วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย ร่ายยาวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบายความในใจต่างๆติดต่อกัน 3 ข้อความ โดยมีใจความบางตอนระบุถึงสัญญาของเจ้าตัวที่มีกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยว่า จะหมดลงในปี 2014 ซึ่งขัดกับกระแสข่าวที่มีก่อนหน้า รวมถึงเปิดใจถึงระบบการเล่น และเตรียมเข้าพูดคุยกับทางสมาคมฯ เพื่อสร้างเยาวชน
เมื่อช่วยบ่ายวันที่ 26 มีนาคม 2556 วินฟรีด เชเฟอร์ หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย ออกโรงโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบายความในใจเช่นเคย โดยมีประเด็นหลังเกมที่ “ช้างศึก” บุกไปพ่าย เลบานอน 2-5 ในศึกเอเชียน คัพ 2015 รอบคัดเลือก นัดที่สอง ตลอดจนระยะสัญญาของตน และระบบการเล่น
โดยใจความบางตอนของ เชเฟอร์ มีข้อความดังนี้ “มีสองคำถามที่ผมถูกถามตลอดเวลา ผมเลยจะตอบไว้ที่นี่ คือ ทำไมไม่ใช้อีกระบบหนึ่ง ทำไมไม่ใช้วันทัชฟุตบอล ? ผมเข้าใจว่าทำไมคุณคิดอย่างนั้น แต่คุณต้องเข้าใจด้วยว่าคุณควรจะใช้ระบบที่นักกีฬารู้จัก เล่นได้ และมั่นใจ และคุณจะใช้ระบบใดระบบหนึ่งได้ก็ต่อเมื่อคุณมีนักกีฬาที่เหมาะสมกับระบบนั้น อย่างเช่นระบบ 4-4-2 นอกจากมุ้ย (ธีรศิลป์ แดงดา) แล้ว คุณต้องมีกองหน้า อีกคนที่ดีรองลงมา และหนึ่งในสองนั้นจะต้องเล่นตำแหน่งกองกลางได้ด้วยคือทั้งรักษาลูก ทั้งส่งลูก และวิ่งไปมาเยอะมาก สำหรับมุ้ยซึ่งเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่เก่งที่สุดที่เรามีตอนนี้ ก็ยังไม่เหมาะกับระบบนี้ และถ้าเราใช้ 4-4-2 มันจะทำให้เขาอ่อนแอมากกว่าแข็งแรงขึ้น”
“โดยรวมแล้ว ระบบจะต้องถูกสอนอย่างถูกต้องและถูกย้ำบ่อยครั้งจนกว่าผู้เล่นจะชำนาญ เพราะว่าอย่างที่ผมกล่าวไปแล้วว่าสิ่งที่อันตรายในการแข่งขันหนึ่งๆ ก็คือควาผิดพลาดของคุณเอง โค้ชทีมชาติไม่เคยมีเวลาเพียงพอในการฝึกฝนระบบใหม่ คุณมักจะต้องกลับไปใช้ระบบที่นักกีฬารู้จักดีอยู่แล้วอยู่เสมอ และนี่คือเหตุผลที่เราต้องการการพัฒนาในทีมรุ่นเล็กของเรา นักกีฬาต้องเรียนรู้ระบบต่างๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย การแข่งขันชิงถ้วยซูซูกินั้นไม่เหมือนเกมอื่น เรามีเวลาสองสามสัปดาห์ และคุณก็เห็นว่าเราเล่นกันได้ดี ระบบที่เรียกกันว่าวันทันฟุตบอลก็เหมือนกัน การส่งลูกอย่างรวดเร็วนั้นต้องอาศัยทักษะที่ดีมากในการควบคุมและส่งลูก แน่นอนว่าเราพยายามจะส่งลูกให้แม่นยำ ฉลาด และรวดเร็ว แต่คุณก็ได้เห็นความผิดพลาดของเราในการแข่งขันไปแล้ว เราส่งลูกผิดพลาด และคู่ต่อสู้ก็ได้ลูกไป…เราทุกคนพยายามทำดีที่สุด และนั่นก็หมายถึงว่าเราต้องยอมรับความจริงและเล่นในวิธีที่เราทำได้ ไม่ใช่เล่นในวิธีที่คนอยากเห็น”
พร้อมกันนี้ “วินนี” ได้เผยว่าตนยังมีสัญญาอยู่จนถึงปี 2014 “สัญญาของผมไม่ได้สิ้นสุดเดือนสิงหาคม และไม่ใช่เดือนธันวาคม แต่จะหมดตอนหลายปี 2014 ทั้งประธานและเลขาธิการยังไม่เคยคุยกับผมเรื่องการสิ้นสุดสัญญา ผมไม่ทราบว่าเลขาธิการพูดอะไรกับสื่อเกี่ยวกับการประชุมปลายเดือนนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาผมคุยกับเขาเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องภายในที่เกี่ยวข้องกับชาริล ชัปปุยส์ และการจัดการการเดินทางไปกาตาร์ และเบรุตของเรา และผมก็ไม่ได้คุยกับประธานมานานมากแล้ว เว้นแต่สองสามโอกาสที่คุยกันทางโทรศัพท์สั้นๆ และทั้งหมดก็เป็นการคุยเรื่องอื่นๆ”
“สิ่งที่เราต้องการก็คือขอบข่ายการทำงานที่แข็งแรงอย่างที่เราได้เห็นตอนแข่งขันชิงถ้วยซูซูกิ นั่นคือสิ่งที่ทุกทีมต้องมี ผู้รักษาประตู กองหลัง กองกลาง กองหน้า ในช่วงสัปดาห์หน้า ผมจะคุยกับนักกีฬาบางคนและคุยกับสมาคม และเราจะหาวิธีที่จะพัฒนานักกีฬาแต่ละคนและพัฒนาทีมโดยรวมด้วยกัน หลังจากผลการแข่งขันครั้งนี้ ผมอยากจะขอในเราสร้างสมาคมนักกีฬารุ่นเยาว์มืออาชีพอย่างจริงจัง และใช้โอกาสนี้ในการร่วมมือกับสมาคมฟุตบอลเยอรมัน (DFB) ในการพัฒนาการเล่นของนักกีฬารุ่นเยาว์ของเราที่ประเทศไทย และไม่ใช่เฉพาะนักกีฬาในสมาคมใหญ่ๆ เท่านั้น แต่ต้องรวมถึงสมาคมเล็กๆ ด้วย”