เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ ลงนามรับรองกฎหมายขึ้นภาษียาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ วันนี้ (20) โดยชี้ว่าเป็นการปลดปล่อยพลเมืองจากการตกเป็นทาสของบุหรี่และเหล้า และถือเป็นของขวัญเทศกาลคริสต์มาสแก่ชาวฟิลิปปินส์ด้วย
อากีโน ซึ่งเป็นคนสูบบุหรี่เช่นกันกล่าวว่า กฎหมาย “ภาษีบาป” ถือเป็นชัยชนะเหนือกลุ่มธุรกิจยาสูบ และช่วยให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มเติมเพื่อนำไปปรับปรุงบริการสาธารณสุขและระบบสาธารณูปโภคอื่นๆให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“ฝ่ายศัตรูมีอิทธิพลสูง เสียงดัง มีการรวมกลุ่ม และมีเงินทุนหนา... แต่อย่างที่ผมเรียนไปแล้วว่า ไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งชาวฟิลิปปินส์ซึ่งกำลังเดินไปในทางที่ถูกที่ควรได้” อากีโนกล่าวระหว่างพิธีลงนามรับรองกฎหมายขึ้นภาษีบาป วันนี้(20)
รามอน คารันดัง โฆษกประจำตัวประธานาธิบดี ระบุว่า การขึ้นภาษีบาปจะช่วยให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 33,000 ล้านเปโซ (ราว 24,500 ล้านบาท) ในปี 2013 และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในอนาคต
อากีโนแถลงว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์เมื่อปี 1997 เคยเรียกร้องให้สภาขึ้นภาษีสินค้าบาป เช่น บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทว่านโยบายนี้เพิ่งจะผ่านความเห็นชอบจากสภาในปี 2004 ท่ามกลางเสียงคัดค้านของกลุ่มธุรกิจยาสูบซึ่งมีอำนาจต่อรองสูง
กลุ่มล็อบบี้ยิสต์ที่ว่านี้ยังรวมถึง ส.ส.จากจังหวัดซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกยาสูบ รวมถึงผู้ผลิตยาสูบรายใหญ่ในฟิลิปปินส์ที่เสียภาษีให้รัฐน้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กรุงมะนิลาแถลงว่า ฟิลิปปินส์มีอัตราการสูบบุหรี่สูงสุดในภูมิภาค และโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากบุหรี่ก็ทำให้รัฐสิ้นเปลืองงบประมาณไปถึง 177,000 ล้านเปโซ (ราว 131,000 ล้านบาท) ในปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี อากีโนยืนยันว่าเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีอย่างแน่นอน ทว่าไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
การขึ้นภาษีบุหรี่และแอลกอฮอล์ถือเป็นมาตรการเพิ่มรายได้หลักของรัฐบาล เพื่อให้สอดคล้องกับแผนงบประมาณปี 2013 มูลค่า 2.005 ล้านล้านเปโซ ซึ่งอากีโนลงนามรับรองไปเมื่อวานนี้ (19) และยังเป็นชัยชนะในสภาครั้งที่ 2 ของอากีโน หลังจากสามารถผลักดันกฎหมายคุมกำเนิดจนสำเร็จ แม้จะถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากคริสตจักรคาทอลิกในฟิลิปปินส์ก็ตาม
สำหรับกฎหมายขึ้นภาษีบาปจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม ปี 2013