คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
หลังจากเมืองไทยเข้าสู่สภาวะสุญญากาศไม่มีแชมป์โลกสถาบันหลักตัวจริงมาให้แฟนมวยได้ตามเชียร์มาพักใหญ่ แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ศรีสะเกษ ส.รุ่งวิสัย หรือ “เจ้าแหลม” ก็ทำให้ชาวไทยได้เฮดังๆ เมื่อขึ้นเวทีชั่วคราวที่ จ.ศรีสะเกษ ไล่อัด โยตะ ซาโตะ แชมป์โลกชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาป้องกันเข็มขัด ก่อนเอาชนะ ที.เค.โอ.ไปได้แบบสะใจในยกที่ 8 คว้าแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ ของสภามวยโลกมาครองได้สำเร็จ
เข็มขัดเส้นนี้เดิมก็เป็นของนักชกไทยคือ สุริยัน ส.รุ่งวิสัย แต่เจ้าตัวก็เอาไปทิ้งไว้ให้กับ ซาโตะ เมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่จะทำน้ำหนักไม่ไหวและขยับขึ้นมาชกรุ่นแบนตัมเวต ทำให้ ศรีสะเกษ ได้สิทธิ์ในการขึ้นทวงแชมป์โลกรุ่นนี้แทน และ “เจ้าแหลม” ก็ไม่ทำให้แฟนมวยและทีมผู้สร้างผิดหวัง
ไฟต์นี้ ศรีสะเกษ เสียเปรียบรูปร่างและช่วงชก แต่ปรากฏว่า “เจ้าแหลม” เดินเบียดติดจนนักชกแดนปลาดิบหนีไม่ออก ต้องหันมาดักต่อยบวกขวาหวังหยุดผู้ท้าชิงชาวไทยของเรา แต่หยุดยังไงก็ไม่อยู่ จนยก 7 ได้จังหวะอัดจนแชมป์โลกยืนเป็นเป้านิ่งให้ได้สาวหมัดใส่เน้นๆ เป็นชุดชนิดกองเชียร์เชื่อว่า ซาโตะ ไม่น่าทนอยู่ได้ แต่นักชกญี่ปุ่นก็อึดสุดๆ ยืนรับหมัดได้โดยไม่ทิ้งตัว กรรมการก็ใจแข็งให้โอกาสต่อ ยก 8 เจ้าถิ่นเลยควงกำปั้นไล่ถล่มจนคราวนี้กรรมการทนดูไม่ได้ยุติการชก ทำให้ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์โลกทันที
ถือว่า ศรีสะเกษ ต่อยได้อร่อยสุดๆ หนักๆ เน้นๆ แถมลีลาการเดินตัดเวทีก็ทำได้เนียน ทำให้อดีตแชมป์ชาวญี่ปุ่นที่ว่าเป็นนักมวยขาเร็วหนีไม่ออก โดน “เจ้าแหลม” สาดพายุกำปั้นใส่จนต้องถูกจับแพ้ไป ต่อยได้แบบนี้ก็เข้าตาแฟนมวย และมีโอกาสอย่างมากที่จะก้าวมาเป็นขวัญใจคนใหม่ของเมืองไทย คราวนี้ก็อยู่กับตัวนักมวยเองแล้ว ว่าจะตั้งอกตั้งใจหมั่นฟิตซ้อมรักษาเนื้อรักษาตัวรักษาเข็มขัดแชมป์โลกไว้ด้วยฟอร์มสวยๆ แบบนี้ได้นานแค่ไหน ฝากไปถึงทีมงานผู้สนับสนุนด้วยว่า นักมวยจะได้รับการยอมรับจากแฟนๆ ก็อยู่ที่คู่ชกด้วย ถ้าส่องกล้องเลือกแต่หมูมาให้เคี้ยว นอกจากทุกคนจะไม่ปลื้มแล้ว ยังจะเสื่อมศรัทธาไปซะเปล่าๆ เรียกว่าต้องมาพร้อมกัน นักมวยต้องฟอร์มดีต่อยดี คู่ชกก็ต้องมีชื่อชั้นหน่อย มันถึงจะสมศักดิ์ศรี และสมที่แฟนมวยจะเทใจเชียร์ให้
ย้อนกลับไปพูดถึง สุริยัน ส.รุ่งวิสัย เจ้าของเข็มขัดเส้นนี้คนเดิมหน่อยนะครับ เพราะก็ขึ้นเวทีอุ่นหมัดในรายการเดียวกันกับนักชกฟิลิปปินส์ที่มีสถิติชนะ 13 แพ้ 15 ปรากฏว่า สุริยัน เอาชนะคะแนนไปได้ ตลอดการชกเดินบดตามสไตล์ แต่โดนดักต่อยหน้าหงาย แถมมีอาการซึมให้เห็นในบางจังหวะด้วยซ้ำ แบบนี้หวาดเสียวหน่อย เพราะขนาดเจอนักมวยที่แพ้มากกว่าชนะ ยังโดนดักต่อยจนหยุดแบบนี้ ถ้าไปต่อจนเจอนักมวยมีระดับกว่านี้คงเหนื่อย ทีมงานต้องเจียระไนให้งามกว่านี้อีกเยอะกว่าจะพร้อมขึ้นลุ้นบัลลังก์โลกอีกครั้ง
ตอนนี้แฟนมวยชาวไทยก็คงพอจะยืดอกในเวทีโลกได้บ้าง เพราะพ้นสภาวะไร้แชมป์โลกแล้ว วันพุธที่ 8 พฤษภาคมนี้ ก็จะมีนักมวยไทยขึ้นสังเวียนชิงแชมป์โลกอีกคน คือ วิษณุ ก่อเกียรติยิม พบกับนักมวยชาวญี่ปุ่นเหมือนกันคือ คัตสึโตะ อิโอกะ เจ้าของฉายา “อิโอกะน้อย” แชมป์รุ่นไลต์ฟลายเวตของสมาคมมวยโลก งานนี้ วิษณุ ต้องเดินทางไปชิงถึงกรุงโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เสียดายที่ไม่มีการถ่ายทอดสดให้แฟนมวยได้เชียร์กัน ก็คงเพราะทีมงานและสปอนเซอร์เห็นว่าหวังได้น้อย แต่ถ้าเกิดพลิกโผขึ้นมาแฟนมวยไทยคงได้เฮกันยาวๆ
หลังจากเมืองไทยเข้าสู่สภาวะสุญญากาศไม่มีแชมป์โลกสถาบันหลักตัวจริงมาให้แฟนมวยได้ตามเชียร์มาพักใหญ่ แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ศรีสะเกษ ส.รุ่งวิสัย หรือ “เจ้าแหลม” ก็ทำให้ชาวไทยได้เฮดังๆ เมื่อขึ้นเวทีชั่วคราวที่ จ.ศรีสะเกษ ไล่อัด โยตะ ซาโตะ แชมป์โลกชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาป้องกันเข็มขัด ก่อนเอาชนะ ที.เค.โอ.ไปได้แบบสะใจในยกที่ 8 คว้าแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ ของสภามวยโลกมาครองได้สำเร็จ
เข็มขัดเส้นนี้เดิมก็เป็นของนักชกไทยคือ สุริยัน ส.รุ่งวิสัย แต่เจ้าตัวก็เอาไปทิ้งไว้ให้กับ ซาโตะ เมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่จะทำน้ำหนักไม่ไหวและขยับขึ้นมาชกรุ่นแบนตัมเวต ทำให้ ศรีสะเกษ ได้สิทธิ์ในการขึ้นทวงแชมป์โลกรุ่นนี้แทน และ “เจ้าแหลม” ก็ไม่ทำให้แฟนมวยและทีมผู้สร้างผิดหวัง
ไฟต์นี้ ศรีสะเกษ เสียเปรียบรูปร่างและช่วงชก แต่ปรากฏว่า “เจ้าแหลม” เดินเบียดติดจนนักชกแดนปลาดิบหนีไม่ออก ต้องหันมาดักต่อยบวกขวาหวังหยุดผู้ท้าชิงชาวไทยของเรา แต่หยุดยังไงก็ไม่อยู่ จนยก 7 ได้จังหวะอัดจนแชมป์โลกยืนเป็นเป้านิ่งให้ได้สาวหมัดใส่เน้นๆ เป็นชุดชนิดกองเชียร์เชื่อว่า ซาโตะ ไม่น่าทนอยู่ได้ แต่นักชกญี่ปุ่นก็อึดสุดๆ ยืนรับหมัดได้โดยไม่ทิ้งตัว กรรมการก็ใจแข็งให้โอกาสต่อ ยก 8 เจ้าถิ่นเลยควงกำปั้นไล่ถล่มจนคราวนี้กรรมการทนดูไม่ได้ยุติการชก ทำให้ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์โลกทันที
ถือว่า ศรีสะเกษ ต่อยได้อร่อยสุดๆ หนักๆ เน้นๆ แถมลีลาการเดินตัดเวทีก็ทำได้เนียน ทำให้อดีตแชมป์ชาวญี่ปุ่นที่ว่าเป็นนักมวยขาเร็วหนีไม่ออก โดน “เจ้าแหลม” สาดพายุกำปั้นใส่จนต้องถูกจับแพ้ไป ต่อยได้แบบนี้ก็เข้าตาแฟนมวย และมีโอกาสอย่างมากที่จะก้าวมาเป็นขวัญใจคนใหม่ของเมืองไทย คราวนี้ก็อยู่กับตัวนักมวยเองแล้ว ว่าจะตั้งอกตั้งใจหมั่นฟิตซ้อมรักษาเนื้อรักษาตัวรักษาเข็มขัดแชมป์โลกไว้ด้วยฟอร์มสวยๆ แบบนี้ได้นานแค่ไหน ฝากไปถึงทีมงานผู้สนับสนุนด้วยว่า นักมวยจะได้รับการยอมรับจากแฟนๆ ก็อยู่ที่คู่ชกด้วย ถ้าส่องกล้องเลือกแต่หมูมาให้เคี้ยว นอกจากทุกคนจะไม่ปลื้มแล้ว ยังจะเสื่อมศรัทธาไปซะเปล่าๆ เรียกว่าต้องมาพร้อมกัน นักมวยต้องฟอร์มดีต่อยดี คู่ชกก็ต้องมีชื่อชั้นหน่อย มันถึงจะสมศักดิ์ศรี และสมที่แฟนมวยจะเทใจเชียร์ให้
ย้อนกลับไปพูดถึง สุริยัน ส.รุ่งวิสัย เจ้าของเข็มขัดเส้นนี้คนเดิมหน่อยนะครับ เพราะก็ขึ้นเวทีอุ่นหมัดในรายการเดียวกันกับนักชกฟิลิปปินส์ที่มีสถิติชนะ 13 แพ้ 15 ปรากฏว่า สุริยัน เอาชนะคะแนนไปได้ ตลอดการชกเดินบดตามสไตล์ แต่โดนดักต่อยหน้าหงาย แถมมีอาการซึมให้เห็นในบางจังหวะด้วยซ้ำ แบบนี้หวาดเสียวหน่อย เพราะขนาดเจอนักมวยที่แพ้มากกว่าชนะ ยังโดนดักต่อยจนหยุดแบบนี้ ถ้าไปต่อจนเจอนักมวยมีระดับกว่านี้คงเหนื่อย ทีมงานต้องเจียระไนให้งามกว่านี้อีกเยอะกว่าจะพร้อมขึ้นลุ้นบัลลังก์โลกอีกครั้ง
ตอนนี้แฟนมวยชาวไทยก็คงพอจะยืดอกในเวทีโลกได้บ้าง เพราะพ้นสภาวะไร้แชมป์โลกแล้ว วันพุธที่ 8 พฤษภาคมนี้ ก็จะมีนักมวยไทยขึ้นสังเวียนชิงแชมป์โลกอีกคน คือ วิษณุ ก่อเกียรติยิม พบกับนักมวยชาวญี่ปุ่นเหมือนกันคือ คัตสึโตะ อิโอกะ เจ้าของฉายา “อิโอกะน้อย” แชมป์รุ่นไลต์ฟลายเวตของสมาคมมวยโลก งานนี้ วิษณุ ต้องเดินทางไปชิงถึงกรุงโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เสียดายที่ไม่มีการถ่ายทอดสดให้แฟนมวยได้เชียร์กัน ก็คงเพราะทีมงานและสปอนเซอร์เห็นว่าหวังได้น้อย แต่ถ้าเกิดพลิกโผขึ้นมาแฟนมวยไทยคงได้เฮกันยาวๆ
