เอเยนซี - รอบแรกเพลย์ออฟศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ทีมที่มีสถิติดีกว่าในฤดูกาลปกติ ต่างประเดิมด้วยชัยชนะ สถานการณ์ทางฝั่งตะวันออก-ตะวันตกดูเหมือนตกอยู่ในมือแฟรนไชส์ที่ได้สิทธิ์ “โฮม-คอร์ต แอดแวนเทจ” อย่างไรก็ดี “บลีทเชอร์รีพอร์ต” สื่อแดนมะกันมองหาผู้เล่นซึ่งอาจเป็นปัจจัยเอ็กซ์ (X-Factor) สำหรับการสร้างเซอร์ไพรส์นำรองบ่อนพลิกล็อกใส่บรรดาทีมเต็ง
1.เจฟฟ์ กรีน (บอสตัน เซลติกส์)
แม้ไม่ได้ถูกเอ่ยถึงมากนักช่วงฤดูกาลปกติ ทว่าเข้าสู่เพลย์ออฟ เจฟฟ์ กรีน คือตัวแปรสำคัญของเซลติกส์ จากจุดเด่นที่ตะลุยถึงห่วงได้อย่างแข็งแกร่ง กอปรกับยิงวงนอกได้ดี จึงสร้างความลำบากแก่เกมรับฝ่ายตรงข้ามได้ไม่น้อย อีกทั้งการที่เล่นได้ทั้งตำแหน่ง พาวเวอร์ และสมอล ฟอร์เวิร์ด จึงมีสิทธิ์ชิงความได้เปรียบใต้แป้นจากการประกบผิดตัว (มิสแมทช์) และในยามที่ทีมไม่มี ราจอน รอนโด คอยจ่ายบอลให้ กรีน ต้องขึ้นมาช่วยงาน พอล เพียร์ซ กับ เควิน การ์เน็ตต์ ในการต่อกร นิวยอร์ก นิกส์ ที่นำมาโดย คาร์เมโล แอนโธนีย์ ซึ่งแฟนๆ บอสตันหวังว่าผู้เล่นวัย 26 ปีจะเครื่องติดต่อไป เพราะนับตั้งแต่ผ่านช่วงออล-สตาร์เบรก กรีน ทำเฉลี่ยถึง 17.3 แต้ม เลยทีเดียว
2.เนต โรบินสัน (ชิคาโก บูลส์)
“กระทิงเปลี่ยว” บูลส์ คงไม่เสี่ยงส่ง เดอร์ริค โรส ที่เพิ่งสลัดอาการบาดเจ็บเข่าลงสนามในซีซันนี้ ดังนั้นหน้าที่ในการทะลุทะลวงจึงตกอยู่กับ เนต โรบินสัน การ์ดร่างจิ๋วจอมพเนจร ซึ่งฤดูกาลปกติทำอย่างน้อย 22 แต้มถึง 8 เกม เมื่อใดที่ “เดอะ คริปโตไนท์” เข้าฝัก สามารถใช้ความคล่องตัวฝ่าตัวประกบเข้าถึงใต้แป้น หรือดึงจังหวะยิงสามแต้มได้ ยิ่งส่งผลประโยชน์กับทั้ง โยอาคิม โนอาห์, คาร์ลอส บูเซอร์ หรือว่า ลูออล เดง เมื่อเกมวงในร่วมกันต่อกรกับ บรูก โลเปซ เซ็นเตอร์ตัวความหวัง บรูกลิน เน็ตส์ ได้อย่างเห็นผล เหลือแต่ว่า โรบินสัน กับ เคิร์ก ไฮน์ริช จะชะลอ เดรอน วิลเลียมส์ การ์ดมือทองได้ดีแค่ไหน
3.เจฟฟ์ ทีก (แอตแลนตา ฮอว์คส)
ชื่อชั้นอาจเป็นรอง แอล ฮอร์ฟอร์ด หรือว่า จอช สมิธ ทว่า เจฟฟ์ ทีก เริ่มเปล่งประกายให้ทีมเห็นว่าสามารถฝากความหวังได้ (อาจยังไม่ใช่ฤดูกาลนี้) หลังทำคนเดียว 21 แต้ม 7 แอสซิสต์ แม้ทีมต้านทานความแม่นยำของ อินเดียนา เพเซอร์ส ไม่ไหวก็ตาม อย่างไรก็ดี การ์ดหนุ่มวัย 24 ปี เชื่อว่ายังมีของให้ปล่อยในซีรีส์เพลย์ออฟรอบแรก อย่างน้อยเพื่อมองหาสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งสตาร์จากมหาวิทยาลัยเวค ฟอเรสต์ ย่อมอยากได้ค่าจ้างเรตเดียวกับ ทาย ลอว์สัน, จรู ฮอลิเดย์ หรือว่า สตีเฟน เคอร์รี นี่จึงเป็นโอกาสทองให้ ทีค ได้พิสูจน์ตัวเองกับบอร์ดบริหารฮอว์คส
4.โอเมอร์ อาซิค (ฮุสตัน ร็อคเกตส์)
ร็อคเก็ตส์ ทำแต้มเฉลี่ยอันดับ 2 ของลีกในฤดูกาลปกติ แต่ปัจจัยที่จะผ่าน โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ รองแชมป์เก่าไปได้ ไม่ใช่การให้ เจมส์ ฮาร์เดน ชู้ตแลกหมัดกับเพื่อนเก่าอย่าง เควิน ดูแรนท์ หรือ รัสเซลล์ เวสต์บรูก อย่างเดียว เกมรับและเกมใต้แป้นต้องช่วยชะลอความร้อนแรงของรองแชมป์เก่าด้วย โอเมอร์ อาซิก เซ็นเตอร์ชาวเติร์ก ต้องใช้ส่วนสูง 7 ฟุต ข่มใส่ เคนดริก เพอร์กินส์ ให้มิด รวมถึงปิดเส้นทางไม่ให้ “เคดี” กับคู่หู (เวสต์บรูก) เข้าถึงห่วงได้ตามอำเภอใจ หากบีบให้ “โอเคซี” ต้องส่องระยะกลางถึงไกลบ่อยครั้งขึ้นเท่าไหร่ โอกาสพลิกล็อกของฮุสตัน ก็พอมีเพิ่มขึ้นเท่านั้น
5. แซ็ค แรนดอล์ฟ (เมมฟิส กริซซ์ลีย์ส)
แม้ไม่ใช่ผู้เล่นตัวใหญ่ที่ดีสุดในทีม ทว่าเมื่อใดก็ตามที่ “ซี-โบ” หันหลังดันตัวประกบใต้แป้น แล้วหมุนฮุคด้วยซ้ายข้างถนัด น้อยคนนักที่จะหยุด แซ็ค แรนดอล์ฟ ได้ ในซีรีส์ที่ตกเป็นฝ่ายตามหลัง แอลเอ คลิปเปอร์ส ฟอร์เวิร์ดร่างตันสูง 6 ฟุต 9 นิ้ว จำเป็นต้องไล่ทุบ เบล็ค กริฟฟิน ดาวรุ่งให้น่วมก่อน เมื่อใดที่วงในแสดงให้เห็นว่าต่อกรได้ ไมค์ คอนลีย์ กับ โทนี อัลเลน ก็พร้อมรุมใส่ คริส พอล การ์ดแม่ทัพคลิปส์ เมื่อนั้นโอกาสผุดขึ้นมาจากหลุมของ “เจ้าหมี” กริซลีย์ส หาใช่ไม่มีเสียเลย