"เจสซิกา-เนลลีย์ คอร์ดา" พี่น้องเลือดใหม่สวิงมะกัน

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ศึกกอล์ฟ “ยูเอส วีเมนส์ โอเพน” ที่ปิดฉากลงเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นอกจากความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของ ปาร์ค อินบี มือ 1 โลกจากเกาหลีใต้ที่ซิวเมเจอร์ 3 ใบติดต่อกัน ทางฝั่งสหรัฐฯ ยังเหมือนได้เปิดตัว เนลลีย์ คอร์ดา นักกอล์ฟหน้าใหม่ขึ้นมาประดับวงการเป็นความหวังอีกราย ซึ่งถือเป็นการแข่งขันระดับใหญ่ครั้งแรกของสาวน้อยวัย 14 ปี ที่มีโอกาสเก็บประสบการณ์เดินตามรอย เจสซิกา พี่สาวแท้ๆ ที่ได้กรุยทางในเวที แอลพีจีเอ ทัวร์ ไว้รอเรียบร้อยแล้ว

ชั่วโมงนี้ก้านเหล็กดาวรุ่งของสหรัฐฯ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคงหนีไม่พ้น เจสซิกา โปรวัย 20 ปี จากรัฐฟลอริดาเทิร์นโปรในปี 2010 และใช้เวลาปีเดียวซิวการ์ดทัวร์ของแอลพีจีเอ จากนั้นปี 2012 เธอซิวแชมป์แรกของตัวเองที่ “วีเมนส์ ออสเตรเลียน โอเพน” เป็นโทรฟีใบแรกในการเล่นกอล์ฟอาชีพ ก่อนพัฒนาฝีมือขึ้นมาอยู่หัวแถวได้รับการจับตามองมากขึ้นในซีซันนี้ โดยล่าสุดในเมเจอร์ หญิง “ยูเอส วีเมนส์ โอเพน” เพิ่งจบอันดับที่ 7 ร่วม

ขณะที่ เนลลีย์ นักกอล์ฟอเมเจอร์วัยเพียง 14 ปี น้องสาวแท้ๆ ของ เจสซิกา ที่คลานตามกันมาคว้าตั๋วเข้าแข่ง ณ สนาม ซีโบแนค กอล์ฟ คลับ ในนิวยอร์ค ครั้งแรกของตัวเองได้สำเร็จและด้วยความที่มีนามสกุล คอร์ดา แปะท้ายจึงถูกจับตามองกว่าดาวรุ่งรายอื่นๆ ซึ่งแม้ว่าสกอร์รวม 4 วันของเธอจะล้นไปถึง 22 โอเวอร์พาร์ จบอันดับที่ 61 ร่วม แต่ครั้งแรกในเมเจอร์และสามารถการผ่านตัดตัวได้ถือว่าสอบผ่าน

พี่น้องคู่นี้ถูกปลูกฝังให้มีใจรักกีฬามาตั้งแต่เด็กก่อนที่จะหันมาเอาดีด้านวงการกอล์ฟเต็มตัว โดยคุณพ่อของเธอไม่ใช่ใครที่ไหน ปีเตอร์ คอร์ดา นักเทนนิสเลือดเช็กเจ้าของแชมป์ “ออสเตรเลียน โอเพน” ปี 1998 ส่วนคุณแม่ เรจินา ราจ์ชโตวา เป็นอดีตนักหวดสาวเช่นกัน และด้วยวัยที่ห่างกัน 6 ปี แต่ทั้งคู่แทบจะถอดแบบมาในพิมพ์เดียวกันทั้งวงสวิงและลีลาอริยบทต่างๆ ยามที่อยู่บนแฟร์เวย์

เนลลีย์ เคยถูกผู้สื่อข่าวล้อมถามว่ารู้สึกอย่างไรกับการก้าวมาเล่นเมเจอร์ด้วยวัย 14 ปี และเร็วกว่าสมัยที่พี่สาวที่เปิดตัวในเวทีแอลพีจีเอ ทัวร์ ครั้งแรก ซึ่งคำตอบที่ออกมาเธอยังคงยิ้มตอบแบบติดตลกแต่ก็ไม่ลืมขอบคุณพี่สาวที่ทำให้มีวันนี้ว่า “ฉันขึ้นมาเทียบชั้นเธอได้แล้วและไม่นานคงไล่ได้ทัน จริงๆ เจสซิกา มีอิทธิพลทำให้ฉันอยากกอล์ฟมาก”

แน่นอนที่สุดหลังจากจบรอบ 2 ในวันศุกร์และสามารถผ่านการตัดตัว เนลลีย์ หวังว่าเธอจะสามารถประสบความสำเร็จเหมือนรุ่นพี่อย่าง เลกซี ธอมป์สัน และ มอร์แกน เพรสเซล ที่ดังมาตั้งแต่เด็ก พร้อมเผยว่า “ฉันพยายามจะนิ่งเข้าไว้ และเล่นให้ได้เหมือนตอนที่ซ้อมกับพี่สาว เจสซิกา ช่วยฉันได้มากทีเดียวกับเกมบนกรีน ย้อนกลับไปดูผลงานของตัวเองมันน่าตื่นเต้นมากทีเดียวกับครั้งแรกของตัวเอง”

สำหรับผลงานของ เจสซิกา ที่จบอันดับ 7 ร่วม มีเรื่องฮือฮาไม่น้อยโดยไคลแม็กซ์สำคัญหลังจบ 9 หลุมแรกของรอบ 3 ซึ่งหวดเกินไป 5 โอเวอร์พาร์ ไม่มีใครรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรแต่รายงานข่าวว่า เธอมีความเห็นไม่ตรงกับ เจสัน กิลโรเยด แคดดีคู่ใจรุนแรงขนาดถึงขั้นขอแยกทางในเวลานั้น และให้ จอห์นนี เดล พรีเต แฟนหนุ่มมาแบกถุงในช่วงการแข่งขันที่เหลือ

“เรามีความขัดแย้งกันและสภาพจิตใจฉันไม่พร้อม ฉันรู้ว่าต้องการเปลี่ยนแคดดีเพื่อที่จะได้เล่นสนุกขึ้น มันตัดสินใจยากเพราะฉันสนิทกับ เจสัน ด้วย เขาเป็นคนดีแต่มันก็เป็นเรื่องที่เราต้องพบเจอในชีวิต และฉันบอกให้ จอนนี มาถือถุงแทน” สวิงวัย 20 กล่าว

เดล พรีเต ที่มาถือถึงให้เป็นนักกอล์ฟใน “เว็บ ดอท คอม” ทัวร์รองของพีจีเอ ชี้ว่า “ผมคิดว่าทุกคนมีปัญหาในทุกสัปดาห์ คุณอาจจะโทษแคดดีหรือเป็นแคดดีที่โทษคุณ แต่นั่นก็ทำให้จิตใจคุณไม่พร้อมแล้วละ”

ด้าน ปีเตอร์ ในฐานะนักกีฬาแสดงความเห็นถึงผลงานลูกสาว 2 คนในรายการนี้ ว่า “เจสซิกา เป็นโปรและเธอมีแคดดีของเธอ นั้นคือสิ่งที่เธอตัดสินใจและผมก็ต้องรู้สึกพอใจด้วย ส่วน เนลลีย์ เธอกำลังเรียนรู้หลายอย่างและเป็นผมเองนี่แหละที่ทำหน้าเป็นทั้งคุณพ่อและแคดดีให้ลูกสาว”

จบแมตช์นี้เหลือโปรแกรมอีกครั้งทางเป้าหมายของ เจสซิกา คือมีแชมป์ติดมือสักรายการก่อนลุ้นแชมป์เมเจอร์ ฝั่งน้องสาวยังไม่มองถึงการเทิร์นโปร เธอขอแค่ควอลิฟายผ่านเข้าไปสร้างชื่อในเมเจอร์ “วีเมนส์ บริติช โอเพน” เท่านั้น ส่วนใครจะทำสำเร็จก่อนกันต้องลุ้นต่อในอีกครึ่งปีของแอลพีจีเอ ทัวร์

เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล