มาริยง บาร์โตลี นักเทนนิสเลือดน้ำหอมเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม วิมเบิลดัน ให้สัมภาษณ์ ยอมรับว่า ตนเองคิดถึงการไล่หวดลูกสักหลาดในสนาม และไม่ปิดโอกาสที่จะรีเทิร์นกลับมาจับแร็กเก็ตคืนวงการลงแข่งขันอีกครั้ง หลังเพิ่งประกาศรีไทร์แบบช็อกโลกเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
นักเทนนิสหญิง มือ 7 ของโลก ประกาศแขวนแร็กเก็ตแบบช็อกวงการ หลังตกรอบ 2 ศึกเทนนิส ซินซินเนติ มาสเตอร์ส ที่เมืองลุงแซม เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพร่างกายที่บาดเจ็บเรื้อรังจนไม่สามารถฝืนลงแข่งได้ต่อ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เพิ่งทำความฝันสำเร็จด้วยการก้าวไปคว้าแชมป์แกรนด์สแลม วิมเบิลดัน เป็นสมัยแรกของตัวเองเมื่อเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้สมาคมนักเทนนิสอาชีพหญิง (ดับเบิลยูทีเอ) รวมทั้งหลายๆ ฝ่ายพยายามกล่อมให้ หวดวัย 28 ปี เปลี่ยนใจกลับมาเล่นต่อ แต่ก็ไม่เป็นผล โดยเธอหันไปรับบทบาทใหม่ด้วยการเป็นคอมเมนเตเตอร์ของ ยูโรสปอร์ต ในศึกแกรนด์สแลม สุดท้ายของปี “ยูเอส โอเพน” ที่สหรัฐอเมริกา ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้ (26 ส.ค.)
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด บาร์โตลี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองคิดถึงการลงแข่งขันเทนนิส และจะไม่ปิดโอกาสที่จะกลับมาจับแร็กเก็ตลงลงแข่งอีกครั้ง แต่เหตุผลที่ประกาศรีไทร์ก่อนหน้านี้คงไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกได้ดีเท่าตนเอง "คุณไม่เคยรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันลำบากใจมากที่ต้องพูดว่าฉันจะไม่คัมแบ็กแล้ว"
"ฉันเพียงต้องการเห็นอันดับโลกของฉันหล่นลงไป และดูอีกครั้งว่ามันจะไปหยุดตรงไหนตอนสิ้นปีเมื่อฉันไม่ลงแข่ง มันยากนะที่ใครสักคนจะเข้าใจ เพราะฉันเริ่มเล่นเทนนิสตั้งแต่ 6 ขวบ แต่ได้ลงตีบอลเป็นประจำกว่า 2 ล้านครั้งก่อนจะเทิร์นโปรเล่นอาชีพ" บาร์โตลี กล่าว
