ที่เข้าร่วมโครงการตลอด 3 ปี ชี้ว่า “เกมกอล์ฟสิ่งสำคัญอยู่ที่สมาธิขณะแข่งขัน ผมเองมีโค้ชด้านจิตวิทยาค่อยดูและเขาแนะหลักศาสนามาเกี่ยวโยงเช่นกันเพราะนำไปใช้ได้จริง เช่น เมื่อเราหยิบพัตเตอร์หรือหัวไม้ในแต่ละครั้ง ต้องคิดอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด หากมัวกังวลว่าข้างหน้ามีน้ำกลัวจะตีตกน้ำ ทำให้สมาธิหลุดและมีโอกาสผิดพลาดได้ง่ายขึ้น”
ส่วน “โปรอาร์ม” กิรเดช ขวัญใจชาวไทยที่เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาเพื่อมาร่วมกิจกรรมนี้โดยเฉพาะในช่วง 2 วันสุดท้าย เล่าถึงประสบการณ์จริงของตัวเองจากเข้าร่วมโครงการครั้งแรกเมื่อ 2 ปีว่า “ตอนแรกแค่ตามเพื่อนมาแบบไม่ได้คาดหวังอะไรเลย แต่สิ่งที่เหลือเชื่อคือหลังจากจบโคงการเดินทางไปแข่ง เอเชียน ทัวร์ ที่อินเดีย และสามารถคว้าแชมป์รายการแรกให้กับตัวเองได้ในศึก เซล โอเพน ด้วยการเอาชนะ ซิดดิคูร์ นักกอล์ฟจากบังกลาเทศ ในปี 2011”
ปิดท้ายที่พี่ใหญ่ของวงการ “โปรหมาย” ประหยัด ที่กวาดแชมป์ไปแล้ว 6 รายการนี้ซีซันนี้ ยืนยันอีกแรงว่า หลักธรรมะสามารถช่วยให้เกมกีฬาดีขึ้นจริงเพียงแค่นำมาปรับใช้ ก่อนเดินขึ้นแท่นทีออฟในหลุมแรกของวัน รวมถึงการตั้งสติให้ดีก่อนพัตต์จังหวะสำคัญพยายามคิดว่าเป็นการพัตต์ธรรมดา โดยต้องตัดเรื่องของสกอร์และเงินรางวัลจากการเล่นจังหวะนี้ออกให้หมด แต่ทั้งนี้ทุกอย่างย่อมขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของแต่ละคนด้วย
“หากเราฝึกต่อเนื่อง สม่ำเสมอ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผลงานของตัวนักกีฬาไม่ว่าชนิดใดก็ตามดีขึ้น อาจบอกไม่ได้ว่าจะเห็นผลชัดเจนทุกคนแต่การเริ่มต้นปฏิบัติจะเป็นเหมือนแรงส่งที่ต่อยอดไปสู่อนาคตได้” ก้านเหล็กวัย 47 ปี กล่าวทิ้งท้าย
