คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
ขณะที่ ไมอามี ฮีต เพิ่งลงสนามเกมแรกกับ อินเดียนา เพเซอร์ส ในซีรีส์ชิงแชมป์สายตะวันออก เช้าวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค.56 ซึ่งต้นฉบับตีพิมพ์พอดี ทว่าทางฝั่งตะวันตก ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส หนีทาง เมมฟิส กริซลีย์ส เป็น 2-0 เกม ดูเหมือน “พญาหมี” อยากได้ “ตัวช่วย” เสียแล้ว ไม่ใช่เพียง “กริซซ์” ทั้ง ฮีต, เพเซอร์ส หรือว่า สเปอร์ส ก็ต้องการปัจจัยเสริม เพื่อโอกาสก้าวไปเป็นแชมป์ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2012/13
โดยเกมระหว่าง สเปอร์ส กับ กริซซ์ หัวหน้าโค้ชระดับ เกร็ก โพโพวิช ฤาจะไม่ศึกษาเกมการเล่นคู่แข่งอย่างทะลุปรุโปร่ง ในเมื่อ มาร์ค กาซอล กับ แซ็ค แรนดอล์ฟ เก่งนักในซีรีส์กระซวกโอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ งานนี้เจอลูกบี้ของ ติอาโก สปลิตเตอร์ เข้าไป เซ็นเตอร์ทีมชาติสเปนผลงานดร็อปลงเยอะ ขณะที่ “ซี-โบ” โดนลูกเก๋า ทิม ดันแคน เล่นเอาไปไม่เป็น ถ้า ลิโอเนล โฮลลินส์ ไม่ปรับหมากเกมรุก มีหวังทีมได้กลายเป็นหมีเชื่องๆ ให้สเปอร์ส ลูบคางเล่นง่ายๆ เป็นแน่
สำหรับ สเปอร์ส ให้ สปลิตเตอร์ เล่นเกมรับใส่ กาซอลผู้น้อง อย่างเดียว ขณะที่ ดันแคน เปอร์เซ็นต์การชู้ตลดลงไป เจอความแกร่งของ “ซี-โบ” ย่อมไม่ง่าย แต่ในทางกลับกัน แรนดอล์ฟ มีปัญหาเรื่องฟิลด์โกลอย่างชัดเจน งานนี้ กริซลีย์ส ต้องมีไม้เด็ดจากวงนอก ในเมื่อตอนนี้ “ฟรอนท์คอร์ต” เป็นรองชัด โดยเฉพาะตำแหน่ง สมอลฟอร์เวิร์ด เทรชอน ปรินซ์ น่าเห็นใจยิ่ง ซีรีส์ก่อนเอา เควิน ดูแรนท์ ไม่อยู่จนต้องสลับใช้ โทนี อัลเลน มาคอยดูแลซูเปอร์สตาร์ “โอเคซี” คราวนี้มาเจอ คาไว เลียวนาร์ด ซึ่งมือกำลังฮอต จะขยับ อัลเลน มาช่วยก็ลำบาก เพราะแค่ผนึกกำลัง ไมค์ คอนลีย์ รับมือการ์ดตัวว่องอย่าง แดนนี กรีน กับ โทนี พาร์เกอร์ ก็เวียนหัวแย่อยู่แล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ โฮลลินส์ ต้องปล่อย ควินซีย์ พอนเด็คเตอร์ สมอลฟอร์เวิร์ดที่สดกว่า ปรินซ์ ไปช่วยไล่ เลียวนาร์ด ซึ่งหนุ่มวัยเบญจเพสคนนี้ อาจเป็น “ตัวช่วย” พลิกฟื้นสถานการณ์ของกริซซ์ เพราะฟิลด์โกลเกือบๆ 50 เปอร์เซ็นต์ แถมสามแต้มยังแม่นระดับ 45 เปอร์เซ็นต์ งานนี้ กริซลีย์ส ต้องปรับมาส่องไกลมากขึ้น ก็เหมือนกับ "ซอคเกอร์" หากเจอโซนรับแน่นๆ ในกรอบโทษ ก็ต้องลองยิงไกลกันบ้าง ซึ่ง คอนลีย์ ใช่ว่าขี้เหร่ ถ้าไม่ปล่อยของบ้าง เกรงว่ากระสุนจะด้านเสียเปล่าๆ ในส่วนสเปอร์ส มานู จิโนบิลี มักปล่อยทีเด็ดได้เสมอในโพสต์ซีซัน ขณะที่ แกรี นีล เก็บเล็กผสมน้อยได้ตลอดในแต่ละค่ำคืน ด้าน แมตต์ บอนเนอร์ กับ บอริส เดียว พร้อมสลับลงมาอัดกับ แรนดอล์ฟ ยามให้ ดันแคน ออกมาพัก เห็นทรงเกมที่ผ่านมาแล้วเหนื่อยใจแทนสาวก “พญาหมี” จริงๆ
ส่วนทางฝั่งตะวันออก เพเซอร์ส ไม่ใช่ขนมกรุ๊บให้ “แชมป์เก่า” ฮีต เคี้ยวคล่องคอเหมือนตอนอัด มิลวอล์คกี บัคส์ กับ ชิคาโก บูลส์ เข้ามาแน่ ในเมื่อ 5 ผู้เล่นตัวจริงสามารถทำสกอร์สองหลักในแต่ละเกม พอล จอร์จ เล่นสมราคา "ผู้เล่นพัฒนาฝีมือแห่งปี" เข้าคู่ เดวิด เวสต์ เล่นงานจน คาร์เมโล แอนโธนีย์ ฟอร์เวิร์ด นิวยอร์ก นิกส์ หมดแรงข้าวต้มมาแล้ว งานนี้ เลอบรอน เจมส์ จะได้พิสูจน์ความยอดเยี่ยมอีกครั้ง ส่วนที่น่ากังวลของไมอามี เห็นทีเป็นเรื่องวงใน คริส บอช จะบี้กับ รอย ฮิบเบิร์ต เซ็นเตอร์ยักษ์ปักหลั่นร่าง 7 ฟุต 2 นิ้ว ได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ ในเมื่อเตี้ยกว่าถึง 3 นิ้ว งานนี้อย่าแปลกใจหาก “อวตาร” แต้มต่ำ ต้องพะวงกับเกมป้องกัน แถมจะบุกยังชนตอจอมบล็อกเข้าให้อีก เอริค สโปเอลสตรา เฮดโค้ชต้องเรียกใช้บริการ “เบิร์ดแมน” คริส แอนเดอร์เซน มาช่วยสลับด้วย
ขณะที่อีกจุดหนึ่งที่น่าจับตามองคือ ดีเวย์น เหว็ด ในสภาพที่เจ็บเข่ามาเรื้อรัง จะทันความไวของ จอร์จ ฮิลล์ หรือไม่ เห็นที มาริโอ ชาลเมอร์ส ที่เด่นเรื่องเกมรับต้องมาคอยชะลอ อีกทั้งเราคงได้เห็น นอร์ริส โคล ลงมาถี่หน่อย เพื่อรับมือ แลนซ์ สตีเฟนสัน การ์ดที่กำลังห้าวเป้ง เล่นเอา เจ.อาร์.สมิธ เสียเหลี่ยมมาแล้วในซีรีส์ก่อน เพราะหนุ่มวัย 22 ปี มีทั้งความไวและแข็งแกร่ง นี่มองดูแล้วขุมกำลัง เพเซอร์ส มิได้เป็นรองเลย งานนี้เห็นทีไม่ง่ายสำหรับ ฮีต อย่างไรก็ดี ในเกมที่สูสีเช่นนี้ เรย์ อัลเลน มีสิทธิ์กลายเป็นปัจจัยเสริมที่ปลุกชีวิตแชมป์เก่าในยามฉุกเฉิน ด้วยประสบการณ์ที่เหลือเฟือ ทีมป้องกันสามแต้มดีสุดของลีกอย่างอินดี้ อาจเอามือปืนวัย 37 ปี ไม่อยู่ก็เป็นได้ ซึ่งสุดท้าย “ตัวช่วย” ฝ่ายใดทำหน้าที่ได้ดีกว่า ทีมนั้นก็มีโอกาสไปถึง “แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี” ได้มากเท่านั้น
ขณะที่ ไมอามี ฮีต เพิ่งลงสนามเกมแรกกับ อินเดียนา เพเซอร์ส ในซีรีส์ชิงแชมป์สายตะวันออก เช้าวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค.56 ซึ่งต้นฉบับตีพิมพ์พอดี ทว่าทางฝั่งตะวันตก ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส หนีทาง เมมฟิส กริซลีย์ส เป็น 2-0 เกม ดูเหมือน “พญาหมี” อยากได้ “ตัวช่วย” เสียแล้ว ไม่ใช่เพียง “กริซซ์” ทั้ง ฮีต, เพเซอร์ส หรือว่า สเปอร์ส ก็ต้องการปัจจัยเสริม เพื่อโอกาสก้าวไปเป็นแชมป์ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2012/13
โดยเกมระหว่าง สเปอร์ส กับ กริซซ์ หัวหน้าโค้ชระดับ เกร็ก โพโพวิช ฤาจะไม่ศึกษาเกมการเล่นคู่แข่งอย่างทะลุปรุโปร่ง ในเมื่อ มาร์ค กาซอล กับ แซ็ค แรนดอล์ฟ เก่งนักในซีรีส์กระซวกโอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ งานนี้เจอลูกบี้ของ ติอาโก สปลิตเตอร์ เข้าไป เซ็นเตอร์ทีมชาติสเปนผลงานดร็อปลงเยอะ ขณะที่ “ซี-โบ” โดนลูกเก๋า ทิม ดันแคน เล่นเอาไปไม่เป็น ถ้า ลิโอเนล โฮลลินส์ ไม่ปรับหมากเกมรุก มีหวังทีมได้กลายเป็นหมีเชื่องๆ ให้สเปอร์ส ลูบคางเล่นง่ายๆ เป็นแน่
สำหรับ สเปอร์ส ให้ สปลิตเตอร์ เล่นเกมรับใส่ กาซอลผู้น้อง อย่างเดียว ขณะที่ ดันแคน เปอร์เซ็นต์การชู้ตลดลงไป เจอความแกร่งของ “ซี-โบ” ย่อมไม่ง่าย แต่ในทางกลับกัน แรนดอล์ฟ มีปัญหาเรื่องฟิลด์โกลอย่างชัดเจน งานนี้ กริซลีย์ส ต้องมีไม้เด็ดจากวงนอก ในเมื่อตอนนี้ “ฟรอนท์คอร์ต” เป็นรองชัด โดยเฉพาะตำแหน่ง สมอลฟอร์เวิร์ด เทรชอน ปรินซ์ น่าเห็นใจยิ่ง ซีรีส์ก่อนเอา เควิน ดูแรนท์ ไม่อยู่จนต้องสลับใช้ โทนี อัลเลน มาคอยดูแลซูเปอร์สตาร์ “โอเคซี” คราวนี้มาเจอ คาไว เลียวนาร์ด ซึ่งมือกำลังฮอต จะขยับ อัลเลน มาช่วยก็ลำบาก เพราะแค่ผนึกกำลัง ไมค์ คอนลีย์ รับมือการ์ดตัวว่องอย่าง แดนนี กรีน กับ โทนี พาร์เกอร์ ก็เวียนหัวแย่อยู่แล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ โฮลลินส์ ต้องปล่อย ควินซีย์ พอนเด็คเตอร์ สมอลฟอร์เวิร์ดที่สดกว่า ปรินซ์ ไปช่วยไล่ เลียวนาร์ด ซึ่งหนุ่มวัยเบญจเพสคนนี้ อาจเป็น “ตัวช่วย” พลิกฟื้นสถานการณ์ของกริซซ์ เพราะฟิลด์โกลเกือบๆ 50 เปอร์เซ็นต์ แถมสามแต้มยังแม่นระดับ 45 เปอร์เซ็นต์ งานนี้ กริซลีย์ส ต้องปรับมาส่องไกลมากขึ้น ก็เหมือนกับ "ซอคเกอร์" หากเจอโซนรับแน่นๆ ในกรอบโทษ ก็ต้องลองยิงไกลกันบ้าง ซึ่ง คอนลีย์ ใช่ว่าขี้เหร่ ถ้าไม่ปล่อยของบ้าง เกรงว่ากระสุนจะด้านเสียเปล่าๆ ในส่วนสเปอร์ส มานู จิโนบิลี มักปล่อยทีเด็ดได้เสมอในโพสต์ซีซัน ขณะที่ แกรี นีล เก็บเล็กผสมน้อยได้ตลอดในแต่ละค่ำคืน ด้าน แมตต์ บอนเนอร์ กับ บอริส เดียว พร้อมสลับลงมาอัดกับ แรนดอล์ฟ ยามให้ ดันแคน ออกมาพัก เห็นทรงเกมที่ผ่านมาแล้วเหนื่อยใจแทนสาวก “พญาหมี” จริงๆ
ส่วนทางฝั่งตะวันออก เพเซอร์ส ไม่ใช่ขนมกรุ๊บให้ “แชมป์เก่า” ฮีต เคี้ยวคล่องคอเหมือนตอนอัด มิลวอล์คกี บัคส์ กับ ชิคาโก บูลส์ เข้ามาแน่ ในเมื่อ 5 ผู้เล่นตัวจริงสามารถทำสกอร์สองหลักในแต่ละเกม พอล จอร์จ เล่นสมราคา "ผู้เล่นพัฒนาฝีมือแห่งปี" เข้าคู่ เดวิด เวสต์ เล่นงานจน คาร์เมโล แอนโธนีย์ ฟอร์เวิร์ด นิวยอร์ก นิกส์ หมดแรงข้าวต้มมาแล้ว งานนี้ เลอบรอน เจมส์ จะได้พิสูจน์ความยอดเยี่ยมอีกครั้ง ส่วนที่น่ากังวลของไมอามี เห็นทีเป็นเรื่องวงใน คริส บอช จะบี้กับ รอย ฮิบเบิร์ต เซ็นเตอร์ยักษ์ปักหลั่นร่าง 7 ฟุต 2 นิ้ว ได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ ในเมื่อเตี้ยกว่าถึง 3 นิ้ว งานนี้อย่าแปลกใจหาก “อวตาร” แต้มต่ำ ต้องพะวงกับเกมป้องกัน แถมจะบุกยังชนตอจอมบล็อกเข้าให้อีก เอริค สโปเอลสตรา เฮดโค้ชต้องเรียกใช้บริการ “เบิร์ดแมน” คริส แอนเดอร์เซน มาช่วยสลับด้วย
ขณะที่อีกจุดหนึ่งที่น่าจับตามองคือ ดีเวย์น เหว็ด ในสภาพที่เจ็บเข่ามาเรื้อรัง จะทันความไวของ จอร์จ ฮิลล์ หรือไม่ เห็นที มาริโอ ชาลเมอร์ส ที่เด่นเรื่องเกมรับต้องมาคอยชะลอ อีกทั้งเราคงได้เห็น นอร์ริส โคล ลงมาถี่หน่อย เพื่อรับมือ แลนซ์ สตีเฟนสัน การ์ดที่กำลังห้าวเป้ง เล่นเอา เจ.อาร์.สมิธ เสียเหลี่ยมมาแล้วในซีรีส์ก่อน เพราะหนุ่มวัย 22 ปี มีทั้งความไวและแข็งแกร่ง นี่มองดูแล้วขุมกำลัง เพเซอร์ส มิได้เป็นรองเลย งานนี้เห็นทีไม่ง่ายสำหรับ ฮีต อย่างไรก็ดี ในเกมที่สูสีเช่นนี้ เรย์ อัลเลน มีสิทธิ์กลายเป็นปัจจัยเสริมที่ปลุกชีวิตแชมป์เก่าในยามฉุกเฉิน ด้วยประสบการณ์ที่เหลือเฟือ ทีมป้องกันสามแต้มดีสุดของลีกอย่างอินดี้ อาจเอามือปืนวัย 37 ปี ไม่อยู่ก็เป็นได้ ซึ่งสุดท้าย “ตัวช่วย” ฝ่ายใดทำหน้าที่ได้ดีกว่า ทีมนั้นก็มีโอกาสไปถึง “แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี” ได้มากเท่านั้น
