แอนดี เมอร์เรย์ นักหวดลูกสักหลาดหมายเลข 2 ของโลกชาวสหราชอาณาจักร สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ ศึกเทนนิส “วิมเบิลดัน” หลังต้อน โนวัค ยอโควิช มือ 1 โลกชาวเซิร์บ 3 เซตรวด เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา
ศึกเทนนิสแกรนด์สแลมรายการที่ 3 ของปี “วิมเบิลดัน” ณ สังเวียนออล อิงแลนด์ คลับ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ชิงเงินรางวัลรวม 22.5 ล้านปอนด์ (1.125 พันล้านบาท) เป็นการดวลแร็กเก็ตรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว ระหว่าง โนวัค ยอโควิช กับ แอนดี เมอร์เรย์
เซตแรก ท่ามกลางการแรลลีอย่างสูสี แอนดี เมอร์เรย์ เสิร์ฟเอซ 5 ครั้ง และการขึ้นจู่โจมหน้าเร็ตได้เฉียบขาดกว่า เก็บเบรกพอยต์เกม 7 เอาชนะไป 6-4 เซตสอง โนวัค ยอโควิช แก้เกมเน้นโจมตีด้วยลูกสไลด์ และการวอลเลย์หน้าเน็ต ขึ้นนำ 4-1 ทว่า เมอร์เรย์ ยื้อสุดชีวิตแถมมีโชคช่วยจากการตีพลิกเน็ต และสิทธิ์ชาลเลนจ์คู่แข่งหมดเกลี้ยง เป็นเหตุให้ “โนเล” ฉุนขาดจังหวะ 50-50 จนฟอร์มหลุด ถูกเสิร์ฟเอซปิดเซ็ตพอยต์ พ่ายไป 5-7
เซตสาม สถานการณ์ยังคงพลิกไปพลิกมาจนเสมอกัน 4-4 จากนั้น ความหวังหนึ่งเดียวชาวเมืองผู้ดี อาศัยการยิงวินเนอร์เฉียบขาด ปิดแมตช์ลงได้สำเร็จ แม้ “โนเล” จะพยายามยื้อสุดชีวิต 6-4 ส่งผลให้ เมอร์เรย์ กลายเป็นนักเทนนิสเลือด “จีบี” คนแรกรอบ 77 ปี ที่คว้าแชมป์วิมเบิลดัน ต่อจาก เฟร็ด เพอร์รี