คริส ฟรูม ยอดนักปั่นชาวเมืองผู้ดีของทีมสกายยังฟอร์มแรงต่อเนื่องควบสองล้อคู่ใจคว้าชัยในการแข่งขัน ตูร์ เดอ ฟรองซ์ สเตจที่ 15 ฉลองแชมป์ในวันชาติฝรั่งเศสเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา ยึดเสื้อเหลืองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น พร้อมขยับเวลารวมห่างผู้ตามอีก 2 นาที
ศึกจักรยานทางไกล ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ครั้งที่ 100 ที่ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เข้าสู่การแข่งขันในสเตจที่ 15 ใช้เส้นทางรอบประเทศฝรั่งเศส โดยสเตจนี้เป็นเส้นทางจาก กิวอร์ส ไปถึง มงต์ เวนทัวซ์ ระยะทางรวม 242.5 กิโลเมตร ลักษณะเส้นทางขึ้นภูเขาสูง
ผลปรากฏว่า แชมป์สเตจนี้ตกเป็นของ คริส ฟรูม ยอดนักปั่นชาวเมืองผู้ดีของทีมสกาย ที่เกาะกลุ่มผู้นำมาตลอดก่อนจะสปรินต์ฉีกตัวออกมานำเดี่ยวในช่วง 7 กิโลเมตรสุดท้าย คว้าชัยด้วยเวลา 5 ชั่วโมง 48.45 นาที ความเร็วเฉลี่ย 41.7 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง กลายเป็นนักปั่นจากอังกฤษที่มาคว้าชัยตูร์ เดอ ฟรองซ์ ในวันชาติฝรั่งเศส โดยมี ไนโร ควินทานา นักปั่นโคลอมเบีย จากโมวิสตา ทีม และ มิเกล นีเว น่องเหล็กสแปนิช จากทีม อุสคาเทล-อุสคาดี ตามมาเป็นที่ 2 และ 3
หลังจบสเตจนี้ ฟรูม เปิดเผยหลังจากเข้าเส้นชัยและต้องมองหาออกซิเจนเป็นอันดับแรกโดยชี้ว่า “มันเหมือนการปั่นขึ้นภูเขาในเทพนิยาย นี่เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดในอาชีพของผมเลยก็ว่าได้ เป้าหมายของผมคือพยายามใช้เวลาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้”
นอกจากเป็นแชมป์สเตจนี้ ฟรูม ยังรักษาเสื้อเหลืองเอาไว้ได้อีกหนึ่งสเตจ โดยนำที่เวลารวม 61 ชั่วโมง 11 นาที 43 วินาที โดยมี เบาเก โมลเลมา จากเนเธอร์แลนด์ของทีมเบลกิน ตามหลังอยู่ 4.14 นาที และ อัลแบรืโต คอนทาดอร์ จากสเปนของทีม ซาโต-ตินคอฟ ตามหลัง 4.25 นาที โดยหลังจากนี้จะเป็นวันพัก 1 วันก่อนกลับมาชิงชัยกันอีกครั้งวันที่ 16 ก.ค.นี้