คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
เรื่องใหญ่ในวงการฟุตบอลตอนนี้คงเป็นเรื่องการเลือกตั้ง นายกสมาคมฯ ที่กำลังจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ และจะต้องมีการเลือกตั้งเพื่อหาผู้นำคนใหม่ภายในเวลาไม่เกิน 30 วัน นอกจากนั้น การปฏิรูป ธรรมนูญของสมาคมฯ ซึ่งต้องให้การดำเนินการต่างๆนั้นสอดคล้องกับ ธรรมนูญของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า องค์กรสูงสุดของวงการฟุตบอลในโลกของเรา แล้วก็มีความพยายามทำให้การเลือกตั้ง นายกสมาคมฯ เลื่อนออกไป
ผมลองไปค้นดู ธรรมนูญมาตรฐาน ( Standard Statutes ) ที่ ฟีฟ่า นำของปี 2001 มาปัดฝุ่นแล้วทำออกมาเป็นธรรมนูญต้นแบบให้สมาคมสมาชิกนำไปเขียนธรรมนูญของสมาคมฟุตบอลของชาติตน อันนี้ โชเซ็ฟ บลัทเท่อร์ ประธาน ฟีฟ่า ลงนามตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2005 โน่นแน่ะครับ
ผู้นำสูงสุดของโลกในวงการฟุตบอลเน้นว่า แต่ละชาติต้องดูให้ดีว่า ธรรมนูญของตนสอดคล้องกับของ ฟีฟ่า ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ธรรมนูญของแต่ละชาติทันยุคทันสมัย เป็นการพัฒนาฟุตบอลในแต่ละชาติสมาชิกเองด้วย
ผมอ่านดูมาตราต่างๆที่กล่าวไว้ก็เป็นการระบุรายละเอียดคร่าวๆซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรน่าแปลกใจหรือผิดจากแนวทางที่ควรจะเป็นเลย อย่างเช่น เรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีที่แตกต่างจากกฎหมายไทยที่ให้เพียง 2 ปีเท่านั้น ดังนั้น ธรรมนูญของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่จะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับ ธรรมนูญขององค์กรสูงสุด คือ ฟีฟ่า นั้น ไม่ใชเรื่องแปลก เพราะเขาตั้งใจจะให้เป็นแม่แบบเหมือนกันหมดทั่วโลก อะไรที่ขัดกับกฎหมายของไทย มันก็ไม่ได้หมายความว่า ฟีฟ่า มีความป่าเถื่อน เผด็จการ แต่อาจแสดงว่ากฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ของเราอาจล้าสมัยไปแล้ว อันนี้เราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับระบบของโลกเขาด้วย
อย่างไรก็ตาม หลายสิ่งหลายอย่างที่มีผู้กล่าวอ้างขึ้นมาลอยๆ ก็คงต้องมีการนำหลักฐานมายืนยันให้เห็นกันชัดๆไปเลยว่า มันจะต้องมีการปฏิรูปกันในเรื่องใดบ้าง รายละเอียดเป็นอย่างไร และที่สำคัญ การปรับเปลี่ยนนี้แต่ละชาติสมาชิกมีกำหนดระยะเวลาต้องดำเนินการอย่างช้าไม่เกินเมื่อใด
สิ่งที่มันเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ก็คือ การเลือกตั้งสมาคมฟุตบอลของไทยที่มันจะไม่เป็นไปตามกำหนด เพราะมีคนต้องการนำเรื่องการปฏิรูปธรรมนูญของสมาคมฯ เข้ามาผูกโยงอย่างมั่วนิ่ม อ้างเหตุให้ถือโอกาสปรับเปลี่ยนเป็นระบบใหม่เสียเลย ซึ่งจะทำให้องค์ประกอบของมวลสมาชิกที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งเปลี่ยนไป และเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเกินกำหนดอันเป็นความผิด อันนี้เพราะมันจะมีความได้เปรียบเสียเปรียบกันระหว่างผู้เสนอตัวลงชิงตำแหน่ง นายกสมาคมฯ นั่นเอง
แม้ว่าจะมีการนำฝรั่งมาชี้แจง ผมก็ยังยืนยันว่า ไม่ว่าจะใช้ธรรมนูญเก่าหรือใหม่ การเลือกตั้งต้องเป็นไปตามกำหนดเสียก่อน แล้วค่อยให้นายกสมาคมฯ คนใหม่ เข้ามาปรับเปลี่ยนสรรพสิ่งให้สอดคล้องกับธรรมนูญของ ฟีฟ่า ในวันรุ่งขึ้น มันไม่ได้สูญเสียงบประมาณมากมายเหมือนกับการเลือกตั้ง สส. สักหน่อย และมันก็ไม่ได้สายไปหรอกครับ
เรื่องใหญ่ในวงการฟุตบอลตอนนี้คงเป็นเรื่องการเลือกตั้ง นายกสมาคมฯ ที่กำลังจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ และจะต้องมีการเลือกตั้งเพื่อหาผู้นำคนใหม่ภายในเวลาไม่เกิน 30 วัน นอกจากนั้น การปฏิรูป ธรรมนูญของสมาคมฯ ซึ่งต้องให้การดำเนินการต่างๆนั้นสอดคล้องกับ ธรรมนูญของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า องค์กรสูงสุดของวงการฟุตบอลในโลกของเรา แล้วก็มีความพยายามทำให้การเลือกตั้ง นายกสมาคมฯ เลื่อนออกไป
ผมลองไปค้นดู ธรรมนูญมาตรฐาน ( Standard Statutes ) ที่ ฟีฟ่า นำของปี 2001 มาปัดฝุ่นแล้วทำออกมาเป็นธรรมนูญต้นแบบให้สมาคมสมาชิกนำไปเขียนธรรมนูญของสมาคมฟุตบอลของชาติตน อันนี้ โชเซ็ฟ บลัทเท่อร์ ประธาน ฟีฟ่า ลงนามตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2005 โน่นแน่ะครับ
ผู้นำสูงสุดของโลกในวงการฟุตบอลเน้นว่า แต่ละชาติต้องดูให้ดีว่า ธรรมนูญของตนสอดคล้องกับของ ฟีฟ่า ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ธรรมนูญของแต่ละชาติทันยุคทันสมัย เป็นการพัฒนาฟุตบอลในแต่ละชาติสมาชิกเองด้วย
ผมอ่านดูมาตราต่างๆที่กล่าวไว้ก็เป็นการระบุรายละเอียดคร่าวๆซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรน่าแปลกใจหรือผิดจากแนวทางที่ควรจะเป็นเลย อย่างเช่น เรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีที่แตกต่างจากกฎหมายไทยที่ให้เพียง 2 ปีเท่านั้น ดังนั้น ธรรมนูญของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่จะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับ ธรรมนูญขององค์กรสูงสุด คือ ฟีฟ่า นั้น ไม่ใชเรื่องแปลก เพราะเขาตั้งใจจะให้เป็นแม่แบบเหมือนกันหมดทั่วโลก อะไรที่ขัดกับกฎหมายของไทย มันก็ไม่ได้หมายความว่า ฟีฟ่า มีความป่าเถื่อน เผด็จการ แต่อาจแสดงว่ากฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ของเราอาจล้าสมัยไปแล้ว อันนี้เราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับระบบของโลกเขาด้วย
อย่างไรก็ตาม หลายสิ่งหลายอย่างที่มีผู้กล่าวอ้างขึ้นมาลอยๆ ก็คงต้องมีการนำหลักฐานมายืนยันให้เห็นกันชัดๆไปเลยว่า มันจะต้องมีการปฏิรูปกันในเรื่องใดบ้าง รายละเอียดเป็นอย่างไร และที่สำคัญ การปรับเปลี่ยนนี้แต่ละชาติสมาชิกมีกำหนดระยะเวลาต้องดำเนินการอย่างช้าไม่เกินเมื่อใด
สิ่งที่มันเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ก็คือ การเลือกตั้งสมาคมฟุตบอลของไทยที่มันจะไม่เป็นไปตามกำหนด เพราะมีคนต้องการนำเรื่องการปฏิรูปธรรมนูญของสมาคมฯ เข้ามาผูกโยงอย่างมั่วนิ่ม อ้างเหตุให้ถือโอกาสปรับเปลี่ยนเป็นระบบใหม่เสียเลย ซึ่งจะทำให้องค์ประกอบของมวลสมาชิกที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งเปลี่ยนไป และเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเกินกำหนดอันเป็นความผิด อันนี้เพราะมันจะมีความได้เปรียบเสียเปรียบกันระหว่างผู้เสนอตัวลงชิงตำแหน่ง นายกสมาคมฯ นั่นเอง
แม้ว่าจะมีการนำฝรั่งมาชี้แจง ผมก็ยังยืนยันว่า ไม่ว่าจะใช้ธรรมนูญเก่าหรือใหม่ การเลือกตั้งต้องเป็นไปตามกำหนดเสียก่อน แล้วค่อยให้นายกสมาคมฯ คนใหม่ เข้ามาปรับเปลี่ยนสรรพสิ่งให้สอดคล้องกับธรรมนูญของ ฟีฟ่า ในวันรุ่งขึ้น มันไม่ได้สูญเสียงบประมาณมากมายเหมือนกับการเลือกตั้ง สส. สักหน่อย และมันก็ไม่ได้สายไปหรอกครับ