ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - 16 มิถุนายน 2013 คงเป็นวันประวัติศาสตร์ที่ ฟิล มิคเคลสัน โปรจอมเก๋าชาวอเมริกันต้องจดจำไม่มีวันลืม เพราะต้องฉลองวันเกิดเคล้าน้ำตาจากการอกหักซิวรองแชมป์เมเจอร์ "ยูเอส โอเพน" ที่สนาม เมเรียน กอล์ฟ คลับ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งพระรองสมัยที่ 6 ทั้งที่รั้งตำแหน่งผู้นำมาจากรอบที่ 3 ทำให้ต้องรอเปิดซิงแชมป์รายการนี้ต่อไป ซึ่งตลอด 21 ปี นับตั้งแต่เทิร์นโปร "เลฟตี้" ล้วนเคยผิดหวังชวดแชมป์มาแล้วมากมายและ 10 เหตุการณ์เหล่านี้คือเดจาวูที่ติดตาไปอีกนาน
10. เวลส์ ฟาร์โก แชมเปียนชิป 2013 - การลุ้นแชมป์ที่ เควล ฮอลโลว์ คลับ มาสนุกในวันสุดท้าย มิคเคลสัน และ นิค วัตนีย์ 2 โปรมะกัน แชร์ตำแหน่งผู้นำรวมบนลีดเดอร์บอร์ด แต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่เสียโบกีหลุม 16 และ 17 ทำให้สกอร์รวมของ “เลฟตี้” เหลือ 7 อันเดอร์พาร์ เขาต้องการเบอร์ดีที่หลุมสุดท้ายเพื่อไปเพลย์ออฟกับ ดูเร็ค เออร์เนสต์ โปรรุ่นน้องจากสหรัฐ และ ดาวิด ลินน์ ของอังกฤษ แต่ไม่สำเร็จต้องจบทัวร์นาเมนต์อันดับ 3 เทียบความผิดหวังนี้กับแชมป์เมเจอร์อื่นๆ ฟิล อาจรู้สึกเหมือนแค่แชมพูเข้าตาเท่านั้น
9. เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2001 - โอกาสลุ้นแชมป์รายการเมเจอร์ใบแรกเพื่อประดับบารมีของ มิคเคลสัน เขาออกสตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยสกอร์ไล่หลัง ไทเกอร์ วูดส์ เพียง 1 สโตรก แต่จบ 18 หลุมก็ไม่สามารถหยุดความร้อนแรงของ “พญาเสือ” ปล่อยให้ก้านเหล็กรุ่นน้องเก็บสถิติทำแกรนด์สแลมคว้าแชมป์เมเจอร์ทั้ง 4 ใบไปครอง ขณะที่ตัวเองหล่นมาอยู่ที่ 3 อย่างน่าเสียดาย
8. ยูเอส โอเพน ปี 2004 - โปรกอล์ฟคุณพ่อลูก 2 ที่อกหักจากรายการนี้มาแล้ว 2 ครั้งในปี 1999 และ 2002 หวังจะปิดบัญชี้ให้ได้ในปีนี้ที่ชินเนคล็อก ฮิลส์ กอล์ฟ คลับ เริ่มต้นรอบสุดท้าย ฟิล รั้งที่ 2 ร่วมกับ เออนีย์ เอลส์ จากแอฟริกาใต้ ตาม เรทีฟ กูเซน ผู้นำเพียง 2 สโตรก และเหมือนว่าโชคจะเริ่มเข้าข้างที่ กูเซน เสีย 1 โอเวอร์พาร์ ทำให้ระยะห่างเหลือเพียงสโตรกเดียวเท่านั้น แต่ที่โชคร้ายกว่าคือ “เลฟตี้” มาพลาดเสียโบกีเช่นกันทิ้งระยะห่างไว้ 2 แต้มเท่าเก่าเป็นรองแชมป์ ยูเอส โอเพน ครั้งที่ 3
7. ยูเอส โอเพน ปี 2002 - อีกครั้งที่ มิคเคลสัน ต้องดวลกับ ไทเกอร์ ในรอบสุดท้าย โดยมีสกอร์ตามหลังถึง 5 สโตรก อย่างไรก็ตามโปรจากเมืองซาน ดิเอโก ทำดีที่สุดด้วยการเซฟพาร์ในวันอาทิตย์ ไปรอลุ้นบนคลับเฮาส์ และ วูดส์ มาพลาดเสีย 2 โอเวอร์พาร์ แต่ก็ไม่พลาดไปมากกว่านั้น จบทัวร์นาเมนต์ด้วยระยะห่าง 3 สโตรก คว้าอันดับ 2 ต่อหน้าแฟนๆ กอล์ฟนิวยอร์คที่แห่มาเชียร์อย่างคับคั่ง
6. พีจีเอ แชมเปียนชิป ปี 2001 - ออกรอบสุดท้ายตามหลัง เดวิด ทอมส์ 2 สโตรก ทั้งคู่ออกก๊วนเดียวกัน สถานการณ์ที่หลุม 15 เขาไล่ขึ้นมาเหลือเพียงแต้มเดียวและยื้อไปจนถึงหลุม 18 โดย ทอมส์ พัตต์ระยะ 12 ฟุตเซฟพาร์ไปก่อน ขณะที่โจทย์ของ “เลฟตี้” ต้องพัตต์เบอร์ดี 20 ฟุตเพื่อ ไปลุ้นเพลย์ออฟ ผลสุดท้ายคือเขาสอบไม่ผ่านอีกครั้ง
5. ยูเอส โอเพน ปี 2009 - เหตุการณ์คล้ายจะซ้ำรอยกับปี 2002 ที่สนามเดียวกัน มิคเคลสัน เหมือนจะไม่มีลุ้นแล้วจากการที่มีสกอร์ตามหลังผู้นำถึง 6 สโตรก แต่แล้วหลังจบหลุม 13 เขากลายเป็นผู้นำเดี่ยวหลังจากที่ ริคกี บาร์นส์ ผู้นำตีออกทะเลทิ้งแต้มไปหมด ทว่าจุดอ่อนของเขาคือการมาพลาดเอง “เลฟตี้” ตกม้าตาย เสียโบกีที่หลุม 15 และ 17 และเริ่มชินกับการเป็นเพียงพระรอง
4. ยูเอส โอเพน ปี 1999 - การพลาดเองคือจุดอ่อนที่มีมากตั้งแต่เด็กของ มิคเคลสัน เขาตามหลังผู้นำอยู่ 1 สโตรก และไล่ขึ้นมานำร่วมหลังจบหลุม 12 จากนั้นเกมของ ฟิล ดีขึ้นกระทั่งไปพลาดเองจากการเสียโบกีหลุม 16 และแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ผ่านตัดตัวแต่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาซิวรองแชมป์รายการนี้เช่นกัน สิ่งที่เจ็บปวดคือเขาไม่ได้แพ้ต่อ เพย์น สจ๊วร์ต เจ้าของแชมป์ หากแต่เป็นการแพ้ต่อตัวเองมากกว่า
3. ยูเอส โอเพน ปี 2013 - สดๆ ร้อนๆ เพิ่งผ่านไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มิคเคลสัน ใกล้เคียงกับการเป็นแชมป์มากที่สุด และเป็นวันฉลองวันเกิดวัย 43 ปี ของเขาเอง ทว่าโชคชะตามาเล่นตลก เขาเสียดับเบิลโบกี้หลุม 3 และ 5 และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ปล่อยให้ จัสติน โรส โปรหนุ่มอังกฤษ ปาดหน้าคว้าแชมป์ใบนี้ไปครองอย่างน่าเจ็บใจชนิดที่โทษใครไม่ได้
2. ไรเดอร์ คัพ ปี 2012 - สหรัฐฯ ที่หวังแย่งแชมป์จากยุโรปมาครองให้ได้ในการดวลกันที่เมดินาห์ กอล์ฟ คลับ และนำอยู่ 10-6 ก่อนแข่งแมตช์เพลย์วันสุดท้าย ในคู่ของ มิคเคลสัน ที่ต้องดวลกับ โรส เขานำอยู่ 1 อัพ ก่อนเล่นหลุม 17 ทว่ามาโดนทีเด็ดสวิงเมืองผู้ดีเก็บ 2 เบอร์ดีแซงเอาชนะไปจนได้ ทำให้คะแนนรวมกลับมาเสมอกันที่ 11-11 ก่อนสุดท้ายทีมบ้านเกิดของ มิคเคลสัน จะพ่ายไป 13 ครึ่งต่อ 14 ครึ่ง เรียกว่าอกหักทั้งแชมป์ส่วนตัวและระดับชาติ
1. ยูเอส โอเพน ปี 2006 - มิคเคลสัน ในวัย 36 ปี นำร่วมกับ เคนเนตท์ เฟอร์รี สวิงชาวอังกฤษที่ 2 โอเวอร์พาร์ และหลุมสุดท้ายเขานำ เจฟฟ์ โอกิลวี จากออสเตรเลีย 1 สโตรกขอแค่เซฟพาร์จะเป็นแชมป์ในทันที อย่างไรก็ดีเหมือนเป็นอาถรรพ์ที่แก้ไม่ตกเมื่อทีออฟออกซ้ายไปตกใกล้เต็นท์กองเชียร์และตามเล่นช๊อต 2 ตกบังเกอร์ ก่อนจะจบหลุมนี้ด้วยดับเบิลโบกี การชวดแชมป์ครั้งนี้ถือเป็นความผิดหวังสูงสุด โดยเขาถึงกับออกมาบอกว่าตัวเองไม่ต่างจากคนบ้าที่ทิ้งแชมป์ไปดื้อๆ
เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล