ASTV ผู้จัดการรายวัน – ศึกเอเชียน อินดอร์ แอนด์ มาร์เชียล อาร์ต เกมส์ ครั้งที่ 4 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ นอกจากเกมการแข่งขันชิงเหรียญรางวัล อีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้ทัวร์นาเมนต์ดำเนินไปอย่างราบรื่นคงหนีไม่พ้น การร่วมแรงร่วมใจของบรรดา “อาสาสมัคร” ที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ทุกชีวิต ไม่ว่าจะเป็น คณะนักกีฬาและผู้สื่อข่าวจากชาติต่างๆ
โดยฝ่ายจัดการแข่งขันเปิดเผยกับทีมข่าว MGR Sport ที่บินไปเกาะติดการแข่งขันถึงแดนกิมจิว่า “อินชอนเกมส์” มีอาสาสมัครจากทั่วประเทศเดินทางมาช่วยงานกว่า 7 พันชีวิต ประกอบไปด้วยกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ชายหญิงตามมหาวิทยาลัยในกรุงโซลและเมืองต่างๆ ที่ต้องการหารายได้พิเศษช่วงปิดเทอมกับ ซึ่งนี่เป็นกลุ่มใหญ่สำหรับอาสาสมัคร ทั้งนี้ก็ยังมีพ่อค้าแม่ขายวัยกลางคน สละเวลาดูแลกิจการส่วนตัวมาช่วยงานนี้ด้วยเช่นกัน
ส่วนหน้าที่ของเหล่าอาสาสมัครในทัวร์นาเมนต์กีฬา หลักๆ ย่อมหนีไม่พ้นการอำนวยความสะดวกให้แก่สื่อที่เดินทางไปทำข่าว ทำเอกสารข้อมูลการแข่งขันของแต่ละชนิดกีฬา ขับรถรับส่งนักกีฬาและเหยี่ยวข่าวไปยังสนามแข่ง ดูแลความปลอดภัย หรือแม้แต่อเก็บกวาดสนาม ซึ่งแต่ละคนเวลาเลิกงานกันไม่ตายตัว สนามใดแข่งเสร็จเร็วก็ได้กลับบ้านก่อน แต่หากยืดเยื้อจนมืดค่ำก็ต้องอยู่รอจนจบ ก่อนกระจายกันออกไปเคลียร์พื้นที่จึงค่อยแยกย้าย
ซึ่ง จุง ดา ซอล กับ จาง เฮย จิน อาสาสมัครสาวที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปี 1 และ 3 ตามลำดับ ที่มหาวิทยาลัยอินฮา ทำหน้าที่ประจำสนามดองบู ยิมเนเซียม อันเป็นสังเวียนจัดการแข่งขันฟุตซอลหญิง เผยถึงการทำงานของพวกเธอในแต่ละวันที่เริ่มต้นกันตั้งแต่ 09.00 น. เวลากลับบ้านปกติคือ 16.00 น. กรณีเสร็จหน้าที่รับผิดชอบทุกอย่าง
ขณะที่ค่าตอบแทน จุง ดา ซอล ชี้แจงว่างานอาสาสมัครครั้งนี้ตนและเพื่อนๆ ได้ค่าแรงวันละ 1 หมื่นวอน (ราว 270 บาท) แบ่งเป็นค่าอาหาร 7 พันวอน (190 บาท) ค่ารถไป-กลับ 3 พันวอน (81 บาท) ซึ่งถือเป็นค่าแรงอันน้อยนิด อาจดูไม่คุ้มค่าในสายตาผู้อื่น อย่างไรก็ตาม อาสาสมัครทุกคนกลับไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนัก เพราะนี่ถือเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ดี ในการทำความรู้จัก เรียนรู้วัฒนธรรมของผู้คนจากชาติต่างๆ ที่หลั่งไหลมารวมตัวกันอยู่ที่เมืองอินชอน
“แม้ค่าตอบแทนที่ได้จะดูน้อยกว่าหากเทียบกับนักศึกษาคนอื่นที่ออกไปทำงานพิเศษ แต่โอกาสที่จะได้ทำงานร่วมกับชาวต่างชาติในทัวร์นาเมนต์ใหญ่เช่นนี้ หาไม่ได้ง่ายๆ ดังนั้น ฉันจึงอยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อประโยชน์สำหรับการศึกษาต่อในวันข้างหน้า” นี่คือความเห็นของ จุง ดา ซอล กับ จาง เฮย จิน ที่ทำงานอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย
ด้าน ฮอง อุนฮี หนึ่งในแม่บ้านรุ่นใหญ่ที่ต้องตื่นเช้าตั้งแต่ 08.00น. เพื่อเดินทางมาทำงานเป็นอาสาสมัครที่ เพรส เซ็นเตอร์ เผยถึงความรู้สึกที่มีต่องานที่ได้รับมอบหมายว่า “ฉันคิดว่านี่เป็นงานที่สนุกมาก ได้พบปะกับผู้คนที่หลากหลาย ที่สำคัญคือการได้เพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษไปในตัว ดีกว่าทำงานบ้านอยู่เฉยๆ”
อย่างไรก็ตาม การทำหน้าที่ของอาสาสมัครย่อมมีส่วนบกพร่อง อาทิเช่น การที่รถโดยสารของคณะสื่อมารับไม่ตรงเวลา หรือแม้แต่การส่งนักข่าวไปทำงานผิดสนามก็เกิดขึ้นมาแล้ว ด้วยการสื่อสารที่ผิดเพี้ยนในความเข้าใจกันไปบ้าง แต่ด้วยรอยยิ้ม มิตรภาพ และความพยายามช่วยเหลือกันอย่างแข็งขัน เชื่อเหลือเกินว่าเสียงตำหนิติติงคงมีไม่มาก และนั่นจะนำไปสู่การปรับปรุงให้เหล่าอาสาสมัครทำงานกันหนักขึ้นเพื่อทัวร์นาเมนต์ “เอเชียนเกมส์” ที่ใหญ่กว่ารอพิสูจน์ฝีมือการจัดการแข่งขันของอินชอนให้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งๆ ขึ้นต่อไป