ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - โมเมนตัมวงการกอล์ฟหญิงโลก กำลังน่าจับตามองไม่น้อย เพราะชาวไทยได้ส่งใจเชียร์ พี่น้อง “โม-เม” โมรียา-เอรียา จุฑานุกาล 2 ดาวรุ่งที่เทิร์นโปรเมื่อปลายปีก่อนและสร้างชื่อกระฉ่อนเวที แอลพีจีเอ ทัวร์ อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับกระแส ปาร์ค อินบี สวิงจากแดนโสมขึ้นมายึดหัวหาดครองเบอร์ 1 ของโลกกวาด 3 เมเจอร์ของฝ่ายหญิงในปี 2013 จนลืมไปเลยว่าอดีตที่สุดของโลกอย่าง เจิ้ง หย่านี จากไต้หวัน ฟอร์มดำดิ่งล่าสุดหล่นไปรั้งมือ 8 และมีสิทธิ์หลุดท็อป 10 ในไม่ช้านี้
ตลอดระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่า หากพูดชื่อของ เจิ้ง หย่านี แฟนกอล์ฟน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเธอ เพราะเมื่อปี 2010 โปรสาวห้าวจากไต้หวัน กวาดแชมป์เมเจอร์มาครองถึง 3 จาก 4 รายการ ขาดไปก็แต่ “ยูเอส วีเมนส์ โอเพน” ใบเดียว ซึ่งก็ยังเป็นรายการเดียวที่เธอยังคงตามหามาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าฟอร์มปัจจุบันจะปฏิเสธไม่ได้ว่าแทบไม่เหลือเค้ามือ 1 ของโลกที่เคยมีฟอร์มยอดเยี่ยมไร้ที่ติ
ก้านเหล็กขาอ่อนวัย 23 ปี เคยครองอันดับ 1 ในตาราง “โรเล็กซ์ เวิลด์ แรงกิง” นานถึง 109 สัปดาห์กวาดแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ 13 รายการ ในช่วงปี 2010-2012 และคว้าแชมป์เมเจอร์มาครองได้ถึง 5 รายการด้วยกัน แต่หลังจากฉลองโทรฟีใบสุดท้ายในศึก “เกีย คลาสสิก” เมื่อเดือน 16 เดือนก่อน ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยการทิ้งห่าง ซัน ยังยู จากเกาหลีใต้ถึง 6 สโตรก เจิ้ง ยังไม่มีผลงานใดๆ เป็นชิ้นเป็นอัน ยิ่งไปกว่านั้นต้องเสียตำแหน่งมือ 1 ของโลกให้ สเตซี ลูอิส โปรร่างเล็กชาวมะกัน ก่อนบัลลังก์นี้จะเปลี่ยนมืออีกครั้งมาอยู่ที่ ปาร์ค อินบี ในปัจจุบัน
ต้นฤดูกาล ฟอร์มของ เจิ้ง ทำท่าจะดีขึ้นเมื่อจบรองแชมป์รายการ “ไอเอสพีเอส วีเมนส์ ออสเตรเลียน โอเพน” ที่แดนจิงโจ ต่อด้วยอันดับ 3 ร่วมใน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” ที่พัทยา แต่ก็ดีที่สุดเพียงแค่นั้น ต่อจากรายการที่ประเทศไทย หย่านี ไม่ติดท็อป 10 อีกเลยในอีก 11 แมตช์ที่ลงแข่ง และล่าสุด “ยูเอส วีเมนส์ โอเพน” เมื่อปลายเดือนมิถุนายน ที่ยังไม่เคยสัมผัสเธอไม่ผ่านการตัดตัวหวด 2 รอบตีเกินไป 7 โอเวอร์พาร์ มีสกอร์เฉลี่ยทุกแมตช์ในซีซันนี้อยู่ที่ 71.432
หลังจากจบรายการดังกล่าว โค้ชวงสวิงของ ปาร์ค อินบี ได้เข้ามาให้กำลังใจ เจิ้ง และเชื่อว่าจะกลับมาลุ้นแย่งมือ 1 ของโลกได้อีกครั้ง “หย่านี เธอต้องซ้อมหนักกับการพัตต์ของตัวเองต่อไป เธอยังเป็นนักกอล์ฟชั้นยอดเสมอ”
ขณะที่อดีตมือ 1 ของโลกพูดถึง อินบี ว่า “ฉันรู้จักเธอมาสักพักแล้วล่ะ และต้องขอยินดีด้วยที่ ปาร์ค ยึดตำแหน่งนี้ไปได้สำเร็จ ทุกครั้งหลังจบทัวร์นาเมนต์ฉันจะนั่งคุยกับแคดดีเสมอๆ ถึงเรื่องชัยชนะของ ปาร์ค และมันไม่ต่างจากช่วงที่ฉันเล่นได้ยอดเยี่ยมผู้คนมักพูดถึงฉันเหมือนกัน บางทีเรื่องนี้มันก็ตลกดีนะ”
นอกจากนี้ เจิ้ง ยังสารภาพว่า เธอ เล่นเหมือนไม่มีเป้าหมายในช่วงที่ครองความยิ่งใหญ่ในช่วงปี 2010-2011 และยังหวังเสมอว่าหลังจากนี้จะสามารถกลับมาครองมือ 1 ของโลกที่คุ้นเคยได้อีกครั้ง “มันยากมากที่จะมองหาเป้าหมายในยามที่คุณเดินนำหน้าคนอื่นๆ ฉันคยคุยกับ แอนนิกา โซเรนสตัม เธอบอกว่า คุณต้องมองหาเป้าหมายของตัวเองให้เจอและรักษาสมดุลในการครองมือ 1 ของโลกไว้ด้วย แต่แน่นอนฉันยังอายุน้อยและมีเวลาอีกยาวนานในอาชีพนี้ จะต้องกลับมาทวงมือ 1 ของโลกแน่ๆ”
โดยอีกครั้งเดือนที่เหลือนี้ แอลพีจีเอ มี 2 ทัวร์นาเมนต์อย่าง “เมนูไลฟ์ แอลพีจีเอ คลาสสิก” ระหว่างวันที่ 11-14 ก.ค. และ “มาราธอน คลาสสิก” วันที่ 18-21 ก.ค. ให้วอร์มอัพก่อนลุยเมเจอร์ “วีเมนส์ บริติช โอเพน” ต้นเดือน ส.ค. ซึ่ง เจิ้งที่มีคะแนนสะสม 5.82 แต้ม ในอันดับ 8 และมีโอกาสจะถูก ไอเค คิม กับ ชิน จีไย 2 โปรสาวเกาหลีใต้ ที่หายใจรดตนคอแต้มห่างเพียง 0.03 และ 0.04 แซงและเบียดให้หลุดออกจากท็อป 10 ของโลกได้เช่นกันหากว่าฟอร์มยังไม่ดีขึ้น
ท้ายที่สุดแฟนกอล์ฟที่ยังไม่ลืมโปรจากไต้หวันรายนี้ คงต้องภาวนาให้เธอหาเป้าหมายใหม่ในการเล่นให้เจออย่างที่เจ้าตัวว่าไว้ และพยายามถีบตัวเองขึ้นมาอยู่หัวแถวบนลีดเดอร์บอร์ด ออกรอบในก๊วนผู้นำอย่างที่คุ้นเคยอีกครั้ง
เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล
