คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เพิ่งเขียนถึงความพ่ายแพ้ของอดีตแชมป์โลกชาวไทยอย่าง “เจ้าน้อย” คมพยัคฆ์ ซีพีเฟรชมาร์ท ไปเมื่อไม่นาน สัปดาห์ที่แล้วอดีตแชมป์โลกอีกรายก็มีอันต้องพบกับความผิดหวังในการพยายามหวนคืนบัลลังก์ เมื่อ “คนเหล็ก” พรสวรรค์ กระทิงแดงยิม พลิกล็อกเล็กๆ แพ้ต่อนักชกตากาล็อก หลังเกิดแผลแตกจากอุบัติเหตุในยกที่ 10 ทำให้ต้องมีการดูคะแนนกัน สุดท้ายเราก็แพ้ไปเสียแชมป์พาบาในรุ่นไลท์ฟลายเวต (108 ปอนด์)
ไฟต์นี้แฟนมวยที่ได้ชมการถ่ายทอดสดก็คงเห็นเหมือนกันว่า พรสวรรค์ แพ้อย่างไม่มีข้อกังขา เพราะตลอดการชก 9 ยกกว่าๆ “คนเหล็ก” ในวัย 35 ปีออกอาการพ่ายสังขารอย่างเห็นได้ชัด ช้ากว่าทั้งการเดิน การปล่อยหมัด หรือการปิดป้อง ปกติเป็นมวยสไตล์ลงทุนอยู่แล้ว ร่างกายกรำศึกมาหนักและมาออกอาการเอาชัดๆ ไฟต์นี้เอง เพราะโดนตลอด ทำให้ความหวังที่โปรโมเตอร์อย่าง “แชแม้” นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ จะดันขึ้นทวงเข็มขัดโลกกลับมาอีกครั้งก็ต้องดับไปด้วย ส่วนอนาคตจะได้ชกต่อหรือไม่ก็คงอยู่ระหว่างการพิจารณาในกลุ่มทีมงานอีกที
ช่วงนี้วงการมวยโลกบ้านเรากำลังเข้ายุคหยุดชะงัก เพราะไม่มีมวยใหม่ๆ ที่จะก้าวมาเป็นความหวังให้แฟนได้เทใจเชียร์จริงๆ จังๆ เลย สังเกตว่ามวยสร้างที่โปรโมเตอร์พยายามดันอยู่นั้นก็เป็นมวยเก่าที่อาจจะเคยมีบารมีและประสบความสำเร็จมาในอดีต แต่สภาพร่างกายจะไหวแค่ไหนก็น่าคิด อย่าง “เจ้ากร” พงษ์ศักดิ์เล็ก ที่แพ้แบบเสียศูนย์หลายครั้งจนแฟนมวยเป็นห่วง ก็ยังมีข่าวว่าทางกลุ่มผู้สนับสนุนจะพยายามดันให้มีโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกอีกครั้งอยู่ตลอด สัปดาห์หน้า อดีตแชมป์โลกอีกรายอย่าง “แวฮามะ” เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม วัย 36 ปี ก็เตรียมขึ้นชิงแชมป์โลก (เฉพาะกาล) ในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) ที่ว่างอยู่ของสมาคมมวยโลก อีกราย “เจ้าโอ๋” ศิริมงคล สิงห์วังชา อดีตแชมป์โลกที่เพิ่งพ้นโทษออกมาก็เพิ่งได้โอกาสหวนขึ้นเวทีทำฟอร์มหวังกลับสู่บัลลังก์โลกอีกครั้ง แม้วัยจะปาเข้าไป 36 ปีแล้วเหมือนกัน
ว่ากันจริงๆ อายุสามสิบกลางๆ ในวงการมวยระดับโลกก็ยังไม่ถึงกับถือว่าแก่ อย่าง “แพ็คแมน” แมนนี ปาเกียว ก็ 34 ปีแล้ว ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ นักชกไร้พ่าย ก็ 36 แถมเพิ่งพ้นโทษพ้นตะรางมาเหมือนกัน แต่ต้องยอมรับว่านักมวยอาชีพระดับโลกพวกนี้ มีความพร้อมมากกว่าเราหลายขุม ทั้งด้านการฟิตซ้อมเตรียมตัว การบำรุงร่างกาย การใช้วิทยาศาสตร์การกีฬามาช่วย ในขณะที่นักมวยไทยเราซ้อมกันเอง อาหารบำรุงก็พวกซุปไก่สกัด ซึ่งคุณค่าที่แท้จริงก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ที่สำคัญนักมวยเราโดนบีบน้ำหนักชกกันอยู่ 108-112-115 ปอนด์กันอยู่
ขณะที่มวยอย่าง ปาเกียว ปล่อยน้ำหนักให้ร่างกายเติบโตตามธรรมชาติและมีการบำรุงตลอดเวลา ไหนจะสไตล์การชกที่นักมวยเราส่วนใหญ่ต้องเป็นผู้ลงทุน เดินเข้าไปรับหมัดอาศัยความอึดแล้วหาจังหวะจ้วงคู่ต่อสู้ โดนดีๆ ก็ลง รวมทั้งการขึ้นชกตามโปรแกรมมวยโลกบ่ายสาม ล้วนแล้วแต่ทำให้สภาพร่างกายนักมวยเรากรอบเร็ว
ตอนนี้ว่าจริงๆ ก็มีแชมป์โลกหนึ่งเดียวของไทยอย่าง ศรีสะเกษ ส.รุ่งวิสัย ที่อยู่ในช่วงวัยกำลังห้าว 26 ปี แถมโชว์ฟอร์มวันคว้าเข็มขัดโลกได้ประทับใจ ที่จะมีโอกาสพิสูจน์ว่าตัวเองเป็น “ของจริง” ให้แฟนมวยชาวไทยได้ตามเชียร์กันยาวๆ แค่ไหน นอกนั้นก็ต้องลุ้นอดีตแชมป์โลกอีกหลายรายที่อายุยังน่าสนับสนุนทั้ง ผึ้งหลวง ส.สิงห์อยู่ หรืออย่าง สุริยัน ส.รุ่งวิสัย ว่าจะได้รับการสนับสนุนต่อเนื่องจริงจังมากกว่าอดีตแชมป์โลกขาลงทั้งหลายหรือเปล่า แฟนมวยชาวไทยจะได้คอยตามเฮ
เพิ่งเขียนถึงความพ่ายแพ้ของอดีตแชมป์โลกชาวไทยอย่าง “เจ้าน้อย” คมพยัคฆ์ ซีพีเฟรชมาร์ท ไปเมื่อไม่นาน สัปดาห์ที่แล้วอดีตแชมป์โลกอีกรายก็มีอันต้องพบกับความผิดหวังในการพยายามหวนคืนบัลลังก์ เมื่อ “คนเหล็ก” พรสวรรค์ กระทิงแดงยิม พลิกล็อกเล็กๆ แพ้ต่อนักชกตากาล็อก หลังเกิดแผลแตกจากอุบัติเหตุในยกที่ 10 ทำให้ต้องมีการดูคะแนนกัน สุดท้ายเราก็แพ้ไปเสียแชมป์พาบาในรุ่นไลท์ฟลายเวต (108 ปอนด์)
ไฟต์นี้แฟนมวยที่ได้ชมการถ่ายทอดสดก็คงเห็นเหมือนกันว่า พรสวรรค์ แพ้อย่างไม่มีข้อกังขา เพราะตลอดการชก 9 ยกกว่าๆ “คนเหล็ก” ในวัย 35 ปีออกอาการพ่ายสังขารอย่างเห็นได้ชัด ช้ากว่าทั้งการเดิน การปล่อยหมัด หรือการปิดป้อง ปกติเป็นมวยสไตล์ลงทุนอยู่แล้ว ร่างกายกรำศึกมาหนักและมาออกอาการเอาชัดๆ ไฟต์นี้เอง เพราะโดนตลอด ทำให้ความหวังที่โปรโมเตอร์อย่าง “แชแม้” นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ จะดันขึ้นทวงเข็มขัดโลกกลับมาอีกครั้งก็ต้องดับไปด้วย ส่วนอนาคตจะได้ชกต่อหรือไม่ก็คงอยู่ระหว่างการพิจารณาในกลุ่มทีมงานอีกที
ช่วงนี้วงการมวยโลกบ้านเรากำลังเข้ายุคหยุดชะงัก เพราะไม่มีมวยใหม่ๆ ที่จะก้าวมาเป็นความหวังให้แฟนได้เทใจเชียร์จริงๆ จังๆ เลย สังเกตว่ามวยสร้างที่โปรโมเตอร์พยายามดันอยู่นั้นก็เป็นมวยเก่าที่อาจจะเคยมีบารมีและประสบความสำเร็จมาในอดีต แต่สภาพร่างกายจะไหวแค่ไหนก็น่าคิด อย่าง “เจ้ากร” พงษ์ศักดิ์เล็ก ที่แพ้แบบเสียศูนย์หลายครั้งจนแฟนมวยเป็นห่วง ก็ยังมีข่าวว่าทางกลุ่มผู้สนับสนุนจะพยายามดันให้มีโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกอีกครั้งอยู่ตลอด สัปดาห์หน้า อดีตแชมป์โลกอีกรายอย่าง “แวฮามะ” เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม วัย 36 ปี ก็เตรียมขึ้นชิงแชมป์โลก (เฉพาะกาล) ในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) ที่ว่างอยู่ของสมาคมมวยโลก อีกราย “เจ้าโอ๋” ศิริมงคล สิงห์วังชา อดีตแชมป์โลกที่เพิ่งพ้นโทษออกมาก็เพิ่งได้โอกาสหวนขึ้นเวทีทำฟอร์มหวังกลับสู่บัลลังก์โลกอีกครั้ง แม้วัยจะปาเข้าไป 36 ปีแล้วเหมือนกัน
ว่ากันจริงๆ อายุสามสิบกลางๆ ในวงการมวยระดับโลกก็ยังไม่ถึงกับถือว่าแก่ อย่าง “แพ็คแมน” แมนนี ปาเกียว ก็ 34 ปีแล้ว ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ นักชกไร้พ่าย ก็ 36 แถมเพิ่งพ้นโทษพ้นตะรางมาเหมือนกัน แต่ต้องยอมรับว่านักมวยอาชีพระดับโลกพวกนี้ มีความพร้อมมากกว่าเราหลายขุม ทั้งด้านการฟิตซ้อมเตรียมตัว การบำรุงร่างกาย การใช้วิทยาศาสตร์การกีฬามาช่วย ในขณะที่นักมวยไทยเราซ้อมกันเอง อาหารบำรุงก็พวกซุปไก่สกัด ซึ่งคุณค่าที่แท้จริงก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ที่สำคัญนักมวยเราโดนบีบน้ำหนักชกกันอยู่ 108-112-115 ปอนด์กันอยู่
ขณะที่มวยอย่าง ปาเกียว ปล่อยน้ำหนักให้ร่างกายเติบโตตามธรรมชาติและมีการบำรุงตลอดเวลา ไหนจะสไตล์การชกที่นักมวยเราส่วนใหญ่ต้องเป็นผู้ลงทุน เดินเข้าไปรับหมัดอาศัยความอึดแล้วหาจังหวะจ้วงคู่ต่อสู้ โดนดีๆ ก็ลง รวมทั้งการขึ้นชกตามโปรแกรมมวยโลกบ่ายสาม ล้วนแล้วแต่ทำให้สภาพร่างกายนักมวยเรากรอบเร็ว
ตอนนี้ว่าจริงๆ ก็มีแชมป์โลกหนึ่งเดียวของไทยอย่าง ศรีสะเกษ ส.รุ่งวิสัย ที่อยู่ในช่วงวัยกำลังห้าว 26 ปี แถมโชว์ฟอร์มวันคว้าเข็มขัดโลกได้ประทับใจ ที่จะมีโอกาสพิสูจน์ว่าตัวเองเป็น “ของจริง” ให้แฟนมวยชาวไทยได้ตามเชียร์กันยาวๆ แค่ไหน นอกนั้นก็ต้องลุ้นอดีตแชมป์โลกอีกหลายรายที่อายุยังน่าสนับสนุนทั้ง ผึ้งหลวง ส.สิงห์อยู่ หรืออย่าง สุริยัน ส.รุ่งวิสัย ว่าจะได้รับการสนับสนุนต่อเนื่องจริงจังมากกว่าอดีตแชมป์โลกขาลงทั้งหลายหรือเปล่า แฟนมวยชาวไทยจะได้คอยตามเฮ
