คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”
คงไม่สายเกินไปที่จะกล่าวถึง “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ที่สร้างความฮือฮากลายเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” ในหมู่แฟนกีฬา หลังเจ้าตัวยิงประตูชัยช่วยให้ทีม สิงห์ ออลสตาร์ เอาชนะ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา
ต้นตอทั้งหมดเริ่มจากที่ “ลีซอ” ได้ให้สัมภาษณ์เพื่อเป็นการสร้างสีสันก่อนเกมกับ แมนฯยู ผ่านทีมข่าว MGR SPORT หลังจากที่เจ้าตัวมีชื่อติดทัพลงสนามดวลแข้งกับทีมในดวงใจ ว่าหากตนเองยิงประตูได้จะแสดงการดีใจด้วยการแกล้งทำท่าเฉยๆ ไม่ดีใจ เหมือนกับว่าตนเองยิงประตูทีมเก่าได้ เนื่องจากเป็นทีมที่ชอบและตามเชียร์มานาน
ดูเผินๆ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ด้วยบุคลิกของเจ้าตัว ที่เป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง ไลฟ์สไตล์หวือหวา ยามเยื้องกายในสนามทุกอย่างต้องเนี้ยบ จนทำให้แฟนบอลหลายคนมองในแง่ลบ หรือพูดแบบขวานผ่าซากคือ หมั่นไส้ !! และเมื่อบวกกับคำตอบที่ดูขี้แอ็ก จึงทำให้เมื่อวันดังกล่าวเกิดปรากฏการณ์คนไทยโห่คนไทยต่อหน้าฝรั่ง ให้พูดถึงได้ไม่จบ
เริ่มจากโห่แกมหยอกจากแฟนบอลไทยกลุ่มน้อยๆ กระเถิบเป็นวงกว้างที่มีแฟนบอลนอกเข้ามาผสมโรง ก่อนที่สุดท้ายจะพวกมากลากไป คึกคะนองจนบานปลายไปทั่วสนาม ขนาดที่ว่าสื่อต่างประเทศที่มาทำข่าวต้องหันมามองหน้าแล้วถามด้วยสำเนียงแมนคูเนียน ว่า “What happen ?”
แต่แข้งวัย 28 ปี ก็หาได้ยี่หระไม่ วิ่งสู้ฟัดตามสไตล์ ก่อนที่ นาที 50 จะบรรจงยิงด้วยอีซ้ายหนีมือ เบน อามอส เสียบเสาเข้าไป เปลี่ยนเสียงโห่เป็นเสียงเฮได้ฉับพลัน ทุกอย่างเหมือนจะแฮปปี เอนดิ้ง เพียงแต่ “ลีซอ เอฟเฟกต์” ยังไม่หมด หลังจบเกมยังมีข้อพิพาทโต้คารมกันทางโซเชียลเน็ตเวิร์กมากมาย ระหว่าง แฟนบอลไทยเข้าเส้นชนิด “บอลนอกแค่สะใจ บอลไทยในสายเลือด” ที่ตั้งกระทู้ต่อว่าคอบอลนอกที่เชียร์ “ปิศาจแดง” ว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า
ทั้งหมดนั้นหากลองพิจารณาย้อนกลับไป จากนักฟุตบอลคนนึงที่มีแฟนบอลค่อนขอด ลงสนามเจอกองเชียร์โห่ใส่ แต่ท้ายที่สุดสามารถยิงประตูสยบเสียงวิจารณ์ได้ สิ่งเหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับพล็อตหนังเรื่องหนึ่ง และสำหรับผมมันคือ 1 ในเสน่ห์กลางฟลอร์หญ้า ที่สะกดให้แฟนลูกหนังทั่วทุกมุมโลกคลั่งไคล้กีฬาชนิดนี้ราวกับต้องมนต์ ซึ่งตัวผมเองก็เกือบลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายที่รู้สึกสะใจกับโมเมนต์เช่นนี้ในฟุตบอลไทยคือเมื่อไหร่ แต่ในวันที่ “ปิศาจแดง” เล่นแบบซังกะตาย ชายที่ชื่อ “ธีรเทพ วิโนทัย” กลับเป็นไฮไลต์ที่ทำให้แฟนบอลทั้งประเทศพูดถึง
จากนี้ยังเหลืออีก 2 ทีม คือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา ที่รอจ่อคิวเดินทางมาเยือนประเทศไทยอยู่ ในวันที่ 28 ก.ค. และ 7 ส.ค.หวังว่าแฟนบอลชาวไทยคงจะเชียร์กันอย่างสนุก และซึมซับกับความสวยงามและเสน่ห์ของฟุตบอลระดับโลก มากกว่ามามัวคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
คงไม่สายเกินไปที่จะกล่าวถึง “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ที่สร้างความฮือฮากลายเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” ในหมู่แฟนกีฬา หลังเจ้าตัวยิงประตูชัยช่วยให้ทีม สิงห์ ออลสตาร์ เอาชนะ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา
ต้นตอทั้งหมดเริ่มจากที่ “ลีซอ” ได้ให้สัมภาษณ์เพื่อเป็นการสร้างสีสันก่อนเกมกับ แมนฯยู ผ่านทีมข่าว MGR SPORT หลังจากที่เจ้าตัวมีชื่อติดทัพลงสนามดวลแข้งกับทีมในดวงใจ ว่าหากตนเองยิงประตูได้จะแสดงการดีใจด้วยการแกล้งทำท่าเฉยๆ ไม่ดีใจ เหมือนกับว่าตนเองยิงประตูทีมเก่าได้ เนื่องจากเป็นทีมที่ชอบและตามเชียร์มานาน
ดูเผินๆ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ด้วยบุคลิกของเจ้าตัว ที่เป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง ไลฟ์สไตล์หวือหวา ยามเยื้องกายในสนามทุกอย่างต้องเนี้ยบ จนทำให้แฟนบอลหลายคนมองในแง่ลบ หรือพูดแบบขวานผ่าซากคือ หมั่นไส้ !! และเมื่อบวกกับคำตอบที่ดูขี้แอ็ก จึงทำให้เมื่อวันดังกล่าวเกิดปรากฏการณ์คนไทยโห่คนไทยต่อหน้าฝรั่ง ให้พูดถึงได้ไม่จบ
เริ่มจากโห่แกมหยอกจากแฟนบอลไทยกลุ่มน้อยๆ กระเถิบเป็นวงกว้างที่มีแฟนบอลนอกเข้ามาผสมโรง ก่อนที่สุดท้ายจะพวกมากลากไป คึกคะนองจนบานปลายไปทั่วสนาม ขนาดที่ว่าสื่อต่างประเทศที่มาทำข่าวต้องหันมามองหน้าแล้วถามด้วยสำเนียงแมนคูเนียน ว่า “What happen ?”
แต่แข้งวัย 28 ปี ก็หาได้ยี่หระไม่ วิ่งสู้ฟัดตามสไตล์ ก่อนที่ นาที 50 จะบรรจงยิงด้วยอีซ้ายหนีมือ เบน อามอส เสียบเสาเข้าไป เปลี่ยนเสียงโห่เป็นเสียงเฮได้ฉับพลัน ทุกอย่างเหมือนจะแฮปปี เอนดิ้ง เพียงแต่ “ลีซอ เอฟเฟกต์” ยังไม่หมด หลังจบเกมยังมีข้อพิพาทโต้คารมกันทางโซเชียลเน็ตเวิร์กมากมาย ระหว่าง แฟนบอลไทยเข้าเส้นชนิด “บอลนอกแค่สะใจ บอลไทยในสายเลือด” ที่ตั้งกระทู้ต่อว่าคอบอลนอกที่เชียร์ “ปิศาจแดง” ว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า
ทั้งหมดนั้นหากลองพิจารณาย้อนกลับไป จากนักฟุตบอลคนนึงที่มีแฟนบอลค่อนขอด ลงสนามเจอกองเชียร์โห่ใส่ แต่ท้ายที่สุดสามารถยิงประตูสยบเสียงวิจารณ์ได้ สิ่งเหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับพล็อตหนังเรื่องหนึ่ง และสำหรับผมมันคือ 1 ในเสน่ห์กลางฟลอร์หญ้า ที่สะกดให้แฟนลูกหนังทั่วทุกมุมโลกคลั่งไคล้กีฬาชนิดนี้ราวกับต้องมนต์ ซึ่งตัวผมเองก็เกือบลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายที่รู้สึกสะใจกับโมเมนต์เช่นนี้ในฟุตบอลไทยคือเมื่อไหร่ แต่ในวันที่ “ปิศาจแดง” เล่นแบบซังกะตาย ชายที่ชื่อ “ธีรเทพ วิโนทัย” กลับเป็นไฮไลต์ที่ทำให้แฟนบอลทั้งประเทศพูดถึง
จากนี้ยังเหลืออีก 2 ทีม คือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา ที่รอจ่อคิวเดินทางมาเยือนประเทศไทยอยู่ ในวันที่ 28 ก.ค. และ 7 ส.ค.หวังว่าแฟนบอลชาวไทยคงจะเชียร์กันอย่างสนุก และซึมซับกับความสวยงามและเสน่ห์ของฟุตบอลระดับโลก มากกว่ามามัวคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
