xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! วิจัยพบพระสงฆ์ฉันเครื่องดื่มชูกำลังวันละ 3 ขวด - อาหารใส่บาตรห่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิจัยสุขภาพสงฆ์ไทย ย่ำแย่เต็มทน พบนิยมฉันเครื่องดื่มชูกำลังเกินวันละ 3 ขวด ขณะที่อาหารใส่บาตรตามตลาดคุณภาพห่วย ซื้อมาไม่เกิน 5 ชั่วโมง อาหารมีกลิ่นและบูด ส่วนพระสงฆ์เองโรครุมเร้าเพียบ เหตุสูบบุหรี่จัด ไม่ค่อยออกกำลังกาย โดยเฉพาะกลุ่มสังฆาธิการ แนะปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ทุกวันช่วยได้
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ นายพินิจ ลาภธนานนท์ อาจารย์จากสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในเวทีสัมมนาย่อยหัวข้อ “สถานการณ์เร่งด่วนสุขภาวะพระสงฆ์:ระเบิดที่รอเวลา” ในงาน “สานงาน เสริมพลัง ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่” จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เนื่องในโอกาส สสส.ครบรอบ 12 ปี ว่า จากการวิจัยสุขภาพพระสงฆ์จำนวน 246 รูป จากพื้นที่ 11 จังหวัดทั่วประเทศ ในโครงการร่วมแรงร่วมใจสร้างเสริมสุขภาวะพระสงฆ์ไทย เมื่อปี 2554-2555 พบว่า สุขภาวะ 4 มิติของพระสงฆ์ คือ กาย จิตใจ ปัญญา และสังคม ด้านที่มีปัญหามีเพียงเรื่องเดียวคือ ร่างกายและสุขภาพ โดยพระสงฆ์ร้อยละ 45.1 มีภาวะอ้วน ร้อยละ 43.1 มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยการสูบบุหรี่ ในจำนวนนี้เฉลี่ยแล้วสูบบุหรี่ต่อเนื่องมามากกว่า 16 ปี และเฉลี่ยสูบบุหรี่วันละ 11 มวน

นายพินิจ กล่าวอีกว่า สำหรับโรคประจำตัวของพระสงฆ์พบว่า ร้อยละ 40.2 มีโรคประจำตัว ซึ่ง 5 อันดับแรกคือ 1.โรคภูมิแพ้ 2.โรคกระเพาะอาหาร 3.โรคความดันโลหิตสูง 4.โรคทางตา และ 5.โรคเบาหวาน ส่วนพฤติกรรมการออกกำลังกายพบว่า กิจวัตรประจำวันของพระสงฆ์ เช่น การบิณฑบาต กวาดลานวัด เดินจงกลม ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับพระสงฆ์ แต่กลับพบว่ามีพระสงฆ์บางกลุ่มไม่ได้ปฏิบัติ เนื่องจากมีภารกิจมาก เช่น กลุ่มพระสังฆาธิการ ซึ่งเป็นพระฝ่ายปกครองที่มีตำแหน่งตั้งแต่ระดับผู้ช่วยเจ้าอาวาสเป็นต้นไป รวมทั้งพระนิสิตระดับบัณฑิตวิทยาลัย ที่จะต้องใช้เวลาในการอ่านหนังสือมาก ทำให้นอนดึก จนไม่มีเวลาปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าพระทั้งสองกลุ่มดังกล่าวมีภารกิจมากในแต่ละวัน จึงนิยมฉันเครื่องดื่มชูกำลังมากกว่า 3 ขวดต่อวัน เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำลายสุขภาพพระสงฆ์

อีกปัญหาที่ทำลายสุขภาพพระสงฆ์คือ อาหารใส่บาตร จากการลงพื้นที่สำรวจตามตลาดในจังหวัดใหญ่ๆ พบว่าจะมีการแยกกันขายระหว่างอาหารใส่บาตร กับอาหารที่ซื้อไปรับประทานเอง เมื่อทดลองซื้ออาหารใส่บาตรในตลาดแห่งหนึ่ง จ.เชียงใหม่ พบว่า อาหารใส่บาตรที่ทดลองซื้อมาเวลา 06.00 น.เมื่อแกะถุงออกตอนเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน พบว่าอาหารมีกลิ่นและบูด ทั้งที่เป็นอาหารถุงที่แยกขาย และระบุว่าเป็นอาหารใส่บาตร ถือว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พระสงฆ์ได้รับอาหารที่ไม่มีคุณภาพ และส่งผลเสียต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามจากการวิจัยพบข้อมูลที่น่าสนใจคือ หากพระสงฆ์ปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ทุกวัน จะได้ออกกำลังกายเฉลี่ยแล้วถึงวันละประมาณ 60-65 นาที” นายพินิจ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น