“บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดใจหลังเดินทางถึงประเทศไทย ถึงสาเหตุการยกเลิกสัญญากับ “โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคม กุนซือของทีม ว่าเป็นเพราะก่อนหน้านี้มีผู้เล่นตัวหลักทั้งไทยและต่างชาติกว่าครึ่งทีม เดินทางมาขอร้องให้เปลี่ยนโค้ชใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง พร้อมยอมรับว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ตนเป็นคนวางแผนเปลี่ยนตัวผู้เล่นเองทั้งหมด
หลังจากที่ “โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคม ออกมาโยนระเบิดให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ตนโดนเด้งออกจากตำแหน่งว่าเป็นเพราะขัดแย้งกับ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร เรื่องการเปลี่ยนตัวผู้เล่นในระหว่างเกมแข่งขัน แม้ทีมเพิ่งจะสร้างผลงานผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2013 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรก็ตาม
ล่าสุดเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา “ทัพปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เดินทางกลับถึงมาตุภูมิเป็นที่เรียบร้อยด้วยสายการบินทีจี 657 ลงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยไร้เงาของกุนซือวัย 50 ปี ที่แยกตัวเดินทางกลับมาก่อน โดย “บิ๊กเน” ได้เปิดใจก่อนขึ้นเครื่องต่อไปดูไบในช่วงเช้า เพื่อดูพื้นสนามแข่งรถ ว่าสาเหตุสำคัญของเรื่องดังกล่าวคือโค้ชขัดแย้งกับนักเตะในทีม
“ปัญหาที่เกิดขึ้นสั่งสมมานานแล้วหลายเดือนตั้งแต่เปิดฤดูกาล มีนักบอลแกนหลักของทีมทั้งไทยและต่างชาติเกือบทั้งทีม เดินทางมาหาผมเพื่อขอให้ผมเปลี่ยนตัวโค้ช ไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ซึ่งผมก็หาทางประนีประนอมแล้ว แต่วันนี้ผมต้องตัดสินใจเลือกว่าระหว่างนักเตะทั้งทีม กับโค้ช 1 คน จะเลือกใคร ผมต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้บุรีรัมย์ และสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ โค้ชแต๊กจะหมดสัญญาอยู่แล้ว ผมจึงเลือกที่จะให้โอกาสเขาให้ออกจากทีมไปในช่วงที่ดีที่สุด แต่ไม่คิดว่าโค้ชแต๊กจะออกมาให้สัมภาษณ์ว่าขัดใจผม และพูดจาพาดพิงเด็ก ซึ่งเป็นการไม่ยุติธรรมกับเด็ก”
“ผมยอมรับว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ผมเป็นคนสั่งเปลี่ยนตัวผู้เล่น และไม่เคยปฏิเสธว่าผมเป็นเฮดของเฮดโค้ช ผมกำหนดตัวผู้เล่นเองและโค้ชเป็นเพียงผู้ช่วยผม แต่ทั้งนี้ไม่ใช่การแทรกแซง เพราะผลงานที่ออกมาทั้งหมดเป็นเพราะองค์ประกอบหลักของบุรีรัมย์ ไม่ใช่แค่โค้ชแต๊กเพียงคนเดียว ส่วน สก๊อตต์ คูเปอร์ ที่ตั้งเป็นกุนซือแทนนั้น ตอนแรกต้องการให้เป็น ผอ.อะคาเดมีทีม ซึ่งตอนนี้ขาดโค้ชจึงให้รักษาการไปก่อน แต่ถ้าไม่ผ่านโปรที่วางไว้ก็ต้องกลับไปตำแหน่งเดิม ส่วนโค้ชใหม่ก็ต้องรอลุ้นอีกที” นายใหญ่เซราะกราวเปิดใจ
