ภูเก็ตเตรียมจัดกีฬามวยปล้ำเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตประชุมเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬามวยปล้ำเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ระหว่างวันที่ 13-16 มิ.ย.นี้ มีนักกีฬาจาก 25 ประเทศในกลุ่มเอเชียเข้าร่วม คาดเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (28 พ.ค.) ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ดร.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬามวยปล้ำเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ระหว่างวันที่ 13-16 มิ.ย.2556 ที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี ผศ.วังสรรค์ สุฉันทบุตร นายกสมาคมมวยปล้ำแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการจัดการแข่งขันจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวเป็นการเตรียมความพร้อมฝ่ายต่างๆ ทั้งฝ่ายจัดการแข่งขัน สถานที่ ฝ่ายรักษาความปลอดภัย และจราจร ฝ่ายแพทย์และพยาบาล ฝ่ายต้อนรับและปฏิคม ฝ่ายขนส่ง ฯลฯ เพื่อให้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาเรื่องการจัดแถลงข่าว ยานพาหนะที่ใช้ในการรับส่งนักกีฬา และคณะกรรมการจากที่พัก-สนามแข่งขัน รวมถึงการกำหนดพิธีเปิด-ปิด การเลี้ยงนักกีฬาในวันสุดท้ายของการแข่งขัน

ดร.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดการแข่งขันฯ สืบเนื่องจากทางสมาคมมวยปล้ำแห่งประเทศไทย ได้มาประสานงานแจ้งให้จังหวัดภูเก็ตทราบว่า สมาคมฯ มีโปรแกรมที่จะจัดการแข่งขันมวยปล้ำระดับชิงแชมป์นานาชาติที่ภูเก็ต ในเดือน มิ.ย.2556 หลังจากนั้นทราบว่า สมาพันธ์มวยปล้ำนานาชาติ ได้มาจัดการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาพันธ์ฯ ที่จังหวัดภูเก็ต โดยใช้สถานที่โรงแรมดวงจิตต์รีสอร์ท เป็นสถานที่ประชุม ในเดือน ก.พ.2556 ที่ผ่านมา ในครั้งนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ให้การต้อนรับ

ขณะที่ ผศ.วังสรรค์ สุฉันทบุตร นายกสมาคมมวยปล้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการแข่งขันครั้งนี้ ทางสมาคมฯ คาดหวังไว้ลึกๆ ว่า หลังจากการจัดการแข่งขันครั้งนี้ผ่านพ้นไป ผลจากการแข่งขันของนักกีฬามวยปล้ำของจังหวัดภูเก็ตน่าจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ เพราะมีบุคลากรที่มีความสามารถระดับชาติอยู่แล้ว สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ นักกีฬาของชาติต่างๆ จะอยู่ในระดับ JUNIOR ดังนั้น การแข่งขันครั้งนี้จึงใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “ASIAN JUNIOR WRESTLING CHAMPIONSHIPS” ชื่อเป็นภาษาไทยคือ “การแข่งขันมวยปล้ำเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย” กำหนดการแข่งขันระหว่างวันที่ 13-16 มิ.ย.2556 สนามแข่งขันใช้โรงยิม 4,000 ที่นั่ง สังกัดเทศบาลนครภูเก็ต

ส่วนจำนวนนักกีฬา ทีมกีฬา และเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าร่วม จาก 25 ประเทศ มีประมาณ 500 คน ที่จะนำเม็ดเงินเข้ามาสู่ภูเก็ต ช่วยกระตุ้นเรื่องเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภูเก็ต โดยจะมีการใช้จ่าย 5,000-8,000 บาทต่อคน รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 15-20 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม 25 ประเทศในกลุ่มของเอเชียที่เข้าร่วมแข่งขันถือว่าค่อนข้างเยอะมากสำหรับการจัดการแข่งขันกีฬานานาชาติในประเทศไทย