ฝากความหวัง “โด้” ชุดขาวลุ้นโกงตาย

เอเยนซี - เกจิทุกสำนักฟันธงไปแล้วว่านัดชิง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลนี้จะเป็นศึกสายเลือดของสโมสรจากเยอรมนี หลังรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ต่างกำชัยเหนือคู่ต่อสู้จากสเปนมาแบบท่วมท้น ทว่ายังเหลือเวลาอีก 90 นาที ในนัดสองดังนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด ที่จะต้องเปิด ซานติอาโก เบร์นาบิว รับมือ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ภายใต้เงื่อนไขต้องชนะ 3-0 เป็นอย่างน้อยเพื่อสู่ด่านสุดท้ายด้วยกฎอะเวย์โกล

บาร์เซโลนา จะเตะวันพุธที่ 1 พฤษภาคมนี้เปิด คัมป์ นู ต้อนรับ บาเยิร์น มิวนิก ถือว่าปาฏิหาริย์น่าจะไม่มีจริง แม้ว่าจะเป็น บาร์ซา แถมได้เล่นในบ้านก็เถอะ เนื่องจากสกอร์นัดแรกตกเป็นรอง 0-4 แถมปีนี้ “เสือใต้” แกร่งทั่วแผ่นจริงๆ จนกระทั่งมีลุ้นทริปเปิลแชมป์อยู่ในขณะนี้

ดังนั้นคู่ของ รีล มาดริด จึงคุ้มค่าแก่การถ่างตาดูมากที่สุด เพราะหากอยากผ่านเข้าไปเพิ่มไมล์แชมป์ยุโรปสูงสุดเป็นสมัยที่ 10 จะต้องฮึดและนำแรงบันดาลใจจากฤดูกาล 1975-76 หรือ 4 ทศวรรษก่อนมาใช้ โดยครั้งนั้นเป็นรอบ 2 บุกไปพ่าย ดาร์บี เคาน์ตี 1-4 ก่อนจะกลับมาเปิดบ้านกระซวก 5-1

สำหรับ รีล มาดริด เพิ่งส่งแข้งสำรองยกกะบิ แต่ยังบุกไปชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-1 ศึก ดาร์บี แมตช์ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากใน ลา ลีกา สเปน ถอดใจเพราะหมดลุ้นป้องกันแชมป์แล้วเหลือแค่นับถอยหลังส่งแชมป์คืนให้ บาร์เซโลนา เพราะตามหลัง 11 แต้มขณะที่เหลืออีก 5 นัดเท่านั้น

เกมนี้ โชเซ มูรินโญ กุนซือ รีล มาดริด คงจะใช้ผู้เล่นเช่นเดียวกับนัดแรกที่ถูก ดอร์ทมุนด์ ยำใหญ่ แต่คงเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวคือ อังเคล ดิ มาเรีย ปีกตัวทีมชาติอาร์เจนตินา จะลงมาแทน ลูกา โมดริช คนเดียวที่น่าเป็นห่วงคือ คริสเตียโน โรนัลโด แนวรุกความหวังถล่มประตูของ “ราชันชุดชาว” ที่ถลุงไปแล้วรวมทุกรายการ 51 ประตูจาก 50 นัด เนื่องจากว่ามีปัญหาอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายนยังคงต้องแยกซ้อมกับแข้งชุดใหญ่

อย่างไรก็ตาม มูรินโญ ไม่มีทางเลือกต้องเข็น โรนัลโด ที่นำดาวซัลโว แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ที่ 12 ประตูลงสนาม เพราะปีนี้ รีล มาดริด มีปัญหาเรื่องการจบสกอร์ทั้ง กอนซาโล ฮิกัวอิน หรือ คาริม เบนเซมา 2 กองหน้าฟอร์มดำดิ่งเหลือเกิน

ฟาก ดอร์ตมุนด์ ที่ฤดูกาลก่อนตกรอบแรก แต่ปีนี้มาดีเกินคาดเหลืออีกก้าวเดียวจะไปสู่สนาม เวมบลีย์ สังเวียนนัดชิงวันที่ 25 พฤษภาคมนี้แล้ว โดย “เสือเหลือง” ยังไม่ปราชัยให้กับใครเลย แถมเจอกับ รีล มาดริด ในรอบแบ่งกลุ่มสามารถยันเสมอมาแล้วที่ ซานติอาโก เบร์นาบิว 2-2 โดยนัดแรกของรอบตัดเชือกคงจะไม่มีใครโดดเด่นกว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี กองหน้าทีมชาติโปแลนด์ที่เหมาซัดคนเดียว 4 ประตู ดังนั้นเกมนี้กองหลัง “ชุดขาว” คงต้องประกบให้ดี

ดอร์ตมุนด์ ต้องชื่นชมผลงานคุมทัพของ เจอร์เกน คล็อปป์ แม้ว่าจะป้องกันถาดแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมนี 2 ปีซ้อนไม่สำเร็จ โดยเสียคืนไปให้กับ บาเยิร์น มิวนิก แต่อันดับ 2 ก็การันตีกลับมาเล่นถ้วยยุโรปอีกครั้งในปีหน้าอย่างแน่นอนสำหรับแชมป์เมื่อปี 1997 โดยจะต้องเช็กความฟิตของ ลูคัสซ์ ปิสซ์เซค แบ็กทีมชาติโปแลนด์, อิลคาย กุนโดกัน กองกลางที่เจ็บบริเวณคอ และ มาริโอ เกิทเซ ตัวปั้นเกมจอมทัพพที่เจ็บสะโพก

อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ อาจเปลี่ยนทีมจากนัดแรก เนื่องจาก นูริ ซาฮิน กองกลางทีมชาติตุรกี เล่นได้เด่นในเกมลีกที่ส่งตัวสำรองแต่ยังบุกชนะ ดุสเซลดอร์ฟ 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเด็กเก่าของ รีล มาดริด อีกด้วย ส่วนขุมกำลังที่เหลือก็เป็น มาร์โก รอยส์ และ ยาคุบ บลาซีคอฟสกี 2 ตัวสนับสนุนแนวรุกและ มัตส์ ฮุมเมลส์ คุมแนวหลังกับ เนเวน ซูโบติช