เอเยนซี - สื่อทุกสำนักของอังกฤษตีข่าวตรงกัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ พรีเมียร์ ลีก ปีนี้ เตรียมประกาศเลือก เดวิด มอยส์ นั่งตำแหน่งกุนซือถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อย่างเร็วที่สุดวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคมนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หลัง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือทันทีที่ฤดูกาลนี้รูดม่านปิดฉาก เพียงแค่วันเดียว
รายงานระบุ มอยส์ พบกับ บิลล์ เคนไรท์ ประธานสโมสร เอฟเวอร์ตัน ในกรุงลอนดอน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลัง เซอร์ อเล็กซ์ ประกาศสละบัลลังก์กุนซือที่พา แมนฯยูไนเต็ด คว้า 38 แชมป์ ตลอดระยะเวลา 26 ปีที่ผ่านมา โดยจะคุมทีมอีกแค่ 2 นัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้ คือรับแชมป์ที่บ้านเกมพบ สวอนซี ซิตี วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคมนี้ และไปเยือน เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน วันที่ 19 พ.ค.ปิดฉากหลังคุมทีมมาตั้งแต่ปี 1986 รวม 1,500 นัดพอดี
ประจวบเหมาะสัญญาของ มอยส์ กับ เอฟเวอร์ตัน กำลังจะสิ้นสุดลง หลังคุมถิ่น กูดิสัน ปาร์ค ตั้งแต่เมื่อปี 2002 ซึ่ง เคนไรท์ ได้ส่งสัญญาณเรื่องนี้ผ่านทางสำนักข่าว “สกาย สปอร์ตส์” ว่า “สัญญาของ เดวิด จะสิ้นสุดลงในอีก 6 สัปดาห์ข้างหน้า และเขาก็เลือกตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ถือว่ารับใช้ เอฟเวอร์ตัน อย่างเต็มศักยภาพเสมอมา”
งานนี้เหมือนว่านักข่าวจะได้กลิ่นและไปดักรอ มอยส์ ก่อนที่จะพบกุนซือวัย 50 ปี ที่วิ่งหนีขึ้นรถไปโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งถ้ายังจำกันได้ตอนคุม เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ก็เคยบอกปัดคำเชิญของ เซอร์ อเล็กซ์ ที่อยากได้มาเป็นมือขวาเมื่อปี 2000 จากนั้นฤดูกาล 2004-05 ก็พา เอฟเวอร์ตัน คว้าอันดับ 4 ไปคัด ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 3 ก่อนที่จะอกหัก
แม้จะมีรายชื่ออื่นอย่าง โชเซ มูรินโญ (รีล มาดริด) และ เจอร์เกน คล็อปป์ (โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์) ที่ดูเหนือกว่า มอยส์ และผ่านประสบการณ์แชมป์มาแล้ว แต่ สตีฟ แม็คคลาเรน อดีตนายใหญ่ทีมชาติอังกฤษ และเคยเป็นมือขวา เซอร์ อเล็กซ์ ในทีม แมนฯยู เผยกับสำนักข่าว “บีบีซี” ว่า “เดวิด มีความเป็นผู้ชนะในตัว และมีหลักการทำงานคล้าย เฟอร์กี สร้างยุคใหม่ที่ เอฟเวอร์ตัน และทิ้งมรดกตกทอดเอาไว้ ซึ่งก็รอโอกาสแบบนี้มาหลายปีแล้ว โดยผมหวังว่าเขาจะได้รับงานนี้”
หากไม่มีพลิกโผ มอยส์ ได้คุมทัพ แมนฯยู จะถือเป็นกุนซือชาวสกอตคนที่ 8 ในประวัติศาสตร์ ซึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ ค่อนข้างจะสนับสนุนนายใหญ่รายนี้พอสมควร เนื่องจากเป็นคนบ้านเดียวกัน แถมมีความสนิทชิดเชื้อ อย่างไรก็ตามช่วงแรกอาจจะต้องเหนื่อยเป็นที่ปรึกษาไปก่อน เพราะประสบการณ์ระดับถ้วยยุโรปกระดูกยังไม่แข็งพอ ซึ่งก็ช่วยในการเลือกซื้อนักเตะใหม่ที่อาจจะมีแข้ง เอฟเวอร์ตัน ตามมาด้วยอย่าง เลย์ตัน เบนส์ แบ็กซ้าย ที่ เฟอร์กี อยากได้ตัวมานาน รวมถึง มารูยาน เฟลไลนี กองกลางทีมชาติเบลเยียม ที่เปรยเรื่องย้ายทีมตั้งแต่ต้นฤดูกาลถ้าวืดตั๋ว แชมเปียนส์ ลีก
นอกจากนี้การมาของ มอยส์ อาจจะส่งผลถึงอนาคตของ เวย์น รูนีย์ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ กับ แมนฯยู เนื่องจากทั้งคู่เคยมีปัญหาระหองระแหงกันก่อนหน้านี้ หลังเป็นคนให้โอกาสขึ้นชุดใหญ่ เอฟเวอร์ตัน ก่อนขายให้กับ “ผีแดง” เมื่อปี 2004 จากนั้นทั้งคู่มีปัญหาขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะว่ากุนซือชาวสกอตไม่พอใจที่ถูกแฉผ่านหนังสืออัตชีวประวัติ ดังนั้นถ้าเจอกันอีกครั้งที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คาดว่าหอกวัย 27 ปี น่าจะถูกตะเพิดพ้นถิ่น
แหล่งข่าวระดับสูงประจำถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เผยว่า “แม้จะบอกว่านักเตะไม่ได้มีไว้เพื่อขาย แต่ช่วงเวลาแบบนี้ถือว่าโชคร้ายมาก เพราะว่าเราตั้งใจจะแต่งตั้งกุนซือใหม่ภายใน 36 ชั่วโมงข้างหน้า และชายคนนั้นก็เคยจัดการกับ รูนีย์ มาแล้วเมื่อช่วงที่ผ่านมา”
รูนีย์ ที่จะมีค่าตัว 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,380 ล้านบาท) ยังไม่ได้ออกมาขอขึ้นบัญชีขาย แต่ก็มีข่าวว่าต้องการย้ายทีมเมื่อช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอาจจะไปเล่นกับ เชลซี บาเยิร์น มิวนิก หรือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งทุกฝ่ายเชื่อว่าตอนนี้คือช่วงเวลาที่ถูกต้องหากจะเปลี่ยนสังกัด