“เสี่ยเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ออกโรงให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันเพื่อหาข้อยุติการพิพาทกรณีเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และแก้ธรรมนูญข้อบังคับ เชื่อส่งผลเสียต่อการพัฒนาวงการลูกหนังแน่นอนหากประเทศไทยโดนแบน
หลังจากเป็นข้อพิพาทใหญ่โตในวงการลูกหนังไทย ระหว่างสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย นำโดย นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฯ ที่ต้องการแก้ไขข้อบังคับของสมาคมให้เป็นไปตามธรรมนูญมาตรฐานของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) ก่อนที่จะมีการจัดเลือกตั้งครั้งใหม่หลังวาระของตนจะหมดลงในวันที่ 16 มิถุนายน นี้ กับฝ่ายตรงข้ามนำโดย อรรณพ สิงห์โตทอง, วิรัช ชาญพานิชย์ และ พินิจ งามพริ้ง ที่ต้องการจะให้ “บังยี” จัดการเลือกตั้งโดยเร็วโดยใช้ข้อบังคับเดิมตามกฎหมายไทย ก่อนที่จะแก้ไขให้เป็นไปตามสากลหลังได้ประมุขคนใหม่เรียบร้อย
โดยในเรื่องนี้ รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ ออกมาเผยว่าอยากที่จะให้ทุกฝ่ายเคลียร์ใจกันก่อนที่จะบานปลาย “ผมว่ามันเป็นปัญหาในประเทศที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันแก้ แต่ผมยังเชื่อว่าสุดท้ายไม่ว่าอย่างไรเราก็เป็นคนไทยที่รักในฟุตบอลเหมือนกันน่าจะพูดคุยกันได้ลงตัว”
ส่วนเรื่องกรณีที่ลูกหนังไทยอาจถูกแบนจากฟีฟาได้นั้น “เสี่ยเป้” กล่าวว่า “เป็นผลเสียใหญ่แน่นอนหากเราถูกแบน ไม่ใช่แต่ในนามทีมชาติ แต่รวมถึงสโมสรด้วยเช่นกัน ขณะนี้ฟุตบอลไทยกำลังก้าวไปข้างหน้า การลงเล่นในถ้วยเอเชียทำให้มีหลายประเทศให้ความสนใจ และสามารถดึงผู้เล่นต่างชาติฝีเท้าดีเข้ามาบ้านเราได้ หากเราถูกแบนจริงก็จะมีผลต่อพัฒนาการในการเล่นอย่างมาก จะขาดช่วงไปเลย เปรียบดัง ลิเวอร์พูล และสโมสรจากอังกฤษที่ถูกแบน 5 ปีในเวทียุโรป กว่าจะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งก็เป็นระยะเวลานาน”