“บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย เชื่อว่านายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะสามารถเข้ามาบริหารงานได้ เนื่องจากเคยทำงานใกล้ชิด ชุมพล ศิลปอาชา มาก่อน รวมทั้งอยากฝากเรื่องการเตรียมนักกีฬาไปแข่งซีเกมส์ที่เมียนมาร์ปลายปีนี้
หลังจากเมื่อวันที่ 2 เม.ย. เวลา 20.20 น.พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 9 สิงหาคม พุทธศักราช 2554 และประกาศครั้งสุดท้ายลงวันที่ 27 มกราคม พุทธศักราช 2555 โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำนายยุคล ลิ้มแหลมทอง และ นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันพุธที่ 3 เมษายน เวลา 17.00 น. ที่โรงพยาบาลศิริราช
ล่าสุด วัชระ กรรณิการ์ โฆษกประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เผยถึงนโยบายที่ทางนายบรรหาร ศิลปอาชา ต้องการสานต่อว่า “เรามีนโยบายเร่งด่วนสมัยที่นายชุมพล ศิลปอาชา ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ยังค้างคาอยู่มาก โดยเฉพาะโปรเจกต์สำคัญคือการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง (ฟอร์มูลาวัน) ซึ่งต้องการให้เป็นการแข่งขันที่ดีที่สุดของประเทศไทย รวมทั้งนโยบายสำคัญ เช่น การเตรียมนักกีฬาไปแข่งขันทั้งเอเชียนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงซีเกมส์ ที่ประเทศเมียนมาร์ จะต้องทวงความเป็นเจ้าเหรียญทองกลับคืนสู่ประเทศให้ได้อีกครั้ง”
ด้าน “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ได้เผยถึงรัฐมนตรีกีฬาคนใหม่เช่นกันว่า “ถือเป็นงานที่ท้าทายของคุณสมศักย์ แต่อดีตผู้ว่าฯ จ.สุพรรณบุรี เคยเป็นหนึ่งในบอร์ด กกท.สมัยที่ท่านชุมพล ดำรงตำแหน่ง จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหาการทำงานในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพราะรู้แนวทางการทำงานของอดีต รมต.กีฬาเป็นอย่างดี เชื่อว่าจะสามารถเข้ามาทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนนโยบายที่ยังค้างคาคือแผนเตรียมนักกีฬาไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ทั้งการอบรมผู้ฝึกสอนและการเตรียมความพร้อมนักกีฬา รวมถึงการเตรียมนักกีฬาไปแข่งซีเกมส์ ที่ประเทศเมียนมาร์ปลายปีนี้อีกด้วย”
สำหรับ นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ จบการศึกษาปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต ทางรัฐประศาสนศาตร์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี 2 สมัยตั้งแต่ปี 2549-2553, 2554-2555 และเคยเป็นกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย 2 สมัย เมื่อปี 2552, 2553 อีกด้วย