"ฟีม" ถอยเป็นโค้ช ลุ้นคืนแทร็กปีหน้า

"ฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิด 2 ล้อชาวไทย ผันตัวเองขึ้นรับบทโค้ช “World Class Rider Coach” ของทีมไทยฮอนด้า พีทีที เกรซินี เรซซิง โมโตทู เพื่อถอยหลังหนึ่งก้าวมาดูสิ่งที่บกพร่องในมุมกว้าง พร้อมส่งต่อหมวกให้กับ "ติ๊งโน๊ต" ฐิติพงศ์ วโรกร ซิ่งต่อ

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเซนทาราแกรนด์แอท เซนทรัล ลาดพร้าว บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด จัดงานเลี้ยงขอบคุณ และแนะนำนักแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบคนใหม่อย่างเป็นทางการ โดยประกาศดัน "ฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ บิดมือ 1ของทีม ขึ้นสู่ตำแหน่ง “World Class Rider Coach” ให้กับทีมแข่งไทยฮอนด้า เกรซินี เรซซิง โมโตทู หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์บนสังเวียนเวิลด์จีพีทั้งในรุ่น 250ซีซี และโมโตทูมาอย่างโชกโชน เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับนักแข่งรุ่นใหม่ๆของเมืองไทยในการแข่งขันระดับโลก พร้อมเปิดตัว "ติ๊งโน๊ต" ฐิติพงศ์ วโรกร อีกหนึ่งผลผลิตจากฮอนด้าเรซซิง สคูล เข้ามารับไม้ต่อเตรียมลงสู้ศึกโมโตทูในครึ่งฤดูกาลหลังด้วยเบอร์เสื้อหมายเลข10

โดย "ฟีม"ได้เผยถึงการเปลี่ยนตำแหน่งของตนเองในครั้งนี้ว่า "ผมกับทางฮอนด้าได้มีการพูดคุยเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นฤดูกาลแล้ว ซึ่งต้องถือว่าที่ผ่านมาแม้จังหวะในสนามจะดี แต่ผลการแข่งขันยังไม่ดีเท่าไหร่ จึงต้องการหารุ่นน้องขึ้นมาแทน และการที่ผมได้มาทำหน้าที่ตรงนี้ด้วยประสบการณ์กว่า 7 ปีของผมก็จะเป็นประโยชน์กับติ๊งโน๊ตและทีม โดยในงานโค้ชผมก็ได้ศึกษาเรียนรู้มาตลอด 2-3ปีแล้ว และตอนนี้ก็กำลังศึกษาโปรแกรมเกี่ยวกับเรื่องวิธีการบิด และการเร่งแบบโค้งต่อโค้ง"

บิดวัย 24 ปีกล่าวต่อว่าทั้งนี้ตนยังไม่ได้ประกาศเลิกซิ่งแต่อย่างใด "ถึงผมจะผันตัวมารับบทโค้ช แต่ก็ยังไม่ได้ประกาศเลิกเล่น ผมยังอยากที่จะลงแข่งต่อ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางต้นสังกัด เหมือนกับว่าเราถอยหลังออกมา 1 ก้าว เพื่อดูในมุมกว้างว่าเรายังมีข้อบกพร่องตรงไหน และตอนนี้สภาพร่างกายผมก็แข็งแรงพร้อมไม่มีปัญหา จากนี้ก็พยายามที่จะรักษาเอาไว้ หากเป็นไปได้ฤดูกาลหน้าก็หวังที่จะกลับมาแข่งอีกครั้ง"

พร้อมกันนี้ "ฟีม" ได้กล่าวถึงติ๊งโน๊ตที่เข้ามาทำหน้าที่แทนว่า "สำหรับผมกับติ๊งโน๊ตนั้นไม่มีปัญหาอะไรกัน ร่วมงานกันได้ปกติ ซึ่งเขาเองก็เคยผ่านการขี่ในรุ่นนี้มาแล้ว ก็ไม่ต้องแนะนำอะไรมาก ผมอยากให้เขาชินกับเฟรมรถเร็วๆมากกว่าเพราะเพิ่งได้ลองเพียงแค่ครั้งเดียว ส่วนเรื่องเทคนิคก็ค่อยๆเพิ่มเข้าไป โดยสนามต่อไปที่จะถึงนี้ก็ยังไม่มีความยากเท่าไหร่ใกล้เคียงกับไทยแลนด์ เซอร์กิตจึงไม่น่าเป็นปัญหา"

ขณะที่ "ติ๊งโน๊ต" ได้เผยความรู้สึกว่าดีใจที่ได้โอกาส "ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่าน เป็นความฝันของผมมาตั้งแต่เด็กที่จะได้แข่งระดับโลก ก่อนหน้านี้ผมแข่งระดับอาเซียนอยู่แล้ว จากนี้ความกดดันต่างๆก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ส่วนในเรื่องผลงานก็คงต้องไปว่ากันในสนาม ซึ่งผมก็ได้คำแนะนำจากฟีมในเรื่องต่างๆ ทั้งเทคนิคการขี่รวมถึงการประสานงานกับทีม โดยตอนนี้ผมเองก็เตรียมเรียนภาษาอิตาลีเพิ่มเติมและจากที่ได้รองทดสอบดูแล้วครั้งหนึ่งก็ถือว่าโอเค"

ด้าน นายอารักษ์ พรประภา กรรมการบริหารฯ ได้ออกมายืนยันว่าการเปลี่ยนตัวครั้งนี้ไม่ใช่เพราะว่าฟีมหมดฝีมือแล้ว แต่เพียงต้องการที่จะนำประสบการณ์ตลอด 7 ปีของฟีมมาพัฒนาให้กับเยาวชนไทยรุ่นหลัง ซึ่งเล็งเห็นว่าตอนนี้ติ๊งโน๊ตเป็นคนที่พร้อมสุดที่จะขึ้นมาแทนโดยทางฮอนด้าไม่ได้ตั้งเป้าถึงขนาดต้องขึ้นโพลเดียมเพียงให้เป็นประสบการณ์มากกว่า ส่วนในเรื่องของสัญญานั้นไม่ขอเปิดเผย แต่ในเรื่องใบอนุญาตของติ๊งโน๊ตนั้นได้เคลียร์หมดแล้วสามารถลงแข่งขันในสนามต่อไปได้ทันที

ทั้งนี้ ฟีมและติ๊งโน้ตจะร่วมงานกันในฐานะโค้ชและนักแข่งเป็นครั้งแรกที่สนามอินเดียนาโปลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่นโมโตทู รายการอินเดียนาโปลิส กรังด์ปรีซ์ วันที่ 18 สิงหาคมนี้ ติดตามชมการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมได้ทางสถานีโทรทัศน์ทรูวิชั่น ช่องทรู สปอร์ต