xs
xsm
sm
md
lg

พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ปฏิรูปกีฬาไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มนตรี ไชยพันธ์
ASTVผู้จัดการรายวัน - หากติดตามข่าวสารวงการกีฬาไทยในรอบหลายปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีปัญหาหลายประการที่เกิดขึ้นกับหลายสมาคมกีฬา โดยเฉพาะเรื่องความขัดแย้งของกลุ่มต่างๆ ภายในสมาคมกีฬา และไม่สามารถหาข้อยุติได้จนต้องมีการเรียกร้องให้การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท.ยื่นมือเข้าสางปัญหา ทว่าด้วยอำนาจหน้าที่ทางกฎหมายที่ล้าหลังทำให้ไม่อาจสะสางได้โดยตรง ส่งผลสะเทือนถึงการเตรียมทีมนักกีฬาจนเป็นเรื่องราวบานปลายในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยที่ปัญหายุติไปแล้ว หรือสมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทยที่ยังคงความขัดแย้งกันได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย

โดยปัญหาที่เกิดจากการบริหารงานภายในสมาคมกีฬาที่ กกท.ไม่อาจยื่นมือเข้าสางปัญหาได้เนื่องจากติดขัดในเรื่องตัวบทกฎหมาย ส่งผลให้มีความพยายามผลักดันพระราชบัญญัติกีฬาฉบับใหม่เข้ามาใช้แทนของเดิม ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนเตรียมการเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ซึ่งเนื้อหาหลักๆ เป็นการปรับเปลี่ยนให้สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยที่เคยจดทะเบียนกับกรมการปกครอง จะต้องขึ้นทะเบียนกับการกีฬาแห่งประเทศไทย จึงทำให้การตัดสินข้อพิพาทต่างๆ ของสมาคมกีฬาขึ้นตรงต่อการกีฬาแห่งประเทศไทยเพียงผู้เดียว

ซึ่งหนึ่งในผู้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวโดยตรงอย่าง นายมนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย แสดงความเห็นสนับสนุน “พ.ร.บ.กีฬา” ฉบับใหม่ว่า “การปรับปรุงพระราชบัญญัติกีฬา พ.ศ.2528 จะช่วยให้การทำงานของการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานโดยตรงด้านการกีฬาอยู่แล้วบริหารงานได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องขึ้นตรงกับหน่วยงานอื่นๆ อย่างเช่น สมาคมกีฬาจะต้องมาจดทะเบียนกับกรมการปกครอง ซึ่งเป็นของกระทรวงมหาดไทย จึงติดปัญหาที่ กกท.ไม่สามารถเข้าไปจัดการได้ หากว่า พ.ร.บ.กีฬา ผ่านสภาฯ มีการประกาศใช้เรียบร้อย จากนี้ปัญหาน้อยใหญ่ภายในสมาคมกีฬาต่างๆ หากไม่สามารถจัดการภายในสมาคมกีฬาได้ กกท.จะมีบทบาทในการแก้ปัญหาได้โดยไม่ติดข้อกฎหมายแต่อย่างใด”

“ทั้งนี้การฟ้องร้องกรณีพิพาทต่างๆ สามารถจะมาจบที่ กกท.ที่เดียว ถือเป็นความสะดวกต่อสมาคมกีฬาและนักกีฬาด้วย อย่างไรก็ตามกฎหมายหลายฉบับที่มีความผิดในเรื่องที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่น อย่างเช่น การพนัน ต้องขึ้นอยู่กับ พ.ร.บ.การพนัน หรือนักกีฬาใช้สารต้องห้าม ก็ต้องขึ้นอยู่กับ พ.ร.บ.สารต้องห้ามในนักกีฬา ซึ่ง กกท.จะเป็นผู้ดูแลภาพรวมของการพิจารณาความผิด มิใช่การเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว โดย กกท.ยังได้งบประมาณเพิ่มจากภาษีบาป คือ สุราและบุหรี่ อีก 2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อนำมารวมกับงบประมาณเดิมที่มีอยู่ก็ทำให้รวมเบ็ดเสร็จอาจมีจำนวนเงินถึงหนึ่งหมื่นล้านบาท ทำให้นำงบประมาณไปพัฒนาวงการกีฬาไทยต่อไปได้อีกด้วย” รองผู้ว่าฯ กกท.ร่ายยาว

ด้าน “เจ๊มล” นางนฤมล ศิริวัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดัน พ.ร.บ.กีฬา มาอย่างต่อเนื่อง กล่าวแสดงความเห็นว่า “ที่ผ่านมาพยายามผลักดัน พ.ร.บ.กีฬา มาตั้งแต่สมัยเป็นประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เพื่อนำเข้ารัฐสภาโดยตลอด และ พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้มีประโยชน์มากในเรื่องเนื้อหาที่ครอบคลุมทั้งอำนาจหน้าที่, การเลือกตั้งสมาคมกีฬาต่างๆ, กระบวนขั้นตอนการพิจารณาข้อเรียกร้องนักกีฬา และสวัสดิการนักกีฬาที่เลิกเล่นไปแล้ว ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ยอมรับว่ามีหลายท่านที่ยังไม่มีความรู้เรื่องนี้ จึงอยากให้มีการอบรมให้ความรู้ทั้งสมาคมกีฬา สื่อมวลชน เพื่อกระจายความรู้ให้ทราบโดยทั่วกัน จะได้ทราบว่า พ.ร.บ.กีฬา ฉบับนี้มีความน่าสนใจอย่างไร”

ขณะที่ นายสุรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา นายกสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวสนับสนุนด้วยเช่นกันว่า “ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับการผลักดัน พ.ร.บ.กีฬา ฉบับนี้ ในเรื่องการจดทะเบียนสมาชิกที่ขึ้นตรงต่อ กกท.เพียงผู้เดียว รวมทั้งคุ้มครองนักกีฬาที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการฟ้องร้องเกิดขึ้นได้ในภายหลัง”

เช่นเดียวกับ ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “หาก พ.ร.บ.กีฬาฉบับนี้ผ่านออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้ได้ จะถือเป็นการปฏิรูปวงการกีฬาในประเทศไทยอย่างแท้จริง ซึ่งผมเห็นว่าเป็นผลดีต่อทุกสมาคมกีฬาอยู่แล้ว และให้ทุกสมาคมกีฬาปฏิบัติในบรรทัดฐานเดียวกัน”
เจ๊มล นฤมล ศิริวัฒน์
เหล่าคนกีฬาจะได้รับประโยชน์จากพ.ร.บ.กีฬาใหม่
กำลังโหลดความคิดเห็น