เอเยนซี - เหลืออีกแค่ 10 เกม ฤดูกาลปกติของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ก็จะปิดฉากลง พร้อมกับได้ 16 ทีมจากทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก ตีตั๋วลุยยัดห่วงกันต่อช่วงเพลย์ออฟ นอกจากการฟันฝ่าไปให้ถึงโอกาสซิวแชมป์ “บีทเชอร์ รีพอร์ต” (bleacher report) สื่อดังแดนมะกันยังจับประเด็นที่เหล่าซุปตาร์แต่ละแฟรนไชส์ ยังมีเรื่องให้ต้องพิสูจน์ตัวเอง ไล่เรียงจากบรรทัดต่อจากนี้
1. โคบี ไบรอันท์ ฤาไม่ถึงขั้น “จอร์แดน”
เล่นในลีกมายาวนาน 17 ฤดูกาล ถูกยกย่องให้สืบตำนาน ไมเคิล จอร์แดน ทว่าด้วยอายุ 34 ปี กอปรกับอุปสรรคขวางหน้าเต็มไปหมดในซีซันนี้ โคบี ไบรอันท์ จึงถูก เลอบรอน เจมส์ แซงทางโค้งโดนมองว่าจะเทียบชั้น “เอ็มเจ” มากกว่าแล้ว ซึ่งการที่ เลเกอร์ส ต้องลุ้นหืดเกาะอันดับ 8 เข้าเพลย์ออฟ แถมรอบแรกมีสิทธิ์เจอกระดูกอย่าง ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส หรือ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ ดังนั้นโอกาสซิวแชมป์สมัยที่ 6 ของ โคบี อาจต้องรอไปก่อน แม้ผลงานเฉลี่ย 27 แต้ม ชู้ตฟิลด์โกลระดับ 48.6 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ จอร์แดน เลิกเล่นในวัย 35 ปี หลังกวาดแชมป์กับ ชิคาโก บูลส์ หลักครึ่งโหล
2. “ฮาวเวิร์ด-พอล” การันตีเจ๋งที่สุด ?
“ซูเปอร์แมน” ได้รับการยกย่องเป็น “เซ็นเตอร์” เบอร์ 1 ของลีก แต่การมาอยู่กับเลเกอร์ส ด้วยปัญหาบาดเจ็บติดตัวมาทำให้ ฮาวเวิร์ด ไม่สามารถขุนฟอร์มดั่งสมัยเล่นให้ ออร์แลนโด แมจิก ที่สำคัญแม้ค่าเฉลี่ยเพลย์ออฟอยู่ที่ 19.9 แต้ม 14.4 รีบาวนด์ ทว่าพอเข้าสู่โพสต์ซีซันทีไร มักบ้อท่าทุกทีแพ้ ดีทรอยต์ พิสตันส์ ในปี 2007-08 ส่วน คริส พอล การ์ดจ่ายที่ถูกมองว่าเก่งสุดของ NBA มาอยู่กับคลิปเปอร์ส แต่สถิติทำเฉลี่ย 20.5 แต้ม 10.1 แอสซิสต์ จะช่วยอีกหนึ่งทีมจากแอลเอ ได้แค่ไหน ในเมื่อเพลย์ออฟ “ซีพีทรี” (CP3) พาทีมชนะแค่ 14 แพ้ 20 เกม (รวมตอนเล่นให้ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เน็ตส์)
3. “ดูโอ” คู่ใหม่ซัดคลื่นลูกเก่า
ทิม ดันแคน เป็นแชมป์ NBA 4 สมัย ได้รับเลือกเป็น “ผู้เล่นทรงคุณค่า” (MVP) 3 สมัย ขณะที่ โทนี พาร์เกอร์ อายุแค่ 30 ปี กวาดมาแล้ว 3 แชมป์ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม “ดูโอ” ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นคู่หูดีสุดของลีก ทว่าการขึ้นไปลุ้น “แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี” อีกสมัย ถือเป็นบทพิสูจน์ความเก๋าเมื่อ เควิน ดูแรนท์ กับ รัสเซลล์ เวสต์บรูก เพื่อนซี้วัย 24 ปี พร้อมนำ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ ท้าทาย โดยมีเป้าหมายเป็นตัวแทนฝั่งตะวันตก 2 สมัยติด เพื่อเข้าไปถอนแค้น ไมอามี ฮีต ให้จงได้
4. “เมโลแมน” ตามรอย “คิงเจมส์” ?
ตลอดอาชีพการเล่น คาร์เมโล แอนโธนี พาต้นสังกัดเข้าเพลย์ออฟ 9 จาก 10 ปี แต่เข้าชิงแชมป์สายแค่หนเดียว ไม่สามารถช่วย เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ทีมเก่าถึงฝั่งฝันพ่าย เลเกอร์ส ปี 2009 ตอนนี้ “เมโลแมอ มาอยู่กับทีมใหญ่ นิวยอร์ก นิกส์ แม้สถิติทำเฉลี่ย 24.9 แต้ม 7.4 รีบาวนด์ แต่ภารกิจสำคัญเจอขวางลำโดย เลอบรอน ซึ่งก็เคยโดนหลายฝ่ายปรามาสครั้งโยกจาก คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส มาสู่แฟรนไชส์ใหญ่ที่ไมอามี ทว่าสุดท้าย “คิงเจมส์” พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นซุปตาร์ตัวจริงนำ ฮีต เถลิงแชมป์หนที่ 2 ในรอบ 7 ปี เมื่อซีซันก่อน
5. “การ์เนตต์-เพียร์ซ” แก่เกินแกง
คงไม่ต้องนำ เควิน การ์เนตต์ กับ พอล เพียร์ซ มาพูดเรื่องการพิสูจน์ตัวเองอีกแล้ว เพราะทั้งคู่ลุ้นมีชื่อเข้า “หอเกียรติยศ” (ฮอล ออฟ เฟม) เมื่อเลิกเล่น อย่างไรก็ดี เริ่มมีคำถามว่าดูโอคู่นี้แก่เกินแกงหรือยัง “เค.จี.” อายุ 36 ปี เฉลี่ย 20.4 แต้ม 10.5 รีบาวนด์ เพียร์ซ ก็ 35 ปีแล้ว เคยเป็น MVP รอบชิงปี 2008 ทำเฉลี่ย 21 แต้ม 6.4 รีบาวนด์ 3.9 แอสซิสต์ ในการเล่นเพลย์ออฟ 130 เกม ทว่า บอสตัน เซลติกส์ ยากต่อกร ฮีต ในยุคที่ยังมี เลอบรอน กับ ดีเวย์น เหว็ด นั่นหมายความว่าอาจต้องคิดถึงการสร้างทีมขึ้นมารายล้อม ราจอน รอนโด การ์ดแห่งอนาคต โดยจำต้องยอมลืมอดีตตำนานไป